คุยกับคนข่าว "แบงค์ พบเอก" ผู้ประกาศคลื่นลูกใหม่ จากช่อง MONO29

คุยกับคนข่าว "แบงค์ พบเอก" ผู้ประกาศคลื่นลูกใหม่ จากช่อง MONO29

คุยกับคนข่าว "แบงค์ พบเอก" ผู้ประกาศคลื่นลูกใหม่ จากช่อง MONO29
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รู้จัก พบเอก พรพงเมตตา ผู้ประกาศสายเลือดใหม่จากช่อง MONO29 ที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขามาตั้งแต่ยังเป็นเด็กฝึกงานในรายการนิวส์ไลน์ ช่อง 11 จากความคิดที่อยากท้าทายและค้นหาตัวเอง ทำให้เขามีโอกาสไปฝึกงานในหลายบริษัท จนเมื่อมาเจองานด้านสื่อสารมวลชนทำให้ตกหลุมรักการทำงานด้านนี้เข้าอย่างจัง

ขณะที่เมื่อเห็นประกาศสมัครเป็นผู้ประกาศข่าวทางช่อง MONO29 เมื่อหลายปีก่อน เขาตัดสินใจตามฝันจนผ่านการคัดเลือกได้เข้ามาเป็นผู้ประกาศข่าวเต็มตัว ช่วงแรกเก็บประสบการณ์กับอ่านข่าวภาคภาษาอังกฤษ ก่อนที่จะค่อยๆ พัฒนาความสามารถ จนกลายมาเป็นผู้ประกาศข่าวช่วงไพร์มไทม์ของช่อง ในรายการเรื่องเด่นประเด็นดัง ที่ล่าสุดปรับโฉมใหม่ ออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 17.40-18.00 น.

 

ตอนเรียนมหาวิทยาลัยลัยทราบว่าคุณทำงานพาร์ทไทม์ที่นิวส์ไลน์ รายการข่าวภาคภาษาอังกฤษ คุณมีโอกาสทำงานนี้ได้อย่างไร

ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยมีพี่เพื่อนคนหนึ่งเป็นโปรดิวเซอร์อยู่ที่รายการนิวส์ไลน์ ช่อง 11 ก็เลยถามเขาว่าที่นี่รับนักศึกษาฝึกงานไหม เราอยากจะไปฝึกงานเอง เพราะการฝึกงานไม่ได้อยู่ในข้อบังคับของมหาวิทยาลัย แต่ที่อยากไปลองทำงาน เพราะตอนเรียนไม่แน่ใจว่าอยากเป็นอะไรกันแน่ สาขาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศที่ผมเรียน มันค่อนข้างกว้าง ซึ่งเราก็ยังไม่แน่ใจว่าจบมาแล้วจะทำงานเกี่ยวกับอะไร

ตั้งแต่ปี 2 ก็ไปหาฝึกงานเองโดยที่ไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย อย่างปี 2 ก็ไปฝึกงานเป็นโบรกเกอร์ แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ใช่ พอปี 3 ก็เลยลองมาทำงานที่นิวส์ไลน์ ซึ่งเป็นการฝึกงานของผมเป็นแบบไม่มีรายได้ อยากมาทำเอง ศึกษาดูเอง ซึ่งพี่ๆ เขาก็ยินดี สอนแต่ตั้งเริ่มเลย

“ถ้าไม่อยากตื่นมาทำงานเลยตอนเช้า จะรู้แล้วว่ามันไม่ใช่ แต่พอมาทำงานด้านข่าว มันไม่ใช่แบบนั้น มันรู้สึกตื่นเต้น วันนี้จะทำอะไรต่อ จะมีอะไรให้ได้ศึกษาบ้างนะ เราจะได้ไปไหน งานข่าวมันจะได้ทำอะไรหลากหลายและแตกต่าง”

แล้วคุณเข้ามาเป็นนักข่าวเต็มตัวที่ MONO29 ได้อย่างไร

พอดีมีรุ่นพี่คนหนึ่งเขามาทำงานที่ MONO29 ตอนนั้นเขาเปิดทีวีดิจิตอลพอดี ก็ทราบข่าวว่ากำลังรับสมัคร ก็เลยมาลองดู มาออดิชั่นก็หลายรอบเหมือนกัน ตอนนั้นเขาเห็นเราพอใช้ภาษาอังกฤษได้ ก็เลยให้ทำรายการ มิดไนท์ รีพอร์ท เป็นรายการข่าวต่างประเทศโดยเฉพาะก็เริ่มพัฒนาจากตอนนั้นมาเรื่อยๆ

“เทสอ่านข่าวเข้ารายการจริง อ่านคนเดียวเป็นยังไง อ่านกับคนอื่นเป็นอย่างไร คนที่หนึ่งเป็นยังไง คนที่สองเป็นยังไง คนที่สามเป็นอย่างไร จับคู่ไปเรื่อยๆ ออดิชั่นหลายรอบมากกว่าจะได้ลงสนามจริง”

ช่วยเล่าความรู้สึกวันแรกของการอ่านข่าวที่ MONO29 ให้ฟังหน่อย

ตื่นเต้นมาก เพราะวันแรกที่เป็นการอ่านข่าวภาษาไทย ซึ่งผมเนี่ยฝึกงานก็จะเป็นข่าวภาษาอังกฤษหมดเลย เราเป็นคนไทย พูดภาษาไทย แต่การอ่านข่าวภาษาไทย กับการพูดในชีวิตประจำวันมันไม่เหมือนกัน วันนั้นก็คือ ตื่นเต้นมาก แต่พี่ๆ ทีมงานให้กำลังใจ ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูด เราก็ค่อยๆ ทำสมาธิและก็ทำให้ดีที่สุด

“ช่วงแรกๆ เรื่องใหญ่ที่สุดคือเรื่องภาษา เพราะว่าตอนเรียนปริญญาตรีก็เรียนอินเตอร์ จบมาไปเรียนแลกเปลี่ยนไปที่อังกฤษอีกมันก็เลยใช้บ่อย แต่พอต้องมาใช้ภาษาไทยเวลาการพูดบางคำมันจะติด เชอร์ๆ เหมือนพูดคนอังกฤษ คำก็ต้องปรับกันเยอะทีเดียวช่วงแรกๆ”

คุณรู้สึกอย่างไรบ้างที่จู่ๆ ภาพของคุณก็ถูกแชร์ และพูดถึงในฐานะนักข่าวหน้าตาดี

ตกใจ บางทีก็เป็นรูปเรานานมากแล้ว เราลงในไอจีตั้งแต่สมัยยังผอมอยู่เลย พอไปอ่านคอมเมนต์ก็ดีใจที่คนติดตามผลงาน จริงๆ จะดีใจมากที่มีคอมเมนต์ว่าติดตามผลงานเราอยู่

ก่อนผู้ชมจะได้เห็นคุณจะรายงานข่าว เบื้องหลังคุณต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

การเตรียมตัวของผู้ประกาศข่าวน่าจะขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะครับ อย่างบางคนมีประสบการณ์มากหน่อย ก็อาจจะใช้เวลาไม่ต้องเยอะมาก แต่ของผมจะพยายามไปก่อนเวลาค่อนข้างเยอะ เพราะว่าอยากจะเตรียมข่าวด้วย แล้วตอนนี้รูปแบบการทำเป็นข่าวเย็น เราไปถึงประชุมกันตั้งแต่บ่ายโมง เริ่มประชุมมีทีมงานที่จะขึ้นบอร์ดเลยว่า ข่าววันนี้มีประเด็นอะไรบ้าง และเราก็นั่งเลือกกันเลย

“ลากประเด็นนี้ลง ลากประเด็นนี้เข้ามา ตรงนี้มีภาพไหม ในกลุ่มไลน์ก็คุยกันแทบจะตลอดเวลา เห็นข่าวอะไรน่าสนใจก็จะส่งกันมา เพราะฉะนั้นใช้เวลาเตรียมตัวค่อนข้างนานเหมือนกัน”

สไตล์การอ่านข่าวของคุณเป็นแบบไหน อะไรคือจุดเด่นของ แบงค์ พบเอก 

คิดว่าจุดเด่นน่าจะเป็นการใช้ภาษาอังกฤษได้ดี เพราะฉะนั้นเวลามีข่าวด่วนเข้ามา ต่อให้เป็นข่าวต่างประเทศหรืออะไรก็ตามก็จะสามารถแปลได้ทันที เป็นคนที่พยายามตามข่าวอยู่ตลอด เวลาจะอ่านข่าวจะใช้เวลาในการเตรียมตัวค่อนข้างเยอะ

ในความคิดของคุณ ผู้ประกาศข่าวที่ดี ควรมีทักษะอะไรบ้าง

แน่นอนครับทักษะการพูด อักขระต่างๆ ต้องพูดให้ชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการฝึกฝน การเป็นผู้ประกาศต้องมีความชอบในข่าว แต่ละคนจะมีแนวทางเสพข่าวไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะชอบบันเทิง บางคนอาจจะชอบการเมืองมากกว่า อย่างน้อยเราต้องจับจุดของเราให้ได้ว่าเราชอบข่าวประเภทไหน ถ้าเกิดเราจับจุดได้แล้ว ก็ทำให้ตรงนั้นเป็นจุดเด่นของเรา เรื่องที่เรารู้เล่าเราจะมีคลังข้อมูลเยอะมาก สามารถดึงมาใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นย่อ หรืออธิบายเพิ่มเติม

“หลายปีก่อนทำข่าวต่างประเทศ เพราะฉะนั้นพื้นหลังข่าวต่างประเทศจะแน่นพอสมควร ตอนนี้ก็พัฒนาความรู้เรื่องข่าวไทย ข่าวตอนนี้ที่ชอบเป็นข่าวสังคม ข่าวที่กระทบถึงประชาชนจริงๆ รวมถึงเรื่องการเมืองก็ติดตามอยู่  ในรายการเรื่องเด่นประเด็นดัง จะครอบคลุมแทบจะทุกข่าว อะไรที่กำลังเป็นประเด็นทางสังคมเราจะจะพยายามเก็บให้หมด”

การที่คุณไม่ได้เรียนด้านนิเทศศาตร์โดยตรงคิดว่ามีผลงานต่อการทำงานไหม

คนที่เรียนนิเทศฯ ยังไงก็ต้องได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว  อย่างง่ายๆ คนที่เรียนนิเทศศาสตร์สอบใบผู้ประกาศเขาก็จะได้เปรียบแล้ว เพราะว่าเขาไม่ต้องเริ่มเรียนขั้นต้น ไปเริ่มที่ขั้นกลาง ขั้นสูงเลย แต่คนที่ไม่ได้เรียนก็ต้องไปเริ่มใหม่ คนที่ไม่ได้เรียนมาตรงสายก็ต้องพยายามวิ่งตามนิดหนึ่ง พยายามฝึกฝนตัวเองให้มากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้ เพราะถึงแม้ว่าเราจะช้ากว่าเขาหน่อยแต่ทุกอย่างเรียนรู้ได้อยู่แล้ว

คุณมีผู้ประกาศข่าวที่ชื่นชอบ หรือยกเป็นไอดอลไหมครับ

ไม่มีเป็นบุคคล ส่วนใหญ่จะชื่นชมกว้างๆ มากกว่า จะใช้ลักษณะครูพักลักจำ ก็คือเห็นสไตล์ใคร เราว่าเราชอบแบบ แนวนี้ แบบนี้น่าจะเข้ากับเราก็ลองเอามาฝึกฝนว่าเราสามารถทำแบบนี้ได้ไหม เทคนิคต่างๆ ที่เขาใช้เราสามารถนำมาปรับใช้ได้บ้างหรือเปล่า ส่วนใหญ่ก็จะได้รับคำแนะนำดีๆ จากพี่ๆ ที่อ่านข่าวด้วยกันมากกว่า

สำหรับการทำงาน ถ้าให้คุณให้คะแนนตัวเอง (เต็ม 10 ) คุณให้เท่าไหร่ เพราะอะไร

ขอให้ 8 แล้วกันครับ ที่ผ่านมาก็ทำได้ดีในระดับหนึ่งเรา พยายามพัฒนา ฝึกฝน  ใช้เวลากับมันค่อนข้างเยอะ แต่ก็รู้ว่ายังมีช่องว่างอีกเยอะให้เราพัฒนา หลังจากนี้ก็คงพยายามพัฒนาฝึกฝนตัวเองต่อไป โดยเฉพาะในรายการเรื่องเด่นประเด็นดัง

เป้าหมายสูงสุดของการทำอาชีพผู้ประกาศข่าวสำหรับคุณอยู่ตรงไหน

จริงๆ ชอบอันนี้มากเลย อย่างปี 2015 มันมีคำถามที่คนชอบถาม คุณมองตัวเองในอีก 5 ปีอย่างไร  หลายคนก็คงไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องมาติด Quarantine ในปีนี้ ผมเลยไม่ค่อยเป็นคนที่วางแผนว่าภายใน 3 ปี 5 ปี ฉันจะต้องเป็นแบบนั้น แต่ว่าวางแผนว่าเรากำลังรักในสิ่งที่เราทำ ณ ตอนนี้ ก็อยากจะพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วก็หวังว่าวันหนึ่งเราจะกลายไปเป็นคนหนึ่งที่โดดเด่นในวงการข่าว

“ไม่ได้มองเรื่องระยะเวลา อยากให้คนดูเข้าใจกับข่าวที่เราเล่า อินกับสไตล์การเล่าข่าวของเรา อย่างส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบรายงานข่าวแบบเนื้อไม่ชอบน้ำเท่าไหร่ เป็นเพราะอาจจะติดมาจากข่าวต่างประเทศ เพราะว่าข่าวต่างประเทศมันใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร รายการเลยไม่จะไม่มีน้ำเยอะ เพราะฉะนั้นสไตล์การอ่านข่าวไทยผม จะชอบที่บอกมาเลยว่ามันเป็นยังไง”

ความสนุกของการทำงานด้านข่าวอยู่ตรงไหน

สำหรับผมนะเราทำผลงานออกมาได้ดี เราเล่าเรื่องออกมาได้น่าสนใจ แล้วคนดูเข้าใจกับข่าวของเรา ผมว่าสิ่งนั้นจะทำให้ผมพอใจ ผมว่าผมทำหน้าที่ของผู้ประกาศข่าวได้สมบูรณ์

สำหรับบทบาทอาจารย์พิเศษ งานนี้ให้อะไรกับคุณบ้าง

เมื่อก่อนสอนวิชาภาษาอังกฤษ ที่คณะนิเทศศาสตร์  มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ตอนนี้สอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนที่ผมกับแฟนกำลังทำกันอยู่ ในอนาคตอันใกล้ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพูดคุยกับมหาวิทยาลัยมหิดล ภาคอินเตอร์

“ผมรู้สึกว่าเด็กรุ่นใหม่เก่งนะ คลื่นลูกใหม่ยังไงก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว เขาจะหัวไว เข้าใจเทคโนโลยี เรื่องข่าวบางเรื่องเขารู้เร็วกว่าเราอีก แล้วรู้ลึกกว่าเราด้วยซ้ำ”

ถึงแม้จะทำงานเกือบทุกวัน และต้องทำงานอื่นๆ ในวันหยุดควบคู่ไปด้วย แต่สำหรับผู้ชายคนนี้เขาบอกกับ Sanook Men ว่า การทำงานหลายอย่างมันทำให้ตัวเอง แอคทีฟและได้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook