เคล็ดลับกู้หน้าสิวให้เป็นหน้าใสกับครีมรักษาสิวตัวเด็ดที่ไม่อยากให้พลาด!

เคล็ดลับกู้หน้าสิวให้เป็นหน้าใสกับครีมรักษาสิวตัวเด็ดที่ไม่อยากให้พลาด!

เคล็ดลับกู้หน้าสิวให้เป็นหน้าใสกับครีมรักษาสิวตัวเด็ดที่ไม่อยากให้พลาด!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ต้องยอมรับว่าด้วยไลฟ์สไตล์หนักๆ ตามประสาผู้ชายที่ต้องเจอกับฝุ่นควัน เหงื่อไคล และกิจกรรมมากมาย ประกอบกับยังมีฮอร์โมนเพศชายที่ทำหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตและการสร้างไขมันที่มากกว่าผู้หญิง ถ้ากำจัดไม่ทันหรือไม่มีการทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่อย่างถูกวิธี ทั้งหมดก็จะอุดตันและกลายเป็นสิวให้หนักใจในที่สุด ซึ่งเมื่อผู้ชายเป็นสิว บอกเลยว่ามันจะกลายเป็นปัญหาหนัก ต่อเนื่อง และยาวนาน ยิ่งถ้าไม่รีบดูแลให้ถูกวิธี พอยุบก็จะทิ้งรอยดำรอยแดงจากสิวหรือรอยแผลเป็นไว้ให้หงุดหงิดต่ออีก พอใช้ครีมลดรอยสิวได้สักพักสิวก็กลับมาขึ้นซ้ำๆ เป็นวงจรไม่สิ้นสุดสักทีด้วยเหตุนี้ SANOOK จึงขอหาทางพิชิตสิวทุกประเภทด้วยการทดลองใช้ครีมทาสิว ครีมแต้มสิวที่ขึ้นชื่อว่าดี และนี่คือครีมรักษาสิวตัวเด็ดที่เราคัดมาแล้วว่ากู้หน้าสิวให้เป็นหน้าใสไร้สิวอุดตัน

1. Eucerin Pro ACNE SOLUTION A.I. Matt Fluid (50ml. ราคา 990 บาท)

ครีมลดรอยสิว_Eucerin Pro ACNE_01 ครีมลดรอยสิว_Eucerin Pro ACNE_01

          ถือเป็นทีเด็ดที่ต้องยกให้เป็นอันดับหนึ่งเลยทีเดียวกับครีมลดรอยสิว  Eucerin Pro ACNE SOLUTION A.I. Matt Fluid  ที่เหมาะสมกับทุกสภาพผิวไม่ว่าจะเป็นขาลุยกิจกรรมกลางแดด ออกกำลังกาย หรือจะเป็นคอเกมที่อยู่ในร่ม ตัวครีมมาในรูปแบบของมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดปัญหาสิวอุดตัน อย่างแรกเลยที่รู้สึกทันทีหลังจากสัมผัสเนื้อครีมคือความบางเบาที่ไม่ทิ้งความหนักและเหนอะไว้บนหน้า เมื่อแต้มลงบนผิวรู้สึกได้เลยว่าเนื้อครีมเข้าเคลือบผิวและทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นในทุกสภาพผิว ผลจากการลองใช้อย่างต่อเนื่องพบว่าสิวอักเสบ และสิวอุดตันค่อยๆ ลดลง และเมื่อสิวหายก็ไม่ทิ้งรอยดำรอยแดงจากสิวไว้ให้เป็นปัญหาต่อเนื่อง ที่สำคัญนอกจากจะช่วยดูแลผิวยังช่วยคุมมันต่อเนื่องได้นานถึง 8 ชั่วโมง ทำให้ช่วงที่ใช้หน้าดูสว่างใส หน้าไม่มันยาวนานตลอดทั้งวัน

          สำหรับส่วนผสม Eucerin Pro ACNE SOLUTION A.I. Matt Fluid มาพร้อมกับ Salicylic Acid ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดสิวอุดตันโดยตรง อีกทั้งยังมี Licochalcone A ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิว ลดรอยดำรอยแดงจากสิว ซึ่งมีงานวิจัยว่าส่วนผสมนี้ช่วยลดการอักเสบได้เทียบเท่าสเตียรอยด์ แต่ไม่เป็นอันตราย และไม่ทำให้ผิวหน้าบางลงจนผิวระคายเคืองและแพ้แสงแดดง่าย จึงมั่นใจได้ว่าสามารถใช้ได้ทุกวัน ก่อนจะปิดท้ายด้วยอีกส่วนผสมสำคัญอย่าง Carnitine ที่จะช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าโดยเฉพาะ ทำให้เหมาะกับผิวคนเอเชียที่ต้องผจญกับแดดและฝุ่นควันตลอดทั้งวันมากๆ  ซึ่งด้วยส่วนผสมที่ครบเครื่องขนาดนี้ บอกเลยว่าขวดเดียวจบ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ผู้ชายสุดๆ เพราะนอกจากจะช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ยังช่วยดูแลเรื่องสิว และรอยจากสิวโดยที่ไม่ต้องใช้หลายตัวให้วุ่นวาย

2. BIODERMA Sébium Sensitive (30ml. ราคา 890 บาท)

ครีมลดรอยสิว_BIODERMA Sébium Sensitive_01ครีมลดรอยสิว_BIODERMA Sébium Sensitive_01

         เป็นอีกตัวที่บอกเลยว่าคุ้มค่าที่จะลอง เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มรักษาสิวเหมาะกับสภาพผิวที่เป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ อีกทั้งยังเคลมชัดเจนว่าเป็นครีมลดรอยสิวได้เพราะมาพร้อมคุณสมบัติสำคัญช่วยลดการเกิดสิวและรอยดำรอยแดงจากสิวให้จางลง พร้อมยังคืนความชุ่มชื่นให้ผิวยาวนาน 12 ชั่วโมง โดยที่ไม่ทำให้ผิวดูมันเยิ้ม ซึ่งในช่วงทดลองใช้พบว่า BIODERMA Sébium Sensitive ช่วยลดปัญหาสิวเม็ดเล็กๆ ได้อย่างดี

3. SMOOTH E Acne Hydrogel (10g. ราคา 215 บาท)

ครีมลดรอยสิว_SMOOTH E Acne Hydrogel_01ครีมลดรอยสิว_SMOOTH E Acne Hydrogel_01         SMOOTH E Acne Hydrogel มีส่วนผสมของ Maximum Strength ที่จะช่วยรักษาสิวได้ และยังผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าทำให้สิวยุบได้แบบไม่ทำร้ายผิว แต่ตัวหลอดสีขาวตัวนี้จะเหมาะกับสิวอักเสบที่มีหัวเท่านั้น โดยเมื่อทาลงไปบนผิวเนื้อครีมจะเปลี่ยนสภาพเป็นฟิลม์บางๆ ปกคลุมผิวหนังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นโดยไม่เกิดความมัน

4. Clinda M (69 บาท)

ครีมลดรอยสิว_Clinda M_01ครีมลดรอยสิว_Clinda M_01

          ส่วนผสมสำคัญของยารักษาสิวตัวนี้คือ Clindamycin Hydrocloride ที่จะตรงเข้ากำจัดเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดสิว ทั้งสิวหนอง สิวผด และสิวอักเสบ ซึ่งเมื่อได้ทดลองพบว่าตัวนี้ทำให้สิวแห้งไว และลดอาการอักเสบได้อย่างดี แต่ด้วยความที่ถูกออกแบบให้ช่วยรักษาสิวโดยเฉพาะ Clinda M จึงไม่ได้เน้นในเรื่องของการบำรุง เติมความชุ่มชื้น หรือลดรอยแดงรอยดำแต่อย่างใด

5. Derminet Mattifing Refresh serum (10 ml. ราคา 180 บาท)

ครีมลดรอยสิว_Derminet Mattifing Refresh serum_01ครีมลดรอยสิว_Derminet Mattifing Refresh serum_01

         ซีรั่มบำรุงผิวตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันถึงผิวผสม และมีปัญหาในเรื่องของสิว เพราะมาพร้อมคุณสมบัติสำคัญอย่าง Aloe Barbadensis Leaf juice ที่ช่วยลดการอักเสบและติดเชื้อโดยเฉพาะ อีกทั้งยังจะตรงเข้าบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น และปิดท้ายด้วย  Centellaasiatica extract ซึ่งจะทำหน้าที่ลดรอยหมองคล้ำ รองด่างดำของผิว รอยแดงและรอยแผลเป็นต่างๆ

6. Cetaphil Moisturizing Lotion (59 ml. ราคา 350 บาท)

ครีมลดรอยสิว_Cetaphil Moisturizing Lotion_01ครีมลดรอยสิว_Cetaphil Moisturizing Lotion_01         นับได้ว่าเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งมาทดลองใช้หลังจากที่เกิดปัญหาสิวขึ้นบนผิวหน้า ยอมรับว่าเคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานานว่าเป็นครีมลดรอยสิวตัวเด็ดที่คนมีปัญหาสิวควรใช้ ด้วยส่วนผสมสำคัญอย่างน้ำมันอะโวคาโดที่อุดมไปด้วยวิตามิน  A, D, E และ Lecithin รวมถึง Potassium ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าช่วยต้านอนุมูลอิสระ เติมน้ำให้ผิว ให้ความชุ่มชื้น

7. The Body Shop Tea Tree Oil (20 ml. ราคา 790 บาท)

ครีมลดรอยสิว_The Body Shop Tea Tree Oil_01ครีมลดรอยสิว_The Body Shop Tea Tree Oil_01

          ขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งตัวเด็ดที่คนเป็นสิวเทใจให้ ด้วยความที่เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ทีทรีทุกชิ้นที่ถูกนำมาสกัดจะถูกเก็บเกี่ยวด้วยมือและนำมาผ่านการกลั่นภายใน 12 ชั่วโมงเพื่อให้ได้สารสกัดทีทรีออยล์ที่บริสุทธิ์ มีประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และอีกอย่างที่ทำให้หลายคนรักก็คือเรื่องของวิธีการใช้งานที่มาในขวดแก้วที่เจาะด้านบนเป็นรูขนาดเล็กไว้เพื่อให้ทุกครั้งที่เทออกมาไม่หกเลอะเทอะ แต่ได้ปริมาณที่พอดี เนื่องจากตัวนี้ผลิตมาไว้สำหรับแต้มสิวโดยเฉพาะ

8. Himalaya Acne-n-Pimple Cream (30g. ราคา 199 บาท)

ครีมลดรอยสิว_Himalaya Acne-n-Pimple Cream_01ครีมลดรอยสิว_Himalaya Acne-n-Pimple Cream_01         ครีมแต้มสิวลดสิวอักเสบ โดดเด่นด้วยสารสกัดหลักจากสมุนไพรธรรมชาติส่งผลให้ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย พร้อมฟื้นบำรุงผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น

9. Skinsista v acne clear booster (15 ml. ราคา 490 บาท)

ครีมลดรอยสิว_Skinsista v acne clear booster_01ครีมลดรอยสิว_Skinsista v acne clear booster_01         เป็นอีกหนึ่งตัวที่ได้ลองใช้แล้วรู้สึกประทับใจ โดยเฉพาะเนื้อบูสเตอร์ที่เป็นน้ำทำให้ซึมง่าย สามารถใช้บำรุงผิวได้ทั่วหน้า หรือจะเน้นหนักที่การแต้มสิวเฉพาะจุดก็ได้

         ถ้ามีผลิตภัณฑ์ที่ใช่อยู่ในมือบอกเลยว่าเรื่องสิวจะไม่เป็นปัญหาให้รู้สึกหนักใจอีกต่อไป!

 [Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook