25 ปี บนเส้นทางดนตรี ของ ปู แบล็คเฮด

25 ปี บนเส้นทางดนตรี ของ ปู แบล็คเฮด

25 ปี บนเส้นทางดนตรี ของ ปู แบล็คเฮด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าหากจะให้นึกถึงวงร็อกระดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่มีฝีไม้ลายมือเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร หนักแน่นในความเป็นตัวตน แน่นอนจะต้องมีชื่อ “วงแบล็ดเฮด” รวมอยู่ด้วย

สมาชิกของวงร็อคหัวดำ ประกอบไปด้วย อภิสิทธิ์ พงศ์ชัยสิริกุล (เอก) , สมทบ สมมีชัย (ต๋อง) , วิโรจน์ เจริญพิพัฒน์สิน (ยุ่น) โดยมีนักร้องนำที่เป็นหัวเรือใหญ่อีกคนของวงก็คือ “อานนท์ สายแสงจันทร์ หรือ ปู แบล็คเฮด” ซึ่งวันนี้ เราพาทุกคนมารู้จักตัวตนและเรื่องราวชีวิตของร็อกเกอร์ชื่อดัง ที่ยืนหยัดอยู่บนถนนสายดนตรีมายาวนานกว่า 25 ปี 

พี่ปูอยู่ในวงการมาแล้วกี่ปีคะ ?
พี่อยู่ในวงการเพลงมาแล้ว 25 ปี ซึ่งการเข้าสู่วงการเพลง เริ่มจากเล่นดนตรีสมัยมัธยม แล้วก็เริ่มประกวดแข่งขัน ประกวดโฟล์คซองระดับโรงเรียน แล้วก็พัฒนาไปเรื่อยๆ จนได้เจอกับนักดนตรีที่เป็นมืออาชีพ และเกิดการชักนำของผู่ใหญ่เหล่านั้นครับ วงแรกที่ผมได้เข้าไปอยู่คือ วงบลูแพลนเน็ต ต่อด้วย ยูเรเนียม จนถึงแบล็คเฮดในปัจจุบัน คือได้ประสบการณ์ที่มากมายจากตรงนั้น

แต่ละวงมีความแตกต่างกันอย่างไรคะ ?
พี่ชัคกี้ ธัญญรัตน์ ชักชวนมาเป็นนักร้องที่ค่ายของแก ตอนแรกจะมาเป็นนักร้องเดี่ยว แต่ทางวง บลูแพลนเน็ต กำลังหานักร้องนำอยูู่พอดี เลยได้มาร่วมงานกัน ออกไปได้หนึ่งอัลบั้ม สักพักค่ายก็ปิดตัวลง ตอนนั้นเราเริ่มรู้ตัวว่าสามารถเป็นนักร้องอาชีพได้ เลยออกมาหาประสบการณ์ที่พัทยา จนต่อมาพี่ๆ น้องๆ ที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยยังเป็นวง บลูแพลนเน็ต อยากให้เรามาร่วมงานด้วย เอาสัญญาไปให้เราเซ็นถึงพัทยาเลย นั่นคือจุดเริ่มต้น ของวงยูเรเนียม ตอนนั้นวงยูเรเนียมมีนักร้องถึง 3 คน แต่ทั้ง 2 วงนี้ ผมยังไม่ได้มีบทบาทอะไรมากมาย นอกจากการเป็นนักร้อง เพิ่งจะได้มีประสบการณ์ทำเพลงเอง เขียนเองทั้งหมด ตอนที่อยู่วงแบล็คเฮด

ใครคือศิลปินต้นแบบ ของ ปู แบล็คเฮด?
จริงๆ แล้วมีศิลปินหลายคนที่เป็นต้นแบบ แต่ในตอนที่ได้มาเป็นนักร้องของ บลูแพลนเน็ต มีโอกาสแสดงคอนเสิร์ต ออกทัวร์กับ วง ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์ จึงเรียกได้ว่า ศิลปินต้นแบบของผม คือ พี่โป่ง ปฐมพงศ์ สมบัติพิบูลย์  อีกคนคือพี่ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ซึงเป็นคนที่ทำให้ วงแบล็คเฮด เกิดขึ้นมาได้ เพราะแกเป็นคนเอาเดโม่ของวงแบล็คเฮดไปเสนอที่ค่าย เอ็มสแควร์

“ถือได้ว่าคนที่ให้กำเนิด วงแบล็คเฮด ก็คือพี่ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์”

บทเพลงไหนถือว่าสร้างชื่อเสียงให้กับ ปู แบล็คเฮด ?
จริงๆ แล้วในแต่ละรุ่นก็มีเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับเรา อย่าง บลูแพลนเน็ต ที่ร้องกับพี่ชัคกี้ ก็มีเพลงมั่นใจ และ พรุ่งนี้ยังมี ในยุคของยูเรเนียมก็จะมีเพลง ปฏิกิริยาร็อค และ หัวจิตหัวใจ พอมาเป็นแบล็คเฮด ก็มีเพลง ยืนยัน , ความทรงจำ , ไอ้เข้

คิดว่าจุดสูงสุดของชีวิตการเป็นนักร้องของ ปู แบล็คเฮด คือช่วงไหน ?
สำหรับผมแล้วในแต่ละยุค คือสูงสุดเหมือนกันหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นวงไหนก็แล้วแต่ แต่ถ้าเอาจริงๆแล้ว สำหรับนักดนตรี นักแต่งเพลง มันต้องเป็นอัลบั้มที่ทำเองทั้งหมด ก็คืออัลบั้มแรกของ วงแบล็คเฮด นั่นคือที่สุดแล้ว แต่ตอนนั้นความดังมันมายังไงเราไม่รู้ เรารู้แต่ว่าเราได้เล่น เราได้ทำเอง ที่เหลือคือผลพลอยได้

ในช่วงที่ก้าวออกจากแกรมมี่ สู่การเดินทางครั้งใหม่ที่ต้องเลือกเองอีกครั้ง เมื่อถึงยุคที่ต้องเปลี่ยนตอนนั้นทิศทางของวงคืออะไร และหายไปเกือบ 3 ปี ?
ต้องบอกว่าตอนนั้น ในระยะเวลาก่อนออกจากแกรมมี่ เราได้เตรียมความพร้อมของเราไว้อยู่แล้ว ตัวผมเองก็ทำบริษัททำเพลงโฆษณา เราอยู่แกรมมี่มา 8 ปีแล้ว เราเห็นว่าเราน่าจะพักอัลบั้มของเราไว้ก่อน เพราะอยากให้มันเป็นสิ่งที่เราอยากทำ ไม่ใช่โดนเวลากำหนดให้ทำ เพราะมันจะแตกต่างกัน เมื่อไหร่ที่เราอยากทำ เรามีวัตถุดิบแล้วเราค่อยมาอัดเสียง เรามีความพร้อมจริงจัง เพลงมันมักจะดีกว่า อยากให้มันเป็นที่จดจำของหลายๆ คน เราเลยคิดว่าเราหยุดพักวงกันเสียก่อน 

การก้าวเข้ามาสู่บ้านหลังใหม่ มีคอนเสิร์ตใหญ่ของแบล็คเฮด?
ในตอนที่พักผ่อนกันก็มีสังกัดหลายสังกัด ชวนให้ไปอยู่ ซึ่งเราคิดว่าเราอยากจะอยู่กันเองมากกว่า ซึ่งเรารู้จักสนิทสนมกับทางบุญรอด ทางสิงห์ อยู่แล้ว และเค้ากำลังจะเปิดค่ายใหม่พอดี เลยได้รับการทาบทามให้ไปอยู่กับเค้า และมีคอนเสิร์ตใหญ่เกิดขึ้น เป็นการบอกว่าเราได้มาเปิดตัวกับสังกัดใหม่ นั่นคือ สหภาพดนตรี เลยมีเป็นคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มชื่อ “ไว้ลาย คอนเสิร์ต”

ในการกลับมาอีกครั้งของแบล็คเฮด เป้าหมายคืออะไร?
ถ้าวันนี้ ต้องบอกตรงๆ เลยว่า อยากทำอะไรที่มันเป็นเรามากที่สุด ผมว่าตอนนี้เราเดากันไม่ออกหรอกว่า เพลงที่ตามตลาดต้องการมันเป็นยังไง ดูแต่ละวง แต่ละเพลงวันนี้สิ ไม่เหมือนกันสักอย่าง ผลัดกันขึ้นชาร์ท ไม่รู้ว่าเป็นความต้องการของคนฟังหรือความต้องการของคลื่นนั้นๆ กลไกมันมีมากมาย โซเชียลเน็ตเวิร์ค ทำให้คนฟังมีสิทธิ์มีเสียงที่จะเลือก เพราะฉะนั้นไม่สามารถที่จะกำหนดได้หรอก

คิดว่าความดังของนักร้องสมัยนี้วัดจากอะไร ?
วัดจากยอดไลค์มั้ง (หัวเราะ) ถ้าเอาตามสื่อ ก็ออกสื่อบ่อย และมันก็จะดังเอง แต่ถามว่าคนจำหน้าได้ไหม ถ้ายอดดาวน์โหลดเยอะ ยอดไลค์ในยูทูบเยอะ คนจำได้ไหม…จำไม่ได้ จำเพลงได้แต่จำไม่ได้ว่าใครร้อง (ยิ้ม)

พักหลังมีข่าวลือมาว่า แบล็คเฮด วงแตก เพราะพักหลัง พี่ปู หันมาเอาดีด้านการแสดงด้วย ทำให้ไม่มีเวลาหรือเปล่า ?
คือแบล็คเฮดต้องแตกก่อนครับ ถ้าไม่แตกก็คือไม่ได้ทำอะไรกันเลย (หัวเราะ) จริงๆ แล้ววงไม่ได้แตกเลย แต่มานั่งคุยกันแล้ว เฮ้ย!! ทุกคนต้องมีอะไรที่นอกเหนือจากแบล็คเฮด เพราะไม่อย่างนั้นการที่มาเล่นด้วยกัน การที่มาทำเพลงกัน จะไม่สนุกมันจะเกิดความเครียด อยากให้ทุกอย่างเกิดจากความสนุกที่เข้ามาทำ เพราะฉะนั้นแบล็คเฮดก็เลยอยู่ได้ เพราะทุกคนไม่ต้องมาใจจดใจจ่อ ว่า เฮ้ย! มันต้องทำแล้ว มันต้องออกแล้ว ทุกคนต่างมีงานของตนเอง เพราะฉะนั้นการเข้ามาเจอกัน การมาซ้อมแต่ละครั้งมันจะเกิดจากการความสนุก เหมือนทุกครั้งที่เรามาเข้าห้องซ้อมก่อนอัลบั้มชุดแรกของแบล็คเฮด มันจึงทำให้แบล็คเฮดอยู่จนได้มาถึงทุกวันนี้

อะไรคือตัวตนของ ปู แบล็คเฮด ที่แฟนๆรู้จัก ?
ผมว่าความอดทน ความดื้อด้าน หลายๆ อย่างของผมนิล่ะ ของแบล็คเฮดด้วย มันคือความสามัคคีของแบล็คเฮด ความเป็นพี่เป็นน้อง ความอดทนของทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุค กี่สมัย เทปคาสเซ็ท ยุคซีดี MP3 และดาวน์โหลด แบล็คเฮดอดทนมากอยู่กันได้ คอนเสิร์ตก็มีสม่ำเสมอเหมือนเดิม

ผลงานปัจจุบัน
ถ้าเป็นเพลงใหม่เลย ตอนนี้แบล็คเฮด กำลังทำ EP ครึ่งอัลบั้ม 5 เพลง และเป็น 5 เพลงที่ออกมาพร้อมกัน ไม่ใช่เป็นซิงเกิ้ล และจะมีแผ่นไวนิล ออกประมาณหลังสงกรานต์นี้ครับส่วนตัวผมตอนนี้มีทำรายการประกวดร้องเพลงทางช่อง 8 ดูได้ทุกวัน ชื่อร้องแลกไลค์ และมีละครช่อง 3 ชื่อลูกผู้ชายเลือดเดือด และมีเพลงใหม่ล่าสุดประกอบละครอยู่ในนั้นด้วย และแผ่นเสียงอัลบั้ม 3 อัลบั้มที่ได้บอกไป และภาพยนตร์ที่กำลังถ่ายทำเรื่อง My Rhythm และผมมีร้านซูชิ นะครับไปทานกันได้ อร่อยมาก ชื่อ โชริซูชิ อยู่ตรงข้ามกับประตู มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร

เชื่อว่าหลายๆคน คงได้รู้จักตัวตน และ มุมมองการใช้ชีวิตที่มากด้วยประสบการณ์ ของนักร้อง นักแต่งเพลง นักดนตรี คุณภาพคนนี้มากขึ้น และพวกเค้าพิสูจน์ให้เห็นว่าวงร็อกไม่จำเป็นต้องสลายไปตามวันเวลา หรือดังแล้วแยกวง ยังสามารถจะอยู่ต่อไปได้โดยไม่ต้องอาศัยกระแส โดยไม่ต้องสนว่าแนวดนตรีจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ก็ตาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook