MiX Magazine รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์

MiX Magazine รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยอมรับโดยดีว่าเราติดภาพเธอจากบทบาทการแสดงที่สร้างเสียงหัวเราะในความแก่นและโก๊ะอยู่เสมอ กระทั่งเมื่อมีโอกาสพูดคุยกับเธอ มันยิ่งตอกย้ำและสัมผัสได้ถึงตัวตนที่เป็นเธอ มากกว่าแค่เห็นผ่านผลงาน แต่ครั้งนี้เราได้เห็นเธอในอีกลุคหนึ่งที่แตกต่าง แน่นอนว่าคงไม่มีใครยอมละสายตาจากเธอแน่นอน ยิปโซ รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์



เป็นอย่างไรบ้างกับการถ่ายปกครั้งแรกของคุณกับ MiX Magazine

ตอนแรกที่ทาง MiX ติดต่อมา ก็หันไปมองหน้าป๊านิดนึง กลัวว่าเราจะทำงานเขาเสียหรือเปล่า (หัวเราะ) คือตัวยิปเองอาจจะไม่ถนัดทางเซ็กซี่มาก แต่พอคุยกันแล้วทีมงานบอกไม่จำเป็นต้องเซ็กซี่มาก ผสมผสานความเป็นตัวเองและสไตล์อื่นๆ เข้าไปด้วย ก็ดีใจนะ การทำงานก็สนุกด้วย

คิดว่าภาพแฟชั่นเซ็ตนี้จะออกมาถูกใจแค่ไหน

ปกติยิปจะมีความกังวลเยอะ เวลาถ่ายแบบหรืออะไรอย่างนี้ ก็จะคอยเช็คตลอดเวลา แต่วันนี้ค่อนข้างสบายใจ ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าภาพจะออกมาเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าน่าจะออกมาดี ไม่ใช่เพราะเราดีนะคะ อาจจะด้วยทีมงานทุกคน รวมถึงพี่จอร์จ ธาดา เลยทำให้สบายใจและค่อนข้างไว้ใจ

ถามถึงผลงานช่วงนี้บ้างว่ามีอะไรให้ติดตามกัน

ล่าสุดเลยก็มีภาพยนตร์เรื่อง ฟัด จัง โตะ แล้วก็พิธีกรอีก 3 รายการ คือรายการสาระแน รายการอายุน้อยร้อยล้าน แล้วก็รายการ Sister day ค่ะ

นอกจากงานภาพยนตร์ จะมีโอกาสเห็นผลงานละครของคุณบ้างไหม

คงขึ้นอยู่กับโอกาสค่ะ จริงๆ แล้วดาราส่วนใหญ่ไม่ได้เลือกงาน แต่เป็นงานที่เลือกดารา การมาเล่นละครถ้ามีโอกาสแล้วผู้ใหญ่โอเค เราโอเค ก็คงได้เล่นและเห็นผลงานกัน

คุณมองตัวเองว่าติสท์เหมือนที่หลายคนให้ฉายาหรือเปล่า

ยิปไม่กล้าพูดเรื่องความติสท์เลยค่ะ เพราะคำว่าติสท์ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนก็ว่าดี บางคนก็ไม่ดี ตัวเราเองรู้สึกว่าเราปกตินะ คงไม่มีใครใช้ชีวิตโดยที่ตัวเองรู้สึกประหลาดแล้วยังใช้ต่อไปอย่างนั้นหรอกค่ะ เรารู้สึกว่าเราปกติแบบนี้ แต่ก็อาจจะมีเครื่องหมายไม่เท่ากับคนอื่น เขาก็เลยพยายามหาคำนั้นคำนี้มาอธิบายเรา สุดท้ายมาลงเอยที่คำว่าติสท์ก็ยังดีค่ะ อย่างน้อยก็ครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้แย่ไปซะทีเดียว

ความเป็นตัวของตัวเองที่ค่อนข้างชัดของคุณ มันมีผลทำให้เรื่องความรักไม่ค่อยจะมีโชคหรือเปล่า

บางคนถามว่าเป็นเพราะเราติสท์มากหรือเปล่าเลยไม่มีเรื่องความรัก ก็เห็นคนที่ติสท์หลายคนเขาก็มีความรัก มีแฟน แต่งงานมีลูกมีครอบครัวกันไปแล้ว ยิปว่ามันไม่เกี่ยว เพราะตั้งแต่ก่อนได้รับฉายานี้ ก็ไม่ค่อยมีแฟนอยู่แล้ว (หัวเราะ) ไม่ค่อยมีเรื่องความรักอยู่แล้ว คงเป็นคนที่เส้นทางชีวิตน่าจะมาทางนี้นะ

ไม่ใช่ว่าคุณทำงานเยอะจนไม่มีเวลา

ไม่หรอก คนเราถึงจะทำงานหนักแค่ไหน ให้ตายยังไงมันก็ต้องมีเวลาสำหรับเรื่องนี้เสมอค่ะ ยิปเชื่อนะ ห้านาทีสิบนาทีก็ยังดี

จริงหรือเปล่าที่ว่าหนุ่มในสเปกของคุณต้องดูเซอร์ ผมยาว และตัวสูง

(หัวเราะ) มันเริ่มเข้าข่ายเฉพาะเจาะจง เท่าที่ผ่านมาอาจจะด้วยความที่เป็นข่าวกับใครมักจะไม่เกิดขึ้นจริง ด้วยความน่ารักของคนที่พยายามจับคู่เราให้กับคนที่เขามองว่าเข้ากัน อย่างเช่นพี่เป้ อารักษ์ ที่เป็นมหากาพย์แห่งข่าว เป็นข่าวกันนานมาก ด้วยสไตล์ความชอบที่คล้ายกัน เลยทำให้เป็นอย่างนั้น พอข่าวล่าสุดกับโบ๊ท The Yers ก็คุยกันจริง พอคนเห็นลุคซ้ำๆ กัน คนก็คิดว่าเราชอบคนผมยาว ตัวสูงมั้งคะ ยิปว่าก็ไม่จำเป็นเสมอไป

การแต่งตัวสไตล์ฮิปปี้ก็เป็นอีกไลฟ์สไตล์ที่คุณชอบ จะบอกอย่างนั้นได้ไหม

ก่อนหน้านี้ประมาณหนึ่งปีชอบแต่งตัวสไตล์นั้นมากๆ แล้วคงมีแรงอยากลุกขึ้นมาแต่งนู่นแต่งนี่ เพราะมันสนุก แต่ตอนนี้เริ่มหมดแรง เน้นไปในการทำงาน ถามว่ามีความเป็นฮิปปี้ไหม อาจจะมีตรงที่เน้นไปที่ความสบายมั้งคะ

วาเลนไทน์ปีนี้ของคุณคิดว่าจะเป็นอย่างไร

ก็คงปกติ แล้วถ้าจำไม่ผิดวันนั้นก็น่าจะมีงานด้วย ซึ่งเป็นงานที่ไม่เกี่ยวกับความรักเลย น่าจะเกี่ยวกับอาหารสัตว์เลี้ยงอะไรประมาณนั้น (หัวเราะ)

เล่าถึงความทรงจำในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านๆ หน่อยซิว่าเป็นอย่างไร

ความที่ยิปไม่ค่อยมีเรื่องของแฟนมาข้ามผ่านวันวาเลนไทน์พอดี ส่วนใหญ่ก็จะโสด ณ ตอนนั้น เหตุการณ์ที่พอจะมีบ้างมันต้องเป็นเหตุการณ์ที่จำได้อยู่แล้ว เพราะว่ามีน้อย ตอนมัธยมก็มีช่วงป๊อปปี้เลิฟ คนที่คุยอยู่ตอนนั้นอยู่คนละโรงเรียน เขาก็นั่งแท็กซี่จากบางนาเอาขนม ดอกไม้ ตุ๊กตาตัวใหญ่มากมาให้ ก็เป็นอะไรที่น่ารักดี แต่หลังจากนั้นก็เลิกคุยกันเลย (หัวเราะ)

คุณเป็นคนโลกส่วนตัวสูงหรือเปล่า

ยิปว่าปกติ น้อยกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ คนธรรมดาที่ไม่ได้ทำงานตรงนี้โชคดีมาก เพราะว่าเขาจะมีพื้นที่ส่วนตัวสูงกว่าพวกเราเยอะ แค่ยิปออกจากบ้านไปก็โดนตัดเปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบมันนะ สมัยก่อนอาจจะไม่เข้าใจบ้าง อยากจะมีพื้นที่ของเรา ทุกวันนี้โอเคกับมันมากๆ เพราะรู้สึกว่าคุ้มค่า บางคนอาจบอกว่าทำงานตรงนี้จะเสียความเป็นส่วนตัว แต่ถ้ามองเป็นรางวัลมันก็เป็นรางวัล

แล้วตลอดทั้งปีนี้คุณตั้งเป้าหมายอะไรที่จะทำให้สำเร็จบ้าง

การตั้งเป้าหมายในปีนี้เป็นการฝืนใจตัวเอง อยากให้ตัวเองมีวินัยมากขึ้น ปีที่ผ่านมารู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างจะแย่ลง คือจะทำอะไรต้องให้คนอื่นบังคับ ปีนี้เลยอยากทำอะไรได้ด้วยการบังคับตัวเอง

 

ขอบคุณภาพจาก
Magazinedee.com

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ MiX Magazine รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook