เหตุการณ์ปวดใจของอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม

เหตุการณ์ปวดใจของอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม

เหตุการณ์ปวดใจของอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไม่ว่าใครต่างก็เคยผิดพลาดในชีวิตมาแล้วทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่พระเอกหนุ่มมาดเซอร์ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม เปิดใจหมดเปลือกถึงเหตุการณ์ "คว้าน้ำเหลว" ที่ทำให้มุมมองการเดินทางและ การช้อปปิ้งของเขาเปลี่ยนไปจากเดิม

เรื่องการท่องเที่ยวถือเป็นรางวัลให้กับชีวิตที่ทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ยิ่งได้ของที่เล็งไว้ติดไม้ติดมือมาด้วยก็ยิ่งดีมากเป็นพิเศษ แต่ถ้าครั้งไหนไปแล้วไม่ได้อะไรกลับมานี่สิ..น่าปวดใจ ซึ่งหนุ่มหล่อ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม เจอประสบการณ์นี้มาแล้วเต็มๆ จนต้องรีบแชร์ต่อเพื่อไม่ให้ต้องเจ็บซ้ำตามๆ กัน

สไตล์การท่องเที่ยวแบบฉบับอนันดา

"สำหรับผมการเดินทางเป็นเรื่อง Unique ที่เราไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบตายตัวและ
สามารถเปลี่ยนได้ทุกเมื่อสมัยวัยรุ่นผมจะชอบไปแบบแบคแพคลุยๆ อยากไปไหนก็ไป แต่เดี๋ยวนี้ก็มีทริปหลากหลายแนวมากขึ้นตามวัย อย่างครั้งหนึ่งผมทัวร์ยุโรปด้วยการขับรถเลาะไปตามเมืองต่างๆ ไปเรื่อยๆ โดยเริ่มจากโรมไปฟลอเรนซ์ แล้วชมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
สวยๆ ผมอยากแวะตรงไหนก็แวะ เป็นการเดินทางแบบไม่มีการวางแผนว่าจะเดินทางไปไหนหรือทำอะไร ทำให้เราได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ ทุกทริป ลองเที่ยวแบบผมดูก็ได้
แบบนี้ก็สนุกไปอีกแบบนะครับ" 

"แต่ไปแบบชิลๆ แล้วก็ต้องมีสลับกับทริปหรูบ้างเพื่อพักผ่อนแล้วก็ช้อปปิ้งซื้อของที่อยากได้ เมื่อก่อนผมมองว่าเมืองนอกน่าจะมีของดีของหายาก หรือ Limited Edition อยู่เยอะ แต่หลายครั้งที่ไปญี่ปุ่นหรือนิวยอร์คนั่งรถไปตั้งนานพอไปถึงก็ไม่มีรุ่นนี้หรือไปไม่ทันของหมดบ้าง 'คว้าน้ำเหลว' สิครับ บ่อยครั้งเข้าผมก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยมากกับการตามหาของที่ต้องการ สุดท้ายก็เลิกอยากได้ไปเลยก็มี ทริปนั้นนอกจากเสียอารมณ์ไม่ได้ของแล้ว ยังเสียเวลาเที่ยวไปฟรีๆ อีก ไม่คุ้มเลยจริงๆ"   

 

สุดท้ายก็ 'คว้าน้ำเหลว'

"ผมเชื่อว่าหลายคนก็เคยคิดเหมือนผมว่า การซื้อสินค้าที่ต่างประเทศในเมือง
ปลอดภาษีหรือประเทศผู้ผลิตสินค้านั้นๆ จะต้องได้ของในราคาถูกอย่างแน่นอน แต่หลังจากผมได้เจอเหตุการณ์ 'คว้าน้ำเหลว' หลายต่อหลายครั้ง ทำให้ผมรู้ว่าที่เรา
เชื่อกันมันเป็นเรื่องที่ผิด ผมเคยไปหานาฬิการุ่นที่อยากได้ที่เมืองนอก ไป 2 - 3 ร้าน
ก็ไม่มีของ ก็เลิกล้มความอยากได้ไป แต่พอได้เดินทางครั้งต่อไปเลยลองแวะดูที่
คิง เพาเวอร์ ปรากฏว่ามีครับ รุ่นที่ผมเล็งนี่แหละ แถมราคายังถูกกว่าเมืองนอกซะอีก ผมรู้สึกว่า
นี่เราทำอะไรอยู่ ของดีราคาสุดคุ้มอยู่ใกล้ตัวมากๆ แต่ทำไมต้องไปดั้นด้นถึงแดนไกล"

"หลังจากนั้นผมก็เลยเผื่อเวลาก่อนบินแวะไปช้อปปิ้งที่คิง เพาเวอร์ก่อนตลอด กลายเป็นว่า
ของที่ช้อปปิ้งมาเกินกว่าครึ่งก็เป็นของที่ได้มาจากคิง เพาเวอร์ ล่าสุดผมก็ได้แว่นกันแดดมา ราคาถูกกว่าฮ่องกง สิงคโปร์ หรือห้างฯ บ้านเราซะอีก ระยะหลังผมว่าคนที่เดินทางต่างประเทศก็เริ่มรู้แล้วนะว่าราคาสินค้าที่คิง เพาเวอร์บ้านเราถูกกว่าเมืองนอก สงสัยคงเคย 'คว้าน้ำเหลว' แบบผมมั้งครับ (หัวเราะ) คราวนี้
พอได้ของตามต้องการ เวลาจะไปเที่ยวก็สามารถลุยได้อย่าง
เต็มที่ ไม่ต้องห่วงเรื่องการตามหาของให้เสียเวลาอีกต่อไป นี่ไม่ใช่ว่าผมเป็น Presenter เลยมาพูดแบบนี้นะ ถ้ามันไม่ได้เกิดจริงๆ ผมก็ไม่กล้ามารับประกันแบบนี้หรอกครับ" 

 


ชีวิตดีขึ้นเพราะคิง เพาเวอร์"

หลังจากที่ได้ไปซื้อของที่คิง เพาเวอร์บ่อยๆ ทำให้ผมรู้สึกสะดวกสบายและมีความสุขกับการช้อปปิ้งนะก็ของที่นี่มีให้เลือกเยอะ ยิ่งช้อปก็ยิ่งเพลินครับ หลายครั้งที่เดินทาง ผมก็เดินดูของที่คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ ขนาดไม่ได้กะจะซื้ออะไรเป็นพิเศษ ก็ได้ของติดมือกลับมาอีก อย่างผมชอบเรื่องการบริการนะ เรื่องนี้คนไทยชนะเลิศอยู่แล้ว
สามารถแนะนำหรือให้ลองสินค้าได้อย่างสบายใจ เขายังแนะนำผมเรื่องส่วนลดเพิ่มเติมจากบัตรสมาชิกก็ยิ่งดีเลยถูกลงไปอีก แล้วยังมีการสะสมกะรัต เรื่องนี้ผู้ชายอาจจะไม่ค่อยถนัด แต่ผมว่ามีมันก็ช่วยให้การช้อปปิ้งคุ้มค่ายิ่งขึ้นนะได้ของถูกไม่ว่าใครก็สบายใจทั้งนั้นละครับ"

"เอาเป็นว่าใครอยากจะไปหาของที่ต่างประเทศแบบที่ผมเคยทำก็เชิญนะครับ แต่สุดท้ายอาจจะ "คว้าน้ำเหลว" กลับมาแบบที่ผมเคยโดนก็อย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกันตอนนี้ผมได้เที่ยวอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงเรื่องการช้อปปิ้งอีกต่อไปแล้วครับ" 

 

[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook