เรื่องเล่า : เจอ...เต็มๆ ตา ที่โค้ง 100 ศพรัชดา

เรื่องเล่า : เจอ...เต็มๆ ตา ที่โค้ง 100 ศพรัชดา

เรื่องเล่า : เจอ...เต็มๆ ตา ที่โค้ง 100 ศพรัชดา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมากลายเป็นข่าวเกรียวกราว หลังจากที่สำนักงานเขตจตุจักร มีโครงการปรับภูมิทัศน์ บริเวณโค้งถนนรัชดาภิเษก หน้าศาลอาญา หรือจุดที่มีต้นโพธิ์ใหญ่ ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า "โค้ง 100 ศพ" จนกลายเป็นประเด็นข่าวฮือฮาและสร้างความหวั่นวิตกเรื่องอาถรรพ์ต่างๆ ที่จะตามมา หากทำการย้ายเครื่องเซ่นไหว้และตุ๊กตาม้าลายนั้น

ที่โค้ง 100 ศพรัชดาที่โค้ง 100 ศพรัชดา

เรื่องดังกล่าวจบลงด้วยดีเมื่อ พระครูใบฎีกา วิชญ์จุฑา อินุทวโส จากสำนักสงฆ์ร่มโพธิ์ธรรม จ.กาญจนบุรี เดินทางร่วมทำพิธีกรรม โดยได้มีการตั้งเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อเป็นการบอกกล่าวและขอขมา พร้อมทำพิธีอุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณที่เสียชีวิตบริเวณดังกล่าว โดยมี ริว จิตสัมผัส พิธีกรชื่อดัง มาร่วมพิธี ท่ามกลางความสบายใจของเจ้าหน้าที่เทศกิจของ กทม.


ที่เกริ่นไปยืดยาวข้างบนนั้นไม่ใช่อะไร เพียงแค่อยากจะบอกเล่าประสบการณ์หลอน(เบาๆ) ที่โค้ง 100 ศพ มั่นใจว่าไม่ใช่อาการตาฝาด ไม่เบลอ และไม่ได้เมาอย่างแน่นอน ย้อนไปเมื่อไม่นานมานี้ (เหรอ?) สมัยที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เราและเพื่อนรวมทั้งหมด 5 คน ขับรถออกมาจากหอพัก ช่วงเวลาประมาณ 2-3 ทุ่ม ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวบางแสนกันตอนกลางคืน หออยู่ในซอยเสือใหญ่ เมื่อขับรถออกปากทางเป็นต้นโพธิ์ใหญ่อยู่พอดี

จังหวะที่รถกำลังเลี้ยวออกจากซอยเสือใหญ่ ที่ต้องชะลอรถระหว่างเลี้ยวนั้น เราซึ่งนั่งเบาะหลังคนขับ ก็หันไปมองที่ต้นโพธิ์ตามปกติ เพราะก็ต้องช่วยเพื่อนดูรถที่ขับผ่านไปด้วย ระหว่างนั้นก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างผอม ไม่เห็นหน้าเพราะมืดมาก กระโดดเร็วมากออกมาจากเกาะกลางถนน ก่อนที่จะหายวับไป จำได้ว่าตอนนั้น ทั้งๆ ที่รถเปิดเพลงเสียงดัง และเพื่อนๆ กำลังคุยกันอยู่ แต่เราก็ร้อง เฮ้ย! ออกมาอย่างลืมตัว

บอกเลยว่าเวลานั้นไม่ได้คิดอะไรมาก นอกจากผู้ชายคนที่โดดมาจากเกาะกลางนั้นจะเป็นอะไรมั้ย พยายามหันไปมองก็เห็นแต่รถที่ขับเร็วมากไปตามทาง ไม่มีเสียงรถชน เสียงเบรกของรถแต่อย่างใด ที่ข้างทางก็ไม่มีใครนอกจากพี่ๆ วินมอเตอร์ไซต์ แต่เอ๊ะ เค้าหายไปไหนอ่ะ เพื่อนๆ ก็ถามนะว่าเป็นอะไร แต่ก็ไม่ได้บอกอะไรไป

ตอนนี้เริ่มคิดนิดๆ แล้วหล่ะ ว่าไม่มีรถชน แล้วหายไปไหน? "ดิฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างแล้วค่ะ ท่านผู้ชม" ถึงจะเริ่มใจไม่ดี แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้บอกอะไรเพื่อนไป แต่ก็พยายามระวังทั้งตัวเองและเพื่อนๆ ทั้งขาไปขากลับจากบางแสน

ถึงทุกวันนี้สิ่งที่ยังติดอยู่ในหัวคือ ผู้ชายที่เราเห็นโดดมาจากเกาะกลางถนนคืออะไร แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เราก็คิดว่าเค้าน่าจะตั้งใจมาเตือนไม่ให้เราประมาทและมีสติมากกว่า เอาเป็นว่านี้คือประสบการณ์จริงที่เราเจอมากับตัวเอง ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้น ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนเลยค่ะ เรื่องนี้ริวจะไม่ยุ่ง อุ๊บส์!!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook