คาถาบูชาหลวงปู่ทวด เพื่อความเป็นสิริมงคล แคล้วคลาด โชคดี

คาถาบูชาหลวงปู่ทวด เพื่อความเป็นสิริมงคล แคล้วคลาด โชคดี

คาถาบูชาหลวงปู่ทวด เพื่อความเป็นสิริมงคล แคล้วคลาด โชคดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลวงปู่ทวด เป็นพระเกจิที่ได้รับความศรัทธาอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะด้านคุ้มครองภัยและแคล้วคลาด ทำให้ คาถาหลวงปู่ทวด ถูกนำมาสวดบูชาเพื่อความสบายใจ เสริมสติ และเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ทั้งในยามเดินทาง ทำงาน หรือเผชิญปัญหาชีวิต แม้จะเป็นเรื่องความเชื่อ แต่หลายคนมองว่าการสวดมนต์ช่วยให้มีสมาธิและระมัดระวังมากขึ้นควบคู่ไปกับการป้องกันตัวในชีวิตจริง

บทความนี้จึงรวบรวม บทสวดหลวงปู่ทวด วิธีบูชา ความหมาย และคาถาเพื่อคุ้มครอง เมตตา และโชคลาภ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มสวดบูชาอย่างถูกต้อง

คาถาบูชาหลวงปู่ทวด

สำหรับการบูชาหลวงปู่ทวดเพื่อความเป็นสิริมงคล ให้จุดธูปแขก 9 ดอก มะลิขาว 9 ดอก พร้อมกล่าวบทคำบูชาพระพุทธเจ้า และตามด้วยคาถาบูชาหลวงปู่ทวด ดังนี้

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ (สวด 3 จบ)

นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา

มีความหมายว่า " ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่เจ้าประคุณสมเด็จหลวงปู่ทวด ผู้เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นผู้มีโชคซึ่งเข้ามาสถิตอยู่ในตัวของข้าพเจ้านี้ "  

วิธีบูชาหลวงปู่ทวดอย่างง่าย (เริ่มต้นทำได้ทันที)

  • ตั้งใจให้สงบก่อนสวด 
  • สวดตอนเช้า ก่อนออกจากบ้าน หรือก่อนนอน
  • ถ้ามีองค์พระ ให้ตั้งไว้ในที่สะอาดสูงกว่าระดับศีรษะ
  • หากไม่มีองค์พระ สามารถสวดได้เช่นกัน

ประวัติหลวงปู่ทวด

ตามตำนานกล่าวว่า หลวงปู่ทวด เป็นบุตรของนายหู นางจันทร์ ซึ่งเป็นทาสในเรือนเบี้ยของเศรษฐีปานเกิดในรัชกาลของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เกิดเมื่อ 3 มีนาคม พ.ศ. 2125 ณ บ้านสวนจันทร์ (บ้านเลียบ) ต.ดีหลวง (ปัจจุบันเป็นตำบลชุมพล) อ.สทิงพระ (จะทิ้งพระ) จ.สงขลา ตอนแรกเกิดมีชื่อว่า "ปู"

ในตอนที่ท่านเกิด ยังมีเหตุอัศจรรย์เกิดฟ้าร้องฟ้าผ่าแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น เสมือนหนึ่งว่ามีผู้มีบุญญาธิการมาเกิด เมื่อตัดรกจากสายสะดือแล้วนายหูบิดาของท่านก็นำรกของท่านไปฝังไว้ที่โคนต้นเลียบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ต้นเลียบในปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังเกิดปาฏิหาริย์จากหลวงปู่ทวดอีกนั่นก็คือ เมื่อครั้นยังแบเบาะ ในสมัยนั้นจึงมีสัตว์ป่าชุกชุมพอสมควร และบ้านของท่านก็อยู่ในป่าดงตาล บิดามารดาของท่านจึงผูกเปลของท่าน ซึ่งเป็นเปลผ้าไว้กับต้นมะเม่าสองต้นและก็ได้เกี่ยวข้าวอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น แต่เมื่อนางจันทร์ผู้เป็นแม่จะเดินกลับมาให้นม ก็พบกับงูจงอางตัวใหญ่หรืองูบองหลาที่ชาวภาคใต้เรียกกัน พันที่รอบเปล นางจันทร์เห็นแล้วตกใจเป็นอันมากจึงเรียกนายหูที่อยู่ไม่ไกลนักมาดูและช่วยไล่งูจงอางนั้น

แต่งูจงอางนั้นก็ไม่ไปไหน นายหูและนางจันทร์จึงตั้งสัตยาธิฐานว่าขออย่าให้งูนั้นทำร้ายลูกน้อยเลย ไม่นานนักงูจงอางนั้นก็คลายวงรัดออกและเลื้อยหายไปในป่านายหูและนางจันทร์จึงเข้าไปดูลูกน้อยเห็นว่ายังหลับอยู่และไม่เป็นอันตรายใดๆ และปรากฏว่ามีเมือกแก้วขนาดใหญ่ที่งูจงอางคลายไว้อยู่บนอกเด็กชายปูนั้น เมือกแก้วนั้นมีแสงแวววาวและต่อมาได้แข็งตัวเป็นลูกแก้ว ปัจจุบันได้ประดิษฐานที่วัดพะโคะ

เมื่อท่านมีอายุได้ประมาณ 7 ขวบ พ.ศ. 2132 บิดา มารดาของท่าน จึงนำท่านไปฝากไว้เป็นศิษย์วัดเพื่อเล่าเรียนหนังสือ ที่วัดกุฎิหลวงหรือวัดดีหลวงในปัจจุบัน เป็นวัดอยู่ใกล้บ้านท่าน ในขณะนั้นมีท่านสมภารจวง ที่มีศักดิ์เป็นลุงของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ เด็กชายปูเป็นเด็กที่หัวดีเรียนเก่งสามารถเล่าเรียนภาษาขอมและภาษาไทยได้อย่างรวดเร็ว สมภารจวงได้บวชให้ท่านเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 15 ปี ตอนที่ท่านบวชเป็นสามเณร

ด้วยความที่เป็นคนใฝ่เรียนใฝ่รู้ตลอดเวลาของท่าน ต่อมาท่านสมภารจวงได้นำไปฝากให้เล่าเรียนหนังสือที่สูงขึ้นสมัยนั้นเรียกว่ามูลบทบรรพกิจ ปัจจุบันก็คือเรียนนักธรรมนั่นเอง โดยนำไปฝากเรียนไว้กับสมเด็จพระชินเสน ซึ่งเป็นพระเถระชั้นสูงที่ส่งมาจากกรุงศรีอยุธยา ท่านได้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและจบหลักสูตรที่วัดสีคูยังนั้น

พระเครื่อง หลวงปู่ทวดพระเครื่อง หลวงปู่ทวด 

หลังจากนั้นท่านได้เดินทางเข้ามาศึกษาต่อที่เมืองนครศรีธรรมราชเพื่อเรียนหนังสือให้สูงขึ้น โดยมาพำนักอยู่ที่วัดเสมาเมือง ซึ่งเป็นสำนักเรียนและมีสมเด็จพระมหาปิยะทัสสีเป็นเจ้าอาวาส และ ได้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุครบกาลอุปสมบท ท่าน ได้ศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ต่างๆ จนมีความรู้และเป็นผู้ทรงอภิญญามาก ทั้งยังได้แสดงปาฏิหาริย์หลายครั้ง

สุดท้ายเมื่อท่านมีอายุได้ 80 ปี ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดพะโคะ วัดบ้านเกิดของท่าน ต่อมาท่านได้สั่งเสียกับลูกศิษย์ว่าเมื่อท่านมรณภาพให้นำพระศพท่านไปไว้ที่วัดช้างไห้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ต่อไปสถานที่ข้างหน้าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้คนมาเที่ยว

หลังจากที่ท่านมรณภาพเหล่าลูกศิษย์ของท่านก็ยังคงเลื่อมใสศรัทธาในความความศักดิ์สิทธิ์ของตัวท่านอยู่สืบเนื่องต่อมา จนเป็นที่โด่งดังถึงต่างชาติก็รู้จักถึงอภินิหารของท่าน ด้วยกฤษดาอภินิหารของท่านที่ทำการเหยียบน้ำทะเลจืดและพระเครื่องของท่านทุกองค์ ไม่ว่าใครจะสร้าง จริงหรือปลอม ปลุกเสกหรือไม่ ล้วนเยี่ยมยอดทุกองค์ ใครคล้องคอติดตัวจะปลอดภัยอย่างน่ามหัศจรรย์

พระเครื่อง หลวงปู่ทวดพระเครื่อง หลวงปู่ทวด 

หลวงพ่อปรีชา แห่งวัดเขาอิติสุคโต ท่านกล่าวคติสอนใจเรื่องนี้ไว้ว่า....

" ก็เพราะท่านจิตบริสุทธิ์ ไม่มีความโกรธ ไม่มีความโลภ ไม่มีความหลง จิตท่านบริสุทธิ์ ไม่มีรสกิเลสเจือ เปรียบได้กับน้ำใสเย็นที่เป็นที่พึ่งเป็นที่พักใจของสัตว์โลก เมื่อจิตท่านบริสุทธิ์แล้ว ท่านจะหยิบแตะสิ่งใดด้วยใจอันบริสุทธิ ก็ย่อมทำให้สิ่งนั้นพลอยบริสุทธิ์ไปด้วย

แม้กระทั่งน้ำทะเลที่เค็มแต่เมื่อท่านเอาความบริสุทธิ์ใสสะอาดลงไปสัมผัสแล้ว ก็พลอยทำให้น้ำทะเลจืดใสตามไปด้วยอำนาจแห่งความบริสุทธิ์ที่มาจากใจนั้นเป็นอำนาจอันมหาศาลไม่มีประมาณย่อมยังประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวมให้เกิดขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์

ฉะนั้นการเพียร การรักษาใจให้ถึงซึ่งความบริสุทธิ์ จึงเป็นงานสำคัญเป็นหน้าที่ของนักบวช นักประพฤติพรหมจรรย์ต้องเข้าถึงตรงนี้ให้ได้ "

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก wikipedia.org 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล