
หลายคนอาจจะเกิดข้อสงสัยว่าทำไม แค่การตั้งชื่อเรียก หรือการตั้งชื่อลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญนัก "ชื่อ" นั้นเป็นเสมือนเครื่องยืนยันตัวตนที่ทำให้บุคคลอื่นจดจำและเรียกขานเราได้อย่างถูกต้อง พ่อแม่บางคนมีความกังวลเกี่ยวกับการตั้งชื่อลูกเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ว่าเดินทางไปหาพระ หรือเกจิอาจารย์ดังที่เคารพนับถือให้ทำการตั้งชื่อให้ เพราะว่าเชื่อว่าจะมีความเป็นมงคลและจะเป็นสิ่งที่อยู่ติดตัวลูกไปจนโต ถ้าหากไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อนั้นก็จะอยู่ติดตัวลูกไปตลอดชีวิต แต่มงคลใดจะสู้ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้จริงหรือไม่ ?
วันนี้ มีเรื่องราวดีๆ และหลักการคร่าวๆ ในการตั้งชื่อลูกมาฝากกัน จริงๆ แล้วการตั้งชื่อลูกที่มีความหมายดีๆ ไม่ใช่เรื่องยาก พ่อแม่ทุกคนสามารถทำได้ ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย
หลักการตั้งชื่อลูกให้เป็นมงคล
สำหรับการตั้งชื่อลูก จะมีสิ่งที่ต้องคำนึงอยู่ ดังนี้ ก็คือ บริวาร อายุ เดช ศรี มูละ อุตสาหะ มนตรี กาลกิณี
ลำดับของทักษาประจำวัน
ตั้งชื่อลูก
ถึงแม้ว่าการตั้งชื่อลูกนั้นจะสามารถทำได้หลายวิธี แต่โดยส่วนมากพ่อแม่ก็มักต้องการให้ชื่อนั้นมีความเป็นมงคล ซึ่งอาจนำไปให้พระเกจิที่ตนรู้จักตั้งให้บ้าง หรืออาจจะใหญ่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือตั้งให้บ้าง นั่นก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่หากใครที่ยังไม่แน่ใจว่าตั้งชื่อลูกแบบไหนจึงจะดี แบบไหนที่เรียกว่าเป็นมงคล ลองมาดูหลักนามศาสตร์ที่เป็นการดูปัจจัยอื่นๆ เข้ามาประกอบเพื่อให้ลูกได้ชื่อที่ดี มีคำเพราะ และเป็นมงคลอีกด้วย
คนไทยส่วนใหญ่ต่างก็นับถือศาสนาพุทธเป็นหลัก ฉะนั้นเราก็สามารถที่จะนำเอาหลักของศาสนาพุทธเข้ามาเกี่ยวโยงกับตั้งชื่อลูกเป็นอันดับแรก ในทางพุทธศาสนาล้วนให้ความสำคัญกับกฎของการกระทำ หรือที่เราเคยได้ยินกันจนคุ้นหูว่า กฎแห่งกรรม เป็นหลักสำคัญในผลต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากระทบชีวิตของแต่ละคนมากที่สุด
ซึ่งการที่แต่ละคนถูกส่งให้ไปอยู่ภายใต้อิทธิพลของดวงดาวดวงไหนนั้น ล้วนมีเหตุผลมาจากกรรมที่คุณเองเคยได้ทำเอาไว้ในอดีตชาติไม่ว่าจะดี หรือร้าย ส่วนเรื่องของดาวนั้นก็เป็นปลายเหตุให้เหล่าโหราจารย์ผู้ที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับอดีตชาติทั้งหลายเก็บบันทึกข้อมูลและนำมาทำนานทายทักกันในภายหลัง
โดยตามตำราท่านว่า ทุกๆ สิ่งที่อยู่ในจักรวาลจะถูกควบคุมโดยอิทธิพลของดวงดาวต่างๆ กัน ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวอักษรที่เราใช้กันและนำมาตั้งเป็นชื่อด้วย
ฉะนั้นขอบอกสั้นๆ ง่ายๆ ว่า ไม่ว่าเราจะถูกตั้งชื่อให้อยู่ภายใต้อิทธิพลของดวงดาวไหนก็ตามก็ไม่สำคัญเท่ากับการกระทำของตัวเอง ต่อให้ตั้งไว้ดีแค่ไหน ถ้าการกระทำปัจจุบันไม่ดี ก็ต้องถูกโดนจับไปโยนอยู่ภายใต้อิทธิพลของดวงดาวที่ให้ผลร้ายไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม
หนึ่งในศาสตร์ที่เป็นแม่บทของโหราศาสตร์ในบ้านเรา คือ มหาทักษา ที่โหราจารย์ส่วนใหญ่ต่างก็ยึดตามหลักของมหาทักษาเป็นอันดับแรกก่อน จากนั้นก็ค่อยนำเอาศาสตร์อื่นมาประกอบในการตั้งชื่อ หากคุณนำชื่อไปโหราท่านอื่นดูแล้วบอกว่าไม่ดี ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเปลี่ยนเพราะเป็นชื่อที่ดีก็ต้องไม่ตื่นตระหนกไป
เอาเป็นว่าถ้าโครงสร้างเสาหลักมั่นคงแข็งแรง แล้วทำไมถึงยังต้องการแต่งเติมเสริมบ้านเข้าไปอีก บางคนอาจมองว่าดีแล้ว ในขณะที่บางคนมองว่าไม่สวย เกะกะ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะมองแบบไหน หรือชอบแบบไหน ขอแค่ให้บ้านหลังนี้คุ้มแดดคุ้มฝนได้ และเจ้าของก็ภูมิใจกับบ้านของตัวเองก็เป็นพอ
ฉะนั้น ถ้าจะเอาทุกหลักการมาใช้รวมกันก็อาจจะเกิดความยุ่งยากในการประสมอักษรให้กลายเป็นภาษามนุษย์ อยากให้ยึดหลักสัก 2 อย่างก็เพียงพอ ได้แก่ หลักมหาทักษา กับ หลักเลขศาสตร์ โดย 2 หลักนี้จะช่วยให้คุณสามารถตั้งชื่อได้เองง่ายๆ อาศัยเครื่องมือจากอินเทอร์เน็ตเพียงเล็กน้อยก็สามารถตั้งชื่อลูกได้แล้ว
ต่อมาเมื่อได้ชื่อแล้ว ก็ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ทำนายชื่อ ใส่วันเกิด พร้อมกับชื่อที่ตั้งไว้ สมัยนี้เว็บไซต์ส่วนใหญ่จะคำนวนหลักเลขศาสตร์มาให้เรียบร้อย สะดวกกว่าการเดินไปที่ร้านสะดวกซื้อเสียอีก
ซึ่งเลขที่แนะนำให้ใช้เมื่อคำนวณออกมา ได้แก่ 5, 9, 14, 15, 24, 36, 40, 41, 42, 45, 50, 51, 54, 56, 59, 60, 63, 65, 69, 90, 92, 95, 96, 99, 104, 105 เอาแค่พอสังเขป เพราะยังมีตัวเลขอีกเยอะมาก จากนั้นก็เอาเลขเหล่านี้มาบวกกับเลขที่เป็นนามสกุล เลือกจนกว่าจะได้ชื่อที่พอใจ
เมื่อได้ชื่อที่คิดว่าดีที่สุดแล้ว คราวนี้ก็อย่าหวั่นไหวง่ายๆ ถ้าหากว่ามีใครมาทักท้วงว่าต้องแก้ตรงนั้น หรือตรงนี้ แต่ก็ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับการตั้งชื่อลูกอีกมากที่ยังไงก็อธิบายให้รู้กันวันนี้คงไม่หมด
และอีกหนึ่งสิ่ง หากว่าพ่อแม่อยากได้ชื่อลูกที่ดีที่สุด หรืออยากได้ชื่อที่พิสดารที่สุด พิสดารจนกระทั่งบางทีก็ไม่อาจจะรู้ความหมายของชื่อนั้นได้ อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่า กรรม หรือการกระทำสำคัญที่สุด ต่อให้ชื่อดี แต่กรรมเดิมที่มีไม่ดียังไงก็หนีไปไม่พ้น
ในทางกลับกัน ถึงแม้ว่าพ่อแม่จะไม่ได้ชื่อที่สมบูรณ์แบบ เพียบพร้อมที่สุด แต่กรรมเดิมที่ทำมาดีก็รับรองได้ว่ายังไงก็ไม่ตกอับ ขอแค่ให้ตั้งชื่อออกมาแล้วภูมิใจ ไม่อายใคร ประกอบกับอบรมสั่งสอนให้ลูกของคุณปฏิบัติตัวให้ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ดีต่อคนอื่น รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักระลึกบุญคุณคนที่สมควรระลึก หมั่นสร้างกรรมใหม่ที่ดีอยู่เสมอ รับรองได้ว่ามันจะคุ้มค่าและย่นระยะเวลาพลิกแผ่นดินเฟ้นหาชื่อที่ดีแน่นอน
หากเทียบค่าในทางคณิตศาสตร์ ให้ลองคำนวณออกมาเป็นตัวเลข ให้อิทธิพลที่มีผลกับชีวิตอย่างมากที่สุด คือ 30% ในขณะที่อิทธิพลจากกรรมเป็น 100% จะตีลังกาบวกลบคูณหารอย่างไรก็เทียบกันไม่ได้
อักษรที่เหมาะสำหรับวันเกิดของ คนในแต่ละวัน
อักษรที่ห้ามนำมาใช้ตั้งชื่อ คือ อักษรช่องกาลกิณี ของแต่ละวัน (ความเชื่อส่วนบุคคล)
คราวนี้เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้ทำการตั้งชื่อจริงของลูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่อยากที่จะตัดชื่อจริงออกมาเป็นชื่อเล่นเราเลยเสนอทางเลือก พร้อม 10 คำแนะนำในการตั้งชื่อเล่นให้กับลูกมาฝาก เผื่อว่าจะเป็นไอเดียที่ดีและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ง่ายขึ้น
สำหรับการตั้งชื่อเล่นให้กับลูกในสมัยนี้นั้นมีความพิเศษมากกว่าการตั้งชื่อเล่นให้กับลูกในสมัยที่ผ่านมา เพราะเมื่อก่อนจะนิยมตั้งชื่อเล่นให้ลูกเพียงพยางค์เดียว หรืออาจะตั้งชื่อเล่นให้ลูกเป็นสิ่งของที่มีค่า อีกทั้งการตั้งชื่อเล่นนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของพ่อแม่ส่วนใหญ่ ยิ่งในยุคนี้มีลูกแค่เพียงคนเดียวก็คิดหนักว่าจะให้ลูกมีชื่อเล่นว่าอะไรดี โดยส่วนใหญ่จะเป็นชื่อที่มี 2 พยางค์ ถึงตอนนี้มาดูกันดีกว่าว่าการที่จะได้ชื่อเล่นนั้นมามีส่วนประกอบจากอะไรบ้าง
และทั้งหมดนี่ก็เป็นเรื่องราวและเทคนิคในการตั้งชื่อให้กับลูก ทั้งชื่อเล่นและชื่อจริง นอกจากนั้นยังมีรูปแบบและวิธีการอื่นๆ อีกมาก ใครที่ชื่นชอบในความหมายแบบใด หรือวิธีใดก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กันได้ แต่ให้คำนึงถึงผลที่จะตามต่อตัวลูกให้รอบคอบ จะได้ไม่ต้องมาคอยเปลี่ยนชื่อใหม่ในภายหลังยังไงล่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก www.snowbrand.co.th, maerakluke.com, enfababy.com, mamaexpert.com, theasianparent.com
ขอบคุณภาพประกอบจาก Thinkstockphotos.com