คำสาปใต้น้ำ! เช็ก 4 ข้อห้าม "วันลอยกระทง" คนโบราณเชื่อว่าหากทำผิด "เคราะห์จะกลับมาหาตัว"

คำสาปใต้น้ำ! เช็ค 4 ข้อห้ามวันลอยกระทง ที่คนโบราณเชื่อว่าหากทำผิด "เคราะห์จะกลับมาหาตัว"

ประเพณีวันลอยกระทงในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองนั้น ไม่ได้มีเพียงความสวยงามของแสงเทียนและโคมลอยเท่านั้น แต่ยังเป็นพิธีที่เกี่ยวพันกับความเชื่อเรื่องการสะเดาะเคราะห์และการขอขมาต่อพระแม่คงคา ซึ่งแฝงไว้ด้วยข้อห้ามและข้อควรระวังที่คนโบราณเชื่อว่า หากทำผิดไป "เคราะห์ร้าย" ที่ลอยออกไปอาจกลับมาหาตัว

การกระทำบางอย่างที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตราย อาจถูกตีความในเชิงลบตามคติโบราณ หรือนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงในงานเทศกาลได้ บทความนี้ได้รวบรวม 4 ข้อห้าม ตามความเชื่อที่ควรระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้การลอยกระทงของคุณเป็นไปเพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างแท้จริง

• รู้หรือไม่? "เพลงรำวงลอยกระทง" เพลงอมตะที่แต่งในเวลาไม่ถึง 30 นาที กำเนิดในรั้วมหาวิทยาลัยดัง!

4 ข้อห้ามตามคติโบราณ หากทำผิด "เคราะห์จะกลับมาหาตัว"

ข้อห้ามเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนโบราณถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้ที่ลอยกระทงเพื่อ "ลอยเคราะห์" ซึ่งความเชื่อเหล่านี้มีรากฐานมาจากความศรัทธาต่อแม่น้ำและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาสายน้ำ

1. ห้ามลอยกระทงแยกจากคนรัก: หากมาลอยกระทงร่วมกันเป็นคู่รัก โบราณถือว่าหากกระทงลอยแยกจากกัน หรือลอยกระทงคนละอัน เป็นลางร้ายที่สื่อถึงการแตกแยกและการเลิกราในชีวิตคู่ ผู้ที่เชื่อจึงนิยมลอยกระทงร่วมกันเพื่อเป็นการอธิษฐานให้ชีวิตรักมั่นคงและอยู่คู่กันตลอดไป
2. ห้ามปล่อยให้กระทง "คว่ำ" หรือ "จมน้ำทันที": เมื่อกระทงลอยออกจากฝั่งแล้ว ห้ามให้กระทงคว่ำหรือจมน้ำโดยเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าเป็นการบอกลางถึงความล้มเหลว ความโชคร้าย หรือเคราะห์กรรมที่ยังไม่ถูกสะเดาะออกไปจากตัว ควรประคองให้กระทงลอยออกไปอย่างราบรื่นจนลับตา จึงจะถือว่าเป็นการลอยเคราะห์ที่สมบูรณ์
3. ห้ามเก็บเหรียญหรือเงินในกระทงที่ลอยออกไปแล้ว: การเก็บเหรียญในกระทงที่ลอยออกไป ถือเป็นการ "เก็บความทุกข์" หรือ "รับเคราะห์" ของผู้อื่นเข้ามาใส่ตัว แม้ว่าในปัจจุบันจะไม่มีกฎหมายห้ามไว้ แต่ก็เป็นข้อควรระวังเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุจมน้ำจากการลงไปเก็บเหรียญในน้ำด้วย
4. ห้ามใช้กระทงที่ทำจากวัสดุผิดธรรมชาติ: แม้กระทงจากวัสดุสมัยใหม่อาจดูสวยงาม แต่คนโบราณถือว่าการขอขมาต่อพระแม่คงคา ต้องใช้สิ่งที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติเท่านั้น การใช้โฟม หรือพลาสติกจำนวนมาก ถือเป็นการสร้าง "มลทิน" ให้กับสายน้ำ ซึ่งอาจทำให้สิ่งที่อธิษฐานไปไม่ประสบผลสำเร็จ

ข้อควรระวังที่ส่งผลต่อ "เคราะห์" และชีวิตในปัจจุบัน

นอกเหนือจากข้อห้ามตามคติโบราณ ยังมีข้อควรระวังในวันลอยกระทงที่ส่งผลต่อความปลอดภัยและ "เคราะห์กรรม" ในชีวิตจริง ซึ่งภาครัฐได้มีการเตือนและกำหนดบทลงโทษไว้อย่างชัดเจน

1. การจุดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ: แม้จะเป็นการเฉลิมฉลอง แต่การจุดพลุในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น และมีโทษจำคุก หรือปรับสูงถึง 60,000 บาท ตาม พ.ร.บ. การเดินอากาศ
2. การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด: การดื่มสุราจนขาดสติ นำไปสู่การทะเลาะวิวาท อาชญากรรม หรืออุบัติเหตุพลัดตกน้ำ ซึ่งเป็น "เคราะห์กรรม" ที่เกิดจากการประมาทของตนเอง
3. การปล่อยเด็กอยู่ตามลำพัง: ความเสี่ยงสูงสุดในวันลอยกระทงคืออุบัติเหตุจมน้ำ พ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพราะความประมาทเพียงเล็กน้อยอาจนำมาซึ่ง "ความทุกข์" และความสูญเสียใหญ่หลวงได้

ลอยเคราะห์ให้เป็นมงคล ปลอดภัยจากคำสาป

วันลอยกระทงเป็นวันที่ควรรวมจิตใจให้บริสุทธิ์และระมัดระวังเป็นพิเศษ การทำตาม 4 ข้อห้าม ตามความเชื่อโบราณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลอยกระทงคู่ หรือการไม่เก็บเหรียญ จะช่วยให้จิตใจสงบและรู้สึกเป็นสิริมงคล

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อควรระวังด้านความปลอดภัย เพื่อให้คุณและครอบครัวสามารถร่วมสืบสานประเพณีไทยนี้ได้อย่างปลอดภัย ห่างไกลจาก "เคราะห์กรรม" ที่เกิดจากความประมาทในยุคปัจจุบัน

• ครั้งแรกที่ต่างชาติบันทึกถึง “สยาม” เมื่อ 500 ปีก่อน รู้ไหมว่าพวกเขาพูดถึงเราอย่างไร?
• 7 ต้นไม้ ที่ปลูกไว้หน้าบ้าน "ดึงดูดเงิน" เหมือนขั้วแม่เหล็ก อยากแนะนำให้ทุกคนรู้!