สงกรานต์นี้ มูอะไรชีวิตสุดปังรับปีใหม่ไทย โดย ต.เต้ย พรหมญาณ

สงกรานต์นี้ มูอะไรชีวิตสุดปังรับปีใหม่ไทย โดย ต.เต้ย พรหมญาณ

สงกรานต์นี้ มูอะไรชีวิตสุดปังรับปีใหม่ไทย โดย ต.เต้ย พรหมญาณ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กราบสวัสดีงาม ๆ แบบเบญจางคประดิษฐ์ เจ้าค่ะ คุณ FC ทุกท่าน วันนี้เต้ยมีเรื่องเล่า พร้อมเคล็ดลับ เสริมมูวันสงกรานต์ มาฝากคุณ FC ที่น่ารักนำไปเสริมสิริมงคลรับวันปีใหม่ไทยกันค่ะ

วันสงกรานต์ที่คนไทยเราทราบกันว่าเป็นวันปีใหม่ไทย ที่เราลูกๆหลานๆถือเป็นอีกหนึ่งวาระที่ได้ไปกราบผู้หลักผู้ใหญ่ เพื่อรดน้ำดำหัว ขอพรให้เป็นศิริมงคลกับชีวิต และ เป็นวันที่ได้เล่นน้ำ กระหน่ำสาดนำให้คลายร้อนกันตามประเพณีแล้วนั้น

วันสงกรานต์ ตามหลักทางโหราศาสตร์ คือ วันที่เทวดาพระอาทิตย์ หรือ “องค์รวิเทวา” เคลื่อนที่เข้าสู่ราศีใหม่ สอดคล้องกับคำว่า “สงกรานต์” ที่หมายถึง การก้าวขึ้น หรือ การเคลื่อนที่ ทำให้ในความจริงแล้วทุกเดือนต่างมีวันสงกรานต์ เรียกว่า “สงกรานต์เดือน” แต่ที่เรารู้จักเพียงสงกรานต์ในเดือนเมษายน เป็นเพราะเดือนนี้มีความสำคัญมากที่สุด และยังถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย การที่สงกรานต์เดือนนี้ถูกนับเป็น “วันปีใหม่ไทย” นั้น มีที่มาจากการที่ทางโหราศาสตร์ให้ราศีเมษเป็นจักรราศีแรกสุด การเคลื่อนที่เข้าสู่ราศีเมษจึงเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ สงกรานต์เดือนนี้จึงมีความพิเศษมากกว่าเดือนอื่นๆ และเริ่มใช้มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2483 จึงได้เปลี่ยนไปใช้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามแบบสากล โดยตามปกติแล้ว เทศกาลสงกรานต์มีระยะเวลา 3 วัน หรือช่วงวันที่ 13-15 เม.ย. ของทุกปี

พิธีทางชาวบ้าน การทำบุญในวันสงกรานต์ อาจจะทำการตักบาตรทำบุญได้ 2 แห่งคือ ที่วัดหรือใน บริเวณงานที่จัดไว้แล้ว ช่วยกันขนทราย มาก่อเป็นเจดีย์ขนาดต่างๆ ในบริเวณวัด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ให้ใช้ก่อสร้าง หรือถม พื้นที่ เป็นเรื่องที่ถือว่าได้บุญและสนุกสนาน แต่ไม่มีข้อจำกัดว่าต้องทำทุกวัด การปล่อยนกปล่อยปลา เป็นการทำบุญสรงน้ำพระ วันที่ 12 เป็นวันที่ลูกหลานรวมกันไปรดน้ำผู้ใหญ่ เป็นเรื่องของการแสดงคารวะต่อผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ขอพรท่านก็จะให้ศีลให้พรให้มีความสุขตลอดปีใหม่ การทำบุญอัฐิ เป็นเรื่องที่นิยมทำแบบนิมนต์พระ ชักบังสุกุลอัฐิของญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ถ้าไม่มีอัฐิจะเขียนชื่อผู้ที่ล่วงลับไป แล้วก็ได้

แต่..แต่ๆ..แต่.. ถ้าเป็น ต.เต้ย จะเอาอะไรมาแนะนำทั้งที จะมาเล่าๆธรรมดา แนะนำให้ไหว้ ให้มูอะไรแบบพื้นๆได้ยังไงกัน
อันดับแรก พระพรหมณ์ จัดของ 4 ชุด น้ำมะพร้าว พวกมาลัยดอกมะลิ ดอกบัวสีขาว เทียนสีขาว ขนมสีขาว ประคำสีขาว ขอพระอย่างตั้งใจและมีสมาธิว่าให้ ปีนี้ทั้งปี มีชีวิต…(อะไรว่าไป)….ตลอดปีเถอญ (ไหว้ที่บ้านก็ได้นะคะ เอาที่สะดวก)

อันดับสอง นางสงกรานต์ แต่ละปีต้องมีอะไรพิเศษแตกต่างกันไป ปีนี้นางสงกรานต์เป็น นางมโหทรเทวี แนะนำให้ วันที่ ๑๒ เมษายน เป็นวันจัดเตรียมข้าวของและจัดทำสิ่งจำเป็นก่อน เรียกว่า วันสุกดิบ เช้ามืดวันที่ ๑๓ เมษายน วันมหาสงกรานต์ หรือวันกรานต์ข้าวแช่ ข้าวแช่ ๑ ชุดพร้อมด้วยดอกไม้ ธูปเทียน จุดบูชาถวายข้าวแช่แด่นางสงกรานต์ โดยเอาตั้งไว้บนศาลเพียงตาที่ปลูกเตรียมไว้ ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ใช้เป็นโต๊ะตั้งกลางแจ้งภายในบ้านได้คะ ภายหลังเสร็จสิ้นการถวายข้าวแช่ต้อนรับนางสงกรานต์หรือไว้นางสงกรานต์แล้ว ก็จะนำข้าวแช่ถวายพระสงฆ์และเลี้ยงเพื่อนบ้านที่มาร่วมงาน (ช่วงเวลานี้ถ้าเป็นคนโบร่ำโบราณ จะเป็นการเตรียมตัวบวช ถ้าเป็นผู้ชายโดยเอาระยะเวลานี้บวชกัน แต่..เรา หาวันสะดวก ถือศีล ปฏิบัติธรรม 3-7 วัน ก็ได้ค่ะ เล่นน้ำกันสัก 1 กรุบกันก่อน แล้วค่อยจัดไปนักศีลบวชกันที่วัดก็ไม่ช้าไปนะคะ)

**ข้อนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่นะคะ จริงๆโบราณทำกันมาตลอดนะคะ แต่ได้เลือนหายไป**

อันดับสาม บูชากราบเท้าพ่อ แม่ อันนี้ไม่ยากเลยค่ะ ขั้นตอนไม่แยะ เตรียมน้ำล้างเท้าท่าน แล้วกราบขอขมาสิ่งที่เราเคยทำไม่ดี ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ดี ขอให้ท่านเอ่ย อโหสิกรรม ให้กับเรา และอวยพรให้เรา จบ.(ใครจะเอาดอกไม้ มาลัยให้ท่าน อะไรว่าไปเลยค่ะ)

ต่อมาก็ถึงเวลาที่สุดแต่จะนัดหมายกัน สนุกสนามรื่นเริงบันเทิงใจ จัดขึ้นเพื่อเชื่อมความสามัคคีในหมู่คณะ พากันเฮโฮไปค่ะ เล่นน้ำ สาดกันให้ฉ่ำเป็นการอนุรักษ์ประเพณี ต่างๆ ในท้องถิ่นไว้ด้วย อ๋อ..อย่าลืมแวะไปวัด ไหว้พระ ทำบูญชำระหนี้สงฆ์ ทรงน้ำพระกันหน่อยก็ดีนะคะ ยิ่งตอนนี้ประเพณีสงกรานต์ของประเทศไทย องค์การยูเนสโก (UNESCO) ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติกันไปแล้วด้วยนะคะ

21 วันเต็ม ณ ประเทศไทย อย่าเบา เหล่าเลือดรักชาติต้องไม่แผ่วนะคะ สาดน้ำคล้ายร้อน ให้เป็นสิ่งสนุกสนานรื่นเริง อย่าเล่นอะไรเกินงาม ความน่ารักของคนไทยซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของสงกรานต์ไทยนะคะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook