"ครูบาน้อย" เล่าเรื่องลี้ลับ ระหว่างการธุดงค์ครั้งสุดท้าย

"ครูบาน้อย" เล่าเรื่องลี้ลับ ระหว่างการธุดงค์ครั้งสุดท้าย

"ครูบาน้อย" เล่าเรื่องลี้ลับ ระหว่างการธุดงค์ครั้งสุดท้าย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับบรรดาลูกศิษย์เป็นอย่างมาก หลังจาก "พระญาณวิไชย ภิกขุ" หรือ "ครูบาน้อย" วัดถ้ำเชตวัน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่านได้ละสังขารอย่างสงบด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวด้วยสิริอายุรวม 34 ปี โดยครูบาน้อยเป็นที่เคารพต่อบรรดาลูกศิษย์มากมาย เพราะครูบาน้อยเป็นผู้ทำเทียนสะเดาะเคราะห์ เทียนสืบชะตา เทียนสีวลี การปลุกเสก การดูฤกษ์ยามต่างๆ ที่โด่งดังในภาคเหนือ

ครูบาน้อย



ปกติครูบาน้อยมักจะปลีกวิเวกตัดขาดจากโลกภายนอก และเข้าไปปฏิบัติธรรมในพุทธสถานถ้ำเชตวัน อีกทั้งที่ผ่านมายังประกาศตัดทางโลก 3 ปีเพื่อเข้าบำเพ็ญกรรมฐานในถ้ำตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2557 จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2560 เช่นเดียวกับครูบาบุญชุ่ม ที่ได้ปฏิบัติมาก่อนหน้านั้น

นอกจากนั้นที่ผ่านมาครูบาน้อยยังออกธุดงค์อย่างสม่ำเสมอ และจากการธุดงค์ครั้งสุดท้ายครูบาน้อยยังได้บันทึกเรื่องลี้ลับไว้ด้วยว่า

"...ข้าพเจ้าจำได้ว่าการธุดงค์ครั้งสุดท้ายของข้าพเจ้า แตกต่างจากทุกๆครั้ง คือแต่ก่อนข้าพเจ้ามักชอบเดินตามลำพังองค์เดียว เพื่อตัดความเป็นปลิโพธิเป็นห่วงกับคนอื่น แต่ครั้งสุดท้ายที่ข้าพเจ้าออกธุดงค์ ข้าพเจ้ามุ่งหน้าไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีสามเณรติดตามไปองค์หนึ่ง คือ สามเณรเอก การธุดงค์ครั้งนี้ข้าพเจ้าเริ่มออกจากเมืองน่านและแวะกราบครูบาป่านิกร ที่ปางประทีป อำเภอลี้ พักอยู่กับครูบา๒-๓วัน ก็เดินทางจากปางประทีป อำเภอลี้ ไปทางบ้านผาต้าย ห้วยทราย แม่กองวะ แม่ลาน จนทะลุออกบ้านทุ่งโป่ง อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่

ครูบาน้อย
 

สุนัข ๓ ขา อาสานำทางไปธุดงค์

พอมาถึงบ้านกองวะ มีสุนัข ๓ ขา ตัวหนึ่ง อีกขาหนึ่ง คงได้รับบาดเจ็บ หอบสังขารของมันวิ่งเข้ามาทำความคุ้นเคยกับข้าพเจ้า และมันก็ออกวิ่งนำหน้านำทางข้าพเจ้าไปเรื่อยๆ ตอนแรกข้าพเจ้าก็ไม่สนใจอะไรกับมันเพราะคิดว่ามันคงตามไปไม่ไกล แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันทั้งวิ่งทั้งเดิน ตามข้าพเจ้าผ่านหมู่บ้านแล้วหมู่บ้านเล่า จนข้ามจังหวัด ข้าพเจ้ากับสามเณรพยายามไล่ให้มันกลับบ้าน  เพราะเกรงว่าจะมีอันตรายกับมัน และข้าพเจ้าก็ยังไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร กลัวว่าจะต้องทิ้งมันไว้ ณ ที่ใดที่หนึ่ง แต่มันก็ไม่ยอมกลับ ยังคงวิ่งนำทางข้าพเจ้าไปเรื่อยๆ ข้าพเจ้าไปจนทะลุถึงบ้านทุ่งโป่ง อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ คืนนั้นข้าพเจ้าแวะปักกรด ณ ริมน้ำห้วยแม่หาดใกล้ๆกับบ้านทุ่งโป่ง และยังคงมีเจ้าสุนัข ๓ ขาคอยอารักขาติดตามอยู่ไม่ห่าง หรือว่ามันอาจมีกรรมที่ต้องมาตามข้าพเจ้า และในใจของข้าพเจ้าก็ยังหวั่นอยู่ไม่น้อยว่า มันจะสามารถตามข้าพเจ้าไปได้แค่ไหนยังไม่อาจทราบได้

ครูบาน้อย


 
ผีหลอก หรือจิตหลอกกันแน่

พอข้าพเจ้าปักกรดที่ริมห้วยแม่หาด เย็นวันนั้นพอจักแจงบริขารเสร็จ ก็ลงไปสรงน้ำในแม่น้ำ เสร็จแล้วก็เข้าภาวนา ข้าพเจ้าเลือกปักกรดใต้ต้นมะขาม ส่วนสามเณรปักกรดอยู่ริมกอไผ่ห่างกันพอสมควร ข้าพเจ้าไหว้พระสวดมนต์ภาวนาและแผ่เมตตา ก็ล้มตัวลงนอนด้วยความอ่อนเพลียที่เดินทางไกลมาทั้งวันเป็นเวลาดึกกี่โมงไม่ทราบ หูของข้าพเจ้าได้ยินเสียงวัตถุชนิดหนึ่งมีขนดใหญ่ตดลงใกล้ๆกับกรด ข้าพเจ้าลืมตาดูแต่ด้วยความมืดจึงทำให้สายตาของข้าพเจ้าไม่สามารถมองเห็นอะไรได้และเสียงนั้นก็กลายเป็นเหมือนเท้าใหญ่ๆเดินเหยียบใบไม้แห้งเข้ามาใกล้ๆกับกรดของข้าพเจ้า แล้วเดินวนอยู่อย่างนั้น ข้าพเจ้าพยายามควานหาไฟฉาย แล้วก็ส่องดูบริเวณรอบๆก็พบแต่ความว่างเปล่า ตอนแรกข้าพเจ้าคิดว่าเจ้าสุนัข ๓ขา แต่ส่องไฟดูมันก็กำลังนอนหลับสบายอยู่ใต้พุ่มไม้ใกล้แม่น้ำ ซึ่งไกลมาก ข้าพเจ้าจึงตะโกนปลุกสามเณรให้ตื่นและลุกขึ้นภาวนา แผ่เมตตาให้แก่เจ้าที่เจ้าทาง จนสว่าง ก็เป็นอันไม่ได้นอนทั้งคืนในคืนนั้น"

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ "ครูบาน้อย" เล่าเรื่องลี้ลับ ระหว่างการธุดงค์ครั้งสุดท้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook