ความเชื่อในตำราโบราณ สิริมงคล 8 ประการ สำหรับการดำเนินชีวิต

ความเชื่อในตำราโบราณ สิริมงคล 8 ประการ สำหรับการดำเนินชีวิต

ความเชื่อในตำราโบราณ สิริมงคล 8 ประการ สำหรับการดำเนินชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การเกต์พยากรณ์ เผยถึงความเชื่อในตำราโบราณ ว่าด้วยเรื่อง สิริมงคล 8 ประการ ข้อปฏิบัติที่มีการกล่าวถึงในตำราโบราณ ที่เชื่อว่าผู้ที่ปฏิบัติตามจะมีความเจริญรุ่งเรือง มีความเป็นสิริมงคล

ย้อนกลับไปว่า ในตำราเก่า ๆ สมัยก่อน มีกล่าวถึงเกร็ดเคล็ดลางความเชื่อกันอยู่เป็นจำนวนมาก หลากหลายเรื่องราว บางเรื่องราว มาถึงยุคสมัยนี้ก็อาจจะไม่มีคนรู้จักกันแล้ว หรือวิถีชีวิตสมัยใหม่ ก็เปลี่ยนไปจากเดิม ไม่อาจจะทำตามได้อีกต่อไป "บางเรื่องก็ต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม" "มากกว่าจะแค่เชื่อ ๆ ตามกันไป" แต่ก็น่าสนใจดีนะคะ ว่าแต่ละอย่างจะยังใช้ได้อยู่หรือไม่ วันนี้จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง และดูกันสิว่า ใครจะสนใจทำตามอยู่บ้างไหม

สิริมงคล 8 ประการ

  1. การเว้นการเสพกามรสในวัน 7 ค่ำ และ 15 ค่ำ วันที่มีจันทรุปราคา มีสุริยุปราคา และวันเกิดของตัวเจ้าชะตา หากทำได้ กล่าวว่า จะมีเทวดารักษา
  2. เมื่อรับประทานอาหาร ได้หันหน้าไปยังทิศตะวันออก จะมีเทวดาให้พร
  3. หากขับถ่ายปัสสาวะ อุจจาระ ให้หันหน้าไปยังทิศตะวันตก เทวดาจะรักษา
  4. หากชายหญิงนอนร่วมกัน ให้หญิงนอนฝั่งซ้าย ชายนอนฝั่งขวา จะมีสิริมงคล
  5. ให้แยกผ้านุ่งห่มกลางวัน กับผ้านุ่งห่มกลางคืนไว้แยกจากกัน ไม่ปะปะทั้งการนุ่ง และการซักชำระ เทวดาจะรักษา
  6. ในยามเช้า จุดสิริมงคลอยู่ที่หน้าผาก ให้ล้างหน้าและระลึกสิ่งที่ดีงาม ในยามล้างหน้า เทวดาจะให้พร
  7. เวลาเที่ยง หรือ 12 นาฬิกา จุดสิริที่อยู่หน้าอก อาบน้ำ ทาแป้ง เทวดาจะรักษา
  8. เวลาค่ำ จุดสิริอยู่ที่หัวแม่เท้าและกลางเท้า ก่อนเข้านอนให้ชำระเท้าให้สะอาด เทวดาจะรักษา

สิริมงคล 8 ประการนี้ กล่าวว่า หากผู้ใดกระทำได้พร้อมมูลครบถ้วน จะมีโชคลาภ รับพรอันดี มีความเจริญรุ่งเรืองสืบไปฯ

สำหรับผู้พยากรณ์แล้ว ในตำราของล้านนา ข้อ 6 7 8 เป็นข้อที่ผู้ใหญ่ยังมักจะสอนเด็ก ๆ อยู่ค่ะ แต่ข้ออื่น ๆ นั้น ก็คิดว่าในยุคสมัยที่ผู้คนกับ "ที่อยู่อาศัย" หรือ "สภาพแวดล้อม" ไม่สามารถกำหนดได้เองแต่ต้นทุกอย่างเสมอไป เช่น ผู้อาศัยในคอนโด หรือบ้านจัดสรร อาจไม่สามารถกำหนดทิศหัวนอนได้เองร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะฟังก์ชั่นของแต่ละห้องขึ้นอยู่กับการออกแบบแต่ต้น

อย่างข้อ 1 - 4 ก็คิดว่า คงยากที่จะหาคนทำตามแล้วแหละ หรือ ข้อ 5 การจะหาเหตุผลแยกซักผ้านุ่งกลางคืนกับผ้านุ่งกลางวัน ประเด็นน่าจะอยู่ที่ประเภทของผ้า มากกว่ามิติทางเวลา (หรืออาจเป็นไปได้ว่า ในสมัยเก่า ช่วงยุคเกษตรกรรม เสื้อผ้าใช้กลางวันจะแปดเปื้อนเหงื่อไคลมากกว่า เสื้อผ้านุ่งนอนกลางคืนจะสกปรกน้อยกว่า จึงควรจะแยกซักเสียแต่ต้น)

ประเด็นที่ผู้พยากรณ์อยากเสนอก็คือว่า เวลาเราได้อ่าน ได้ฟัง ได้รับรู้อะไรมา ก็อาจจำเป็นต้องใช้วิจารณญาณประกอบ ใช้ความคิด ใช้การพิจารณาไตร่ตรอง และดูบริบทแวดล้อมของมันเสมอ

การมีความเชื่อ ความศรัทธา ความชื่นชอบต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดถึงที่สุดแล้ว ก็ต้องประกอบไปด้วยสติ ความรู้ การจำแนกแยกแยะ และการจับประเด็นในส่วนสำคัญ คำว่า "งมงาย-ไม่งมงาย" กับ "ไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลู่" จึงมีความหมายอย่างลึกซึ้งนะคะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook