เสริมดวงปี 2020 รับพลังบวกกับสถานที่ท่องเที่ยว 3 แห่งในจังหวัดนีงาตะ!
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ho/0/ud/38/193241/969265.jpgเสริมดวงปี 2020 รับพลังบวกกับสถานที่ท่องเที่ยว 3 แห่งในจังหวัดนีงาตะ!

    เสริมดวงปี 2020 รับพลังบวกกับสถานที่ท่องเที่ยว 3 แห่งในจังหวัดนีงาตะ!

    2020-10-20T03:45:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ในปี 2020 ทั่วทั้งโลกได้ตกอยู่ในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 การใช้ชีวิตแบบปกติหายไป ผู้คนทั่วโลกต่างก็ต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับการใช้ชีวิตท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยจึงเดินทางไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อรับพลังบวก เสริมดวงชะตา และเพิ่มความกล้าให้สามารถเผชิญหน้ากับอุปสรรคในชีวิต ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ ตั้งแต่ทางเหนือสุดอย่างฮอกไกโด จรดยันตอนใต้ของประเทศอย่างโอกินาว่า ในครั้งนี้จะขอแนะนำสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในจังหวัดนีงาตะให้ทุกคนได้รู้จักกัน

     

    บิจินบายาชิ (เมืองโทโคมาจิ)  บิจินบายาชิ ป่าบีชแห่งปาฏิหาริย์

    ช่วงปลายของยุคไทโช เจ้าของที่ดินในสมัยนั้นได้ตัดต้นบีชทั้งหมด แล้วเอาไปทำเป็นไม้ฟืนและถ่าน จากนั้นก็ย้ายที่อยู่ไปยังภูมิภาคคันโต ภูเขาลูกนั้นจึงไร้เงาของต้นบีชที่สง่างาม กลายเป็นภูเขาโล้นที่น่าสงสาร แต่ในปีต่อมา ต้นอ่อนของต้นบีชที่เคยเติบโต ณ ภูเขาแห่งนี้ก็ได้แตกหน่อขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นก็ค่อยๆ เติบโตขึ้น ผ่านไปสิบปี ก็เกิดปาฏิหาริย์ที่เปลี่ยนภูเขาที่เคยโล้นให้กลายเป็นป่าบีชที่แสนงดงาม ซึ่งต้นบีชในป่าแห่งนี้มีลำต้นที่กว้างและสูงตระหง่าน

     การผลักดันให้มีการปลูกต้นสนทำให้ป่าบีชส่วนใหญ่กลายเป็นป่าสนไป แต่เพราะคนญี่ปุ่นอยากจะคงป่าที่สวยงามแห่งนี้เอาไว้ จึงได้มีการตั้งชื่อว่า “บิจินบายาชิ” ในปัจจุบัน ผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพจากทั่วประเทศก็มักจะมาเยือนยังที่แห่งนี้ ซึ่งในปีหนึ่งก็มีมากถึงหนึ่งแสนคน สถานที่แห่งนี้จึงได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

    หลังจากเดินเล่นในบิจินบายาชิแล้ว หากได้ไปล้างหน้าที่บ่อน้ำ “กระจกแห่งบิจินบายาชิ” ล่ะก็ คุณอาจจะสวยขึ้นก็ได้นะ ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนที่นี่จะเป็นป่าสีเขียวที่แสนสดชื่น ในฤดูใบไม้ร่วงที่นี่จะกลายเป็นป่าสีส้มที่พร้อมร่วงผลัดใบ ส่วนในฤดูหนาวก็ราวกับตกอยู่ในโลกแห่งหิมะสีขาว ป่าบีชแห่งนี้จึงเป็นสถานที่อันแสนวิเศษที่ทำให้อยากมาเยี่ยมชมในทุกฤดูกาล

    เสริมดวงชะตา (ชำระร่างกายและจิตใจ)

    หากได้เดินเล่นในบิจินบายาชิจะได้ยินเสียงของนกที่ร้องเสียงเจื้อยแจ้ว เสียงใบไม้เสียดสีจากสายลมที่พัดผ่าน ได้สัมผัสกับกลิ่นอายของป่า ทำให้ได้รีเฟรชร่างกายและจิตใจ ต้นไม้ที่งดงามเหล่านี้ก็ดูเหมือนจะทำให้ได้รับพลังบวกแห่งปาฏิหาริย์ที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อย่างน่าอัศจรรย์

     

    โอโนงาเมะ (เมืองซาโดะ) สถานที่สถิตแห่งเทพ

    “โอโนงาเมะ” ที่ตั้งอยู่ในเมืองซาโดะคือสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ และยังได้รับรางวัลจาก “Michelin Green Guide Japan” ถึงสองดาว หินขนาดใหญ่นี้มีความสูงราวๆ 167 เมตร และมีรูปร่างเหมือนกับภูเขาที่ยื่นออกไปในทะเล ณ จุดสูงสุดของภูเขาหินนี้มีอนุสรณ์ตั้งอยู่ ซึ่งก็เชื่อกันว่าเป็นตัวแทนของเทพมังกรผู้คุ้มครองนักเดินเรือให้เดินทางได้อย่างปลอดภัย ในสมัยก่อน โอโนงาเมะถูกเรียกว่า “สถานที่สถิตแห่งเทพ” ด้วยพื้นที่แถวนี้มีชื่อว่า “การอ้อนวอน (願い)” ทั้งยังมี “การเรียงหินสำหรับผู้วายชนม์” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงกันระหว่างภพชาตินี้และภพชาติหน้า จึงทำให้มีบรรยากาศที่ดูลึกลับ โอโนงาเมะที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลังของเสาโทริอิช่างดูขลัง และชวนให้คิดว่านี่คือหินแห่งเทพเจ้าจริงๆ

    นอกจากนี้ ดอกไม้จีน (Daylily) ที่ขึ้นอยู่บริเวณโดยรอบจะผลิดอกสีเหลืองและบานสะพรั่งในตอนต้นฤดูร้อน ซึ่งก็คือตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายน ช่วงเวลาดังกล่าวนี้ก็มักจะมีนักท่องเที่ยวมากมายที่เดินทางมาเยือนสถานที่แห่งนี้

    เสริมดวงชะตา (ชำระร่างกายและจิตใจ)

    โอโนงาเมะถูกเรียกว่าเป็น “สถานที่สถิตแห่งเทพ” ที่เมืองซาโดะแห่งนี้ ดูเหมือนว่าเต่าจะมีความหมายถึง “เทพเจ้า” เสาโทริอิที่อยู่ตรงทางเข้าตั้งเข้าหาโอโนงาเมะ จึงทำให้เข้าใจได้ว่ามีความเชื่อเกี่ยวกับโอโนงาเมะอยู่ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการลบหลู่เทพเจ้า เราจึงควรพนมมือแสดงความเคารพต่อสถานที่แห่งนี้ด้วยความนอบน้อม

     

    ศาลเจ้าโคริว (เมืองนางาโอกะ) ผู้สักการะจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศเดินทางมากราบไหว้เทพเจ้าแห่งการค้าขาย

    ผู้คนในเมืองและผู้คนจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศต่างเดินทางมาสักการะ “ศาลเจ้าโคริว” ในฐานะที่เป็นเทพเจ้าแห่งการค้าขายอย่างไม่ขาดสาย ประวัติศาสตร์ของความเชื่อนี้ได้เริ่มขึ้นในสมัยก่อน เมื่อประมาณหกร้อยปีก่อนหน้านี้ โคโนงิ มินบุเอย์โจว ผู้เป็นแม่ทัพแห่งราชสำนักใต้ได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้จนต้องเสียเมืองไป แต่เขาก็ได้รับการช่วยชีวิตด้วยการชี้แนะจากศาลเจ้าโคริวแห่งนี้ หลังจากนั้น ไม่ว่าจะผ่านมากี่ร้อยปี ผู้คนในเมืองต่างก็มีความเลื่อมใสในตำนานแห่งศาลเจ้าโคริวเรื่อยมา

    ศาลเจ้าโคริวมีงูขาวซึ่งเป็นผู้รับใช้ของเทพมังกรที่ถือได้ว่าเป็นร่างจำแลงของจิตวิญญาณแห่งเทพ ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก สิ่งของที่เหมาะแก่การนำไปถวาย ได้แก่ เหล้าที่ใช้สำหรับถวายแด่เทพ ไข่สด และเทียน ซึ่งไข่สดนั้นเป็นของชอบของงูนั่นเอง ศาลเจ้าโคริวมีธรรมเนียมที่ให้ผู้มาสักการะสอดนามบัตรทิ้งไว้ตั้งแต่สมัยก่อน จึงทำให้มีนามบัตรมากมายติดอยู่บนกำแพงแต่ละด้าน มังกรนั้นขึ้นสวรรค์ จึงเป็น “การเพิ่มโชคดี” ส่วนงูขาวนั้นจะให้พรในเรื่อง “โชคด้านการเงินและเพิ่มกำไรในการค้าขาย” จึงทำให้มีผู้คนมากมายแวะเวียนมายังที่แห่งนี้

    เสริมดวงชะตา (ด้านการเงินและความรุ่งเรืองของกิจการ)

    สถานที่ด้านในที่เอาไว้สักการะเทพมังกรกับสถานที่ตรงกลางของศาลเจ้านั้น ว่ากันว่ามีงูขาวอาศัยอยู่จริงๆ เพราะฉะนั้น หากได้เจอเข้าล่ะก็ อาจจะได้รับพรในเรื่องของ “การเงินและการงาน” ก็ได้นะ

     

    ในครั้งนี้ เราก็ได้แนะนำสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในจังหวัดนีงาตะกันไปแล้ว มนุษย์ไม่สามารถเข้มแข็งได้ตลอดเวลา ถ้าหากรู้สึกว่าหัวใจเริ่มอ่อนแอ พลังงานในร่างกายเริ่มหดหาย ก็สามารถมายังสถานที่เหล่านี้เพื่อรับพลังบวกและเสริมดวงชะตาให้ร่างกายและจิตใจกลับมามีพลังที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะลุกขึ้นสู้กับปัญหาต่างๆ ในวันถัดไป

    *ข้อมูลที่เผยแพร่ในบทความนี้เป็นข้อมูลปัจจุบันของเดือนสิงหาคม ปี 2020 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ซึ่งข้อมูลที่ใหม่ที่สุดนั้นสามารถตรวจสอบผ่านทางเว็บไซต์หรือติดต่อสอบถามโดยตรงกับทางสถานที่ไ