เปิดของขลังวัตถุมงคล อาตุ่ย-พุทธชาติ บูชาไว้เตือนใจตน

ใครจะรู้ว่า ดารา พิธีกรอารมณ์ดีอย่าง อาตุ่ย-พุทธชาติ พงศ์สุชาติ เจ้าของผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม PUREPLUS เป็นสายมูตัวแม่ เธอมีของขลังและพระเครื่องติดตัวอยู่ข้างกายเสมอ อีกทั้งยังชอบไปปฏิบัติธรรม 

ซึ่งเธอได้เปิดใจเล่าให้ทีมงาน Sanook! Horoscope ฟังว่าตั้งแต่สมัยวัยเยาว์ เธอเป็นเด็กที่ต้องแขวนพระอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นคนขี้กลัว จิตอ่อน ชอบสร้างความกลัวขึ้นมาเอง หลอนตัวเองเยอะ เป็นคนที่กลัวผีมาก แต่หลังจากนั้นก็เริ่มไปปฎิบัติธรรมภาวนา ก็ได้มองเห็นว่าสิ่งที่เรากลัวนั้น เราเคยต้องประสบเหรอ เพราะในอดีตเราเราก็เคยเป็นผีมาก่อน แล้วเราก็เปลี่ยนเป็นผีมาแล้วไม่รู้ต่อกี่ครั้ง แล้วได้มาเป็นคนรอบใหม่เท่านั้นเอง ทำไมเราจึงต้องมากลัวผี เพราะในภายภาคหน้าเราก็ต้องเป็นผีอยู่แล้ว

ก็เลยทำให้คลายเบาจากการกลัวผีก็เลยไม่ได้แขวนพระมาสักระยะ เพราะมีความเข้าใจต่อสัตว์โลกทั้งหลาย เขาก็มีชีวิตมีความทุกข์ มีความห่วง มีอะไรต่างๆ เหมือนเรา ก็เลยเลิกแขวนพระ แต่แล้วก็กลับมาแขวนพระอีกครั้งหนึ่งในภายหลังเมื่อมีผู้มอบแล้วอยากจะให้เราติดตัวไว้ อีกเรื่องหนึ่งก็คือมีช่วงหนึ่งได้อ่านข่าวเจอแล้วเขาบอกว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ ณ บริเวณที่อยู่ในซอกหลืบถ้าเราเดินไปดีๆ ก็จะเห็นสถานที่เขารับทำอะไรที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

ซึ่งเป็นเมืองของคุณไสย ก็เลยแขวนพระให้สบายใจ แล้วเราก็จะได้ระลึกและระมัดระวังคำพูด การกระทำ และความคิดของเรา เรียกได้ว่ามีพระเครื่องไว้เตือนใจตน จึงต้องประพฤติให้คู่ควร โดยพระเครื่องและของขลังของเธอนั้นมีดังต่อไปนี้

"ท้าวจาตุมหาราชิกา" แห่งมหาราชทั้งสี่ เมื่อแปลแบบเอาความจึงหมายถึง แดนเป็นที่อยู่ของท้าวมหาราชทั้งสี่ หรือ อาณาจักรของท้าวมหาราช 4 องค์ กล่าวคือ สวรรค์ชั้นนี้เป็นดินแดนที่จอมเทพ 4 องค์ผู้รักษาคุ้มครองโลกใน 4 ทิศ ซึ่งเรียกว่า ท้าวโลกบาล ท้าวจตุโลกบาล หรือ ท้าวจาตุมหาราช หรือ สี่ปวงผี ปกครองอยู่องค์ละทิศ และหนึ่งในนั้นก็คือ "ท้าวเวสสุวรรณ" องค์นี้มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่สนิทให้มา คือที่คออาจะไม่มีพระเก่าเลย เนื่องจากว่าพระเก่ามีมูลค่าแล้วงานก็สวยคืออาไม่อาจที่จะนำมาแขวนพกไว้ได้ทุกที่ องค์นี้ก็จะถูกสร้างขึ้นในยุคสมัยใหม่ๆ

>>> บูชา "ท้าวเวสสุวรรณ" มีอำนาจวาสนา สูงสุดทางมหาเศรษฐี ขจัดสิ่งอัปมงคล

อีกองค์ คือ "ปู่ฤาษี" ก็คือฤาษีทั้ง 108 องค์ องค์ที่เป็นพระอาจารย์ของเหล่าเทพเทวดาทั้งหลาย ก็คือ "ฤาษีตาไฟ" องค์นี้ อาก็เคารพนับถือฤาษีตาไฟเพราะว่า ท่านเป็นครูสมาธิ เป็นครูสมาบัติ เวลาที่อธิษฐานขอกำลังใจจากปู่ก็รู้สึกว่ามีกำลังใจมากขึ้น ใจชื้นมากขึ้น เวลาจะขออะไรก็ขอในความปรารถนาที่เป็นกุศล และก็น้อมถวายบุญกุศลแด่เทวดาให้ท่านเมตตาปกปักรักษาเรา องค์นี้ก็คือสร้างขึ้นมาเองในครอบครัวของคุณน้าที่นับถือกัน ซึ่งท่านผู้นี้เป็นผู้ซึ่งชอบสร้างงานศิลปะ

และชิ้นสุดท้ายก็คือ "เพชรพญานาค" เราจะเห็นได้ว่าจะมีลักษณะแบบรี แบบกลมบ้าง เป็นลักษณะต่างๆ ซึ่งก็มีสีแตกต่างกันออกไป ส่วนอันนี้จะเห็นได้ว่าแสงของแก้วจะเป็นสี เขียวเข้ม แต่ที่ทำให้คนเชื่อว่าเป็นเพชรพญานาคเพราะจะมีน้ำหนักถ่วงแบบจำเพาะ ถ้าใครศรัทธา นาคราช ท่านมีฤทธิ์ มีอำนาจ เราก็เคารพนับถือขอให้ท่านปกปักดูแล และคุ้มครอง ซึ่งอาก็ทราบเรื่องราวของ เพชรพญานาค มานานแล้ว เลยรู้สึกว่าหากว่าลูกมีวาสนาจริง ลูกเชื่อและศรัทธา ก็ขอให้มีโอกาสได้เพชรพญานาคมาครอบครอง ซึ่งก็มีผู้ที่อาเคารพ ได้นำมาให้เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่เหมาะกับอา จึงได้นำไปใส่กรอบไว้