"การทำบุญกับพระสงฆ์" เนื้อนาบุญในพระพุทธศาสนา

"การทำบุญกับพระสงฆ์" เนื้อนาบุญในพระพุทธศาสนา

"การทำบุญกับพระสงฆ์" เนื้อนาบุญในพระพุทธศาสนา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พระสงฆ์ ผู้เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า คำว่า เนื้อนาบุญในพระพุทธศาสนา หมายถึง พระภิกษุโดยเฉพาะ หมายถึง ผู้ที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมกัน โดยเฉพาะ ใครที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมให้เต็มที่ เพื่อให้หมดกิเลส เพื่อให้กาย วาจา ใจ บริสุทธิ์ผุดผ่องขึ้นมา คนๆ นั้น เรียกว่า เนื้อนาบุญ ซึ่งผู้ที่จะเป็นเนื้อนาบุญได้อย่างนี้ ก็มีแต่พระภิกษุหรือในสมัยพุทธกาลก็มีภิกษุณี ถ้าจะหย่อนลงมาอีก ก็เป็นนักบวชที่เป็นสัมมาทิฐิ อย่างนี้ท่านเรียกว่าเป็นเนื้อนาบุญ คือ ถือว่าท่านที่มุ่งความบริสุทธิ์เหล่านี้ เปรียบเสมือนนาที่ปลูกข้าว แต่ว่าครั้งนี้ปลูกบุญลงไปแทน โดยญาติโยมที่มาทำบุญด้วย เป็นผู้ปลูกลงไปในเนื้อนานี้

ขนาดพระยังปลูกความบริสุทธิ์ขึ้นมาได้ยากแสนยาก แล้วจะไปหาคนบริสุทธิ์ให้ได้เท่ากับพระมีหรือ ถ้ามี ก็คงจะไปมีเอายุคปลายๆ คือ แสดงความเป็นพระเพียงแต่ว่ามีผ้าเหลืองน้อยห้อยหู คือพระในยุคปลายๆ พระพุทธศาสนา ความเคร่งครัดก็หย่อนลงไปตามลำดับๆ เมื่อถึงยุคหนึ่ง พระที่จะฝึกตนตามพระธรรมวินัยจะค่อยๆ หมดไป เพราะตอนท้ายศาสนา สภาพของโลกนี้ไม่เหมาะในการประพฤติปฏิบัติธรรมแล้ว ช่วงนั้นพระที่ถือศีล ๒๒๗ ข้ออย่างเคร่งครัดคงหาไม่ได้แล้ว ท่านที่ประกาศตัวเป็นพระเหล่านั้น ไม่ใช่พระแท้ๆ เสียแล้ว ความบริสุทธิ์ของท่าน ก็คงเทียบได้เท่ากับความบริสุทธิ์ของชาวโลกเท่านั้น

ถ้าเอาพระปลายยุคพระพุทธศาสนามาเทียบกับคนที่ใกล้เคียงกัน ถ้าอย่างนั้น ใครไปทำบุญกับท่านเหล่านั้น ก็คงจะได้บุญพอๆ กันกับการทำทานกับคนที่เขาตั้งใจ ปฏิบัติธรรม เพราะว่าพระกับคนยุคนั้นมีสภาพใกล้เคียงกันเต็มที เหมือนอย่างปัจจุบันนี้ พระในบางประเทศท่านประกาศตัวว่าเป็นพระภิกษุ แต่ท่านก็มีลูก มีเมีย แต่ท่านก็ว่าท่านเป็นพระ ในสายตาของพระภิกษุในประเทศไทยที่ถือเคร่งครัดตามพระธรรมวินัย ก็ว่าท่านไม่ใช่พระ แต่ประชาชนชาวพุทธ ในประเทศนั้นๆ ก็ยังถือว่าท่านเหล่านั้นยังเป็นพระอยู่

ในกรณีอย่างนี้ ทำบุญกับพระภิกษุประเภทนั้น กับทำบุญทำทานกับชาวบ้านที่ตั้งใจทำความดีในประเทศนั้น ซึ่งศีลคงพอๆ กัน ถ้าอย่างนั้นก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะได้บุญพอๆ กัน แต่ในกรณีที่พระท่านตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมกันจริงๆ จังๆ ตามคำปฏิญาณที่ให้เอาไว้ตั้งแต่วันบวช ว่าจะทำพระนิพพานให้แจ้ง มากำจัดกิเลสให้หมด กาย วาจา ใจ จะได้บริสุทธิ์ มาบวชเอาชีวิตเป็นเดิมพัน บวชอย่างนี้ เป็นเนื้อนาบุญร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นถ้าใครมาทำบุญกับท่าน บุญนี้มหาศาล จะนับจะประมาณไม่หวาดไหว อย่าเอาท่านประเภทนี้ ไปเปรียบกับคนทั่วไปเลย เพราะว่ามันเปรียบกันไม่ได้ แต่ว่าถ้าจะเปรียบต้องเปรียบกับพระยุคปลายพระพุทธศาสนา ส่วนยุคนั้นจะมาถึงเมื่อไรไม่ทราบ แต่ในบางประเทศถึงยุคประเภทนี้แล้ว

ในการทำบุญนั้น เรารู้ดีว่า ถ้าผู้รับนั้นเป็นเนื้อนาบุญสูง อานิสงส์ของบุญนั้นจะมากขึ้นตามเนื้อนาบุญนั้น แต่ก็มีข้อกังขาอยู่เสมอว่า พระสงฆ์ที่รับสังฆทาน หรือที่รับบาตรนั้นเป็นเนื้อนาบุญที่สูงหรือไม่หรือเป็นเพียงคนที่โกนหัวใส่ผ้าเหลือง ในเรื่องนี้ครูบาอาจารย์ท่านสอนวิธีในการใส่บาตรหรือทำสังฆทานที่ได้บุญมากและป้องกันไม่ให้เกิดความไม่สบายใจ สำหรับเวลาที่เราทำบุญกับพระสงฆ์นั้น ให้ทำการอธิษฐานก่อนถวายทานถ้าอธิษฐานไปเลยจากบ้านก็จะยิ่งดีหรือในเวลาก่อนที่จะไปถวาย

ในช่วงเวลาที่อธิษฐาน ของให้สำรวมทำจิตของเราให้นิ่ง แล้วอธิษษฐานให้สังฆทานเหล่านั้นส่งตรงไปถวายกับพระพุทธเจ้าเลยจะได้บุญสูง พระที่รับตรงหน้าเรานั้นเป็นเพียงตัวแทนของพระพุทธองค์ ถ้าท่านจะดีหรือไม่ดี เราไม่ต้องไปสนใจ เพราะจะทำให้จิตเรานั้นตกและมีความกังวล ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะทำบุญกับพระสงฆ์ที่ดีหรือไม่ ขอให้เราทำจิตใจให้บริสุทธิ์ สะอาด รับบุญอย่างเต็มที่ ก็ได้บุญเหมือนกัน สิ่งของที่นำไปใส่บาตรพระ หรือในสังฆทานนั้น ควรจะเป็นสิ่งของที่ดี ประณีต มีคุณภาพ เมื่อวัตถุทานนั้นดีเยี่ยม จิตใจของผู้ให้นั้นมีศรัทธา มีเจตนาในการให้อย่างเต็มเปี่ยม โดยไม่คิดหวังผลตอบแทน มีจิตใจเป็นผู้ให้ทั้งก่อนให้ ในขณะที่กำลังให้และหลังให้ ย่อมมีอานิสงส์มากมาย

ในฐานะที่เราเป็นฆราวาส รู้แล้วว่าเนื้อนาบุญเป็นอย่างไร ก็มีทางเลือกให้ ๒ ทาง คือตั้งใจรักษาศีลตามเพศของตัวเอง คือ อย่างน้อยศีล ๕ ในวันธรรมดา ศีล ๘ ในวันพระ แล้วตั้งใจทำมาหากินด้วยความซื่อสัตย์บริสุทธิ์ เรามีความบริสุทธิ์อย่างนี้ จะไปทำบุญทำทานกับพระรูปไหนๆ ที่ท่านตั้งใจ ประพฤติปฏิบัติชอบแล้วล่ะก็ได้บุญเต็มที่แน่ๆเลยไม่ต้องสงสัย เมื่อเสร็จจากการทำบุญแล้ว ควรอธิษฐานขอพร ขอพระบารมีให้ชีวิตนั้นมีความสุข ไม่มีความขัดข้องและไม่มีในชีวิตอย่างบังเกิดขึ้นนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อุทิศบุญกุศลไปให้แก่ผู้มีพระคุณและเจ้ากรรมนายเวรเสียทั้งญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี แผ่บุญกุศลออกไปวงกว้างต่อทุกดวงวิญญาณ บุญใหม่ที่เราสร้างขึ้นมา จะมากพอที่จะนำให้เราพ้นจากวิบากกรรมไม่ดีบางวิบากกรรมได้ และชีวิตจะรุ่งเรืองด้วยบุญนั้นพาไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook