Minox vs OM-D สองกล้องสองสไตล์
Minox vs OM-D สองกล้องสองสไตล์
เมื่อวันศุกร์ผมก็ได้ทำข่าวเกี่ยวกับงาน PowerBuy Expo กันไปแล้วไฮไลท์ในงานทางด้านกล้องที่น่าสนใจก็คือ กล้องจิ๋วแต่แจ๋วของ Minox DCC Lieca M3 ซึ่งเป็นกล้องน่ารักๆ ขนาดเล็ก ดูเหมือนของเล่นแต่เป็นกล้องใช้ได้จริง และ Olympus Series ใหม่นั่นคือ OM-D ซึ่งต้องถือได้ว่าเป็นมิลเลอร์เลส เทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังท้ายๆ รีวิวครับ
มาพูดถึงตัว Minox กันนิดนึงครับ Minox เป็นบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับกล้องส่องทางไกล หรืออุปกรณ์ถ่ายภาพมาพอสมควรแล้ว แต่อาจจะไม่โดดเด่นมากนัก แต่สำหรับกล้อง Minox จิ๋วที่อยู่ในงานนี้ได้รับความสนใจจากทีมงาน TechXcite.com เป็นพิเศษทีเดียว เพราะมัน น่ารักอ่ะ อย่ารอช้ามาดูกันเลยดีกว่าครับ
มีช่องมองภาพที่ปกติในกล้องก็มี แต่บอกเลยครับว่าเล็ก เล็งลำบาก แต่ถ้ามีตัวแยกออกมาต่างหากให้ก็ดีทีเดียว นอกจากนี้จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือแฟลชที่หน้าตาเหมือนกล้องโบราณนั่นแหละ บ๊ะ ได้อารมณ์ Wintage
ศึกษาสเปคกันสักนิด ความละเอียด 5.1 ล้านพิกเซล วิดีโอแบบ AVI 320 x 240 pixel มีความจำในตัว 128 MB กับ สามารถใส่หน่วยความจำภายนอกได้ 16 GB (แปลภาษาเยอรมันเหนื่อยเลย อันไหนแปลผิดถามน้าป๋วย แกเรียนมา 55) จอเล็กนะ สองนิ้ว เฮ้ย ก็กล้องมันเล็ก 555 เลนส์ติดกล้อง 9mm หรือเทียบเท่า 42mm f2.0 หนัก 110 กรัม เบาเวอร์
หน้าตาสวยชิมิล่า ^^
ด้านหลัง เหมือนของเด็กเล่น แต่ใช้ได้จริง ผมว่าเข้าเมนูง่ายเหมือน 5D ผมเลย
ช่องใส่เมมโมรี่การ์ดแบบ SD ทีแรกก็นึกว่าไม่มีช่องใส่เมม ระดับน้าป๋วย ใจกล้างัดออกมาให้ดู
เทียบกับ D700 โห D700 ตัวเล็กกว่าเยอะครับ 55 ล้อเล่นครับ ดูขนาดเอาแล้วกัน ^^
บังเอิญเปิดได้ ไม่น่าเชื่อ ก็ดูน่าใช้ดีนะครับ ห้อยเป็นพวงกุญแจไม่มีใครรู้ว่านี่ของแพง อิอิ
เมนูอาจจะดูไม่โสภานัก แต่ก็น่าจะทำให้กล้องประหยัดไฟได้มากทีเดียวครับ
การันตีด้วยรางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยม
สรุปเป็นยังไง ก็เป็นกล้องที่เป็นกล้องจริงๆ มีเลนส์ F กว้างพอตัวให้ใช้ เหมาะสำหรับคนที่อาจจะไม่ต้องการพกกล้องมือถือ แต่นี่เป็นกล้องขนาดจิ๋วแทน ราคาผมไม่มั่นใจนักครับได้ข่าวว่าแพงเอาเรื่องทีเดียว แต่ก็แนวดีครับ ใครมีเงินถุงเงินถัง ต้องการความแปลก Minox คือ คำตอบของคุณแน่นอนครับ
ตัวถัดมาคือกล้อง Mirrorless ใหม่จากทาง Olympus ปกติกล้อง Mirrorless มาแนววินเทจอยู่แล้ว ตัวนี้ทำหน้าตาออกมาเหมือนสมัยกล้อง OM เมื่อก่อน และเรียกรุ่นใหม่นี้ว่า OM-D หรือ OM ในยุคดิจิตอล ซึ่งแน่นอนหน้าตาก็จะเหมือนกล้องถ่ายภาพโบราณๆ อย่างแน่นอน มาดูหน้าตากัน
ไม่ได้มาแต่กล้องฮะมาพร้อมเลนส์ที่เข้าชุดเป็นอย่างดี เป็นเลนส์ Zuiko เลยครับ
สเปคก็จัดไป 16 ล้านพิก กันสั่นในตัว ระบบ Micro4Third ถ่ายต่อเนื่อง 9 fps เลยทีเดียว ISO ได้ สองหมื่นกว่าทีเดียว นี่คือ มาตรฐานใหม๋แห่ง Mirrorless
หน้าตาของจริงที่เหมือนกล้องฟิล์มชะมัด ราคาเปิดมาก็ 44900 บ. โอ้ว แพงเอาเรื่องเลยครับ
ระบบกันสั่นในตัวกล้องแบบ Hybrid IS
แป้นปรับทางด้านบนนั้น ดูปรับแต่งได้เยอะทีเดียวครับ ออกแนวเหมือนๆ NEX-7
แฟลชหน้าตาเหมือนม้าเมืองทรอยไปหน่อย แต่ก็ทำได้ดีครับก้มเงยได้ด้วย ดูจะเจ๋งกว่าเจ้าอื่นๆ สมแล้วครับที่เจ้าพ่อ เทคโนอย่างโอลิมปัสจะกลับมายิ่งใหญ่
กล้องนี้เจ๋งอย่างฮะ จะเลือกซูมโดยใช้วงแหวน หรือกดปุ่มซูมเหมือนคอมแพคก็ได้ โดยเลือกระบบซูมว่าเป็น M Zoom หรือ E Zoom
น่าเสียดายที่ได้จับๆ เพียงเล็กน้อย คนสนใจกันเยอะครับ เปิดมาราคาเตรียมฟัดกับ NEX-7 แม้ความละเอียดสู้ไม่ได้ แต่เชื่อว่ากล้อง OM-D ตัวนี้ สามารถเป็นเจ้าตลาดแห่งกล้อง Mirrorless ได้อกีครั้งไม่ยาก รัก Olympus ต้องรักกล้องรุ่นนี้แน่นอนครับ ^^
ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ