สงสัยไหม? ชาร์จมาเต็ม 100% แต่แบตลดฮวบจนเหลือ 20% แล้วจึง "ลดช้าลง"

สงสัยไหม? ชาร์จมาเต็ม 100% แต่แบตลดฮวบจนเหลือ 20% แล้วจึง "ลดช้าลง"

สงสัยไหม? ชาร์จมาเต็ม 100% แต่แบตลดฮวบจนเหลือ 20% แล้วจึง "ลดช้าลง"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทำไมแบตมือถือ “ลดฮวบจาก 100% เหลือ 20%” แต่พอถึง 20% กลับลดช้าลง? คำตอบอยู่ที่ระบบแบตลิเธียม-ไอออน

หลายคนอาจเคยเจอปรากฏการณ์ชวนงง ชาร์จมือถือเต็ม 100% ก่อนนอน แต่พอตื่นเช้ากลับพบว่าแบตลดฮวบเหลือแค่ 20% หรือช่วงแรก ๆ แบตลดเร็วมาก แต่พอเหลือน้อยกลับลดช้าลง เหตุการณ์นี้ไม่ได้แปลว่าแบตเสื่อมเสมอไป แต่เป็นผลจากธรรมชาติของแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ระบบจัดการแบตเตอรี่ (Battery Management System) และการใช้งานแอปเบื้องหลังในโทรศัพท์ของเรานั่นเอง

ทำไมชาร์จเต็ม 100% แล้วแบตถึง “ดรอปเร็ว” ในช่วงแรก

แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนในมือถือไม่ได้วัดปริมาณพลังงานด้วยการนับ “%” ตรง ๆ แต่ใช้การประเมินจากแรงดันไฟและการคายประจุ ทำให้กราฟเปอร์เซ็นต์แบตไม่ลดลงแบบเส้นตรงตลอดทั้งช่วงการใช้งาน โดยทั่วไปช่วงใกล้เต็ม เช่น 100–80% แรงดันไฟจะลดลงเร็วกว่าโซนกลาง ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าแบตลดฮวบเร็วเป็นพิเศษ แม้การใช้งานจะไม่ได้หนักมาก

นอกจากนี้ ในช่วงที่ชาร์จเต็มหรือวางเครื่องทิ้งไว้ข้ามคืน มือถือยังมีการทำงานเบื้องหลัง เช่น การซิงก์ข้อมูล การแจ้งเตือน การอัปเดตแอป รวมถึงการค้นหาสัญญาณเครือข่าย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แบตลดลงอย่างมีนัยสำคัญ มากกว่าการคายประจุเอง (Self-discharge) ของแบตเตอรี่ที่ตามปกติจะค่อย ๆ ลดลงเพียงเล็กน้อยในระดับหลายวันหรือหลายสัปดาห์

แล้วทำไมพอเหลือประมาณ 20% แบตถึงดูเหมือนลดช้าลง?

เมื่อแบตเหลือระดับต่ำ เช่น 20% ลงมา หลายเครื่องจะเริ่มเปิดโหมดประหยัดพลังงานอัตโนมัติ จำกัดการทำงานของแอปเบื้องหลัง ลดความสว่างหน้าจอ และลดประสิทธิภาพบางส่วนของชิปประมวลผล ส่งผลให้การใช้พลังงานโดยรวมลดลง ทำให้เปอร์เซ็นต์แบตดูเหมือนลดช้ากว่าช่วงแรก ๆ ที่ไม่ได้เปิดโหมดประหยัดพลังงาน

ในเชิงเทคนิค แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนยังมี “กราฟแรงดันต่อระดับประจุ” (Voltage vs State of Charge) ที่ไม่ใช่เส้นตรง ช่วงระดับประจุบางช่วง แรงดันจะลดลงช้ากว่าช่วงอื่น ทำให้การแปลงค่าแรงดันมาเป็นเปอร์เซ็นต์แบตดู “เนิบลง” โดยเฉพาะเมื่อรวมกับโหมดประหยัดพลังงานผู้ใช้จึงรู้สึกว่าแบต 20% อยู่ได้นานกว่า 20% แรกตอนจาก 100% เหลือ 80%

อุณหภูมิและสิ่งแวดล้อม: ปัจจัยเสริมที่ทำให้แบตลดฮวบ

อุณหภูมิเป็นอีกตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งอัตราการคายประจุและอายุการใช้งานของแบต หากวางมือถือไว้ในที่ร้อน เช่น ใต้หมอน ใต้ผ้าห่ม ใกล้หน้าต่างที่โดนแดด หรือในรถที่จอดกลางแจ้ง แบตเตอรี่จะคายประจุเร็วขึ้น และเกิดการเสื่อมสภาพของเซลล์มากกว่าปกติ ในขณะที่การใช้งานในอุณหภูมิห้องหรือในที่เย็น จะช่วยลดการสูญเสียพลังงานโดยไม่จำเป็นลงได้

ในทางกลับกัน หากอุณหภูมิต่ำมากเกินไป แบตลิเธียม-ไอออนก็อาจจ่ายไฟได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเช่นกัน ทำให้โทรศัพท์ดับก่อนถึง 0% จริง ๆ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ผลิตมักแนะนำให้ใช้งานและชาร์จมือถือในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมตามคู่มือ

แล้ว “Self-discharge” ของแบตลิเธียม-ไอออนมีผลแค่ไหน?

แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนทุกก้อนมีการคายประจุเอง (Self-discharge) ตามธรรมชาติ แม้จะไม่ได้ใช้งาน แต่จากข้อมูลเชิงเทคนิคพบว่าการคายประจุเองมักอยู่ในระดับไม่กี่เปอร์เซ็นต์ต่อเดือนในสภาวะปกติ จึงไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้แบตลดลงอย่างรวดเร็วจาก 100% เหลือ 20% ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

ดังนั้น หากตื่นเช้ามาแล้วพบว่าแบตลดลงมาก ส่วนใหญ่จะมาจากการทำงานของระบบและแอปพลิเคชันเบื้องหลัง รวมถึงสภาพสัญญาณเครือข่ายและอุณหภูมิ มากกว่าจะเป็นผลจาก Self-discharge ล้วน ๆ

เคล็ดลับง่าย ๆ ให้แบตมือถือใช้งานได้นานขึ้น

  1. ชาร์จมือถือและใช้งานในที่อากาศถ่ายเท อุณหภูมิไม่ร้อนจัด เพื่อลดความร้อนสะสม
  2. ถอดเคสที่หนาและกักความร้อนออกในระหว่างชาร์จ โดยเฉพาะกรณีชาร์จเร็ว
  3. ตรวจสอบและปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลังเกินจำเป็น เช่น แอปโซเชียลที่ซิงก์ถี่หรือแอปที่ใช้ตำแหน่งตลอดเวลา
  4. หากเครื่องมีโหมดประหยัดพลังงาน ให้เปิดใช้งานเมื่อแบตเหลือน้อย หรือในวันที่รู้ว่าต้องใช้งานยาวนาน
  5. หลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเหลือต่ำกว่า 5% หรือชาร์จค้างที่ 100% นาน ๆ และพยายามใช้งานให้อยู่ในช่วงราว 20–80% เพื่อลดการเสื่อมของเซลล์ลิเธียม-ไอออนในระยะยาว

แบตลดเร็วช่วงแรก แล้วช้าลงตอน 20% เป็นเรื่องปกติ

อาการแบตมือถือลดฮวบจาก 100% ลงมาอย่างรวดเร็ว แล้วดูเหมือนจะลดช้าลงเมื่อเหลือประมาณ 20% เป็นผลจากธรรมชาติของแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ระบบจัดการแบตเตอรี่ของมือถือ การทำงานของแอปเบื้องหลัง และปัจจัยด้านอุณหภูมิ มากกว่าจะเป็นสัญญาณว่าแบตเสื่อมทันที การเข้าใจหลักการเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการชาร์จ ลดความร้อน และตั้งค่าการใช้งานได้เหมาะสมขึ้น ทำให้แบตมือถืออยู่กับคุณได้นานขึ้นทั้งในหนึ่งวัน และในระยะยาวหลายปี

อ้างอิง

  1. Battery University – How to Prolong Lithium-Based Batteries
  2. Battery University – Self-discharge of Lithium-based Batteries
  3. Android Authority – Why your phone battery is draining fast
  4. ScienceDirect – Overview of Lithium-ion Batteries

 

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ สงสัยไหม? ชาร์จมาเต็ม 100% แต่แบตลดฮวบจนเหลือ 20% แล้วจึง "ลดช้าลง"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล