คุณเป็นเหยื่อแล้วหรือยัง? เช็กด่วน 5 สัญญาณเตือนว่า AI กำลังลอกเสียงคุณไปใช้
Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
//s.isanook.com/hi/0/ud/323/1619003/newnewnewnewnewnewnew-thumbna.jpgคุณเป็นเหยื่อแล้วหรือยัง? เช็กด่วน 5 สัญญาณเตือนว่า AI กำลังลอกเสียงคุณไปใช้

คุณเป็นเหยื่อแล้วหรือยัง? เช็กด่วน 5 สัญญาณเตือนว่า AI กำลังลอกเสียงคุณไปใช้

แชร์เรื่องนี้

คุณเป็นเหยื่อแล้วหรือยัง? เช็คด่วน 5 สัญญาณเตือนว่า AI กำลังลอกเสียงคุณไปใช้

ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด การลอกเลียนเสียงด้วย AI หรือ "Deepfake Voice" กลายเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่น่าจับตา อาชญากรไซเบอร์ใช้เทคนิคนี้ในการหลอกลวงผู้คน สร้างความเสียหายทั้งทางทรัพย์สินและความน่าเชื่อถือ

หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่าเสียงของตนเองกำลังถูกนำไปใช้โดย AI ในทางที่ผิด บทความนี้จึงรวบรวม 5 สัญญาณเตือนสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ว่าเสียงของคุณอาจกำลังตกเป็นเหยื่อของเทคโนโลยี Deepfake Voice หรือไม่ และควรรู้วิธีป้องกันตนเองอย่างไร

Deepfake Voice คืออะไร และทำงานอย่างไร?

Deepfake Voice คือเทคโนโลยี AI ที่สามารถสร้างหรือเลียนแบบเสียงของบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้อย่างสมจริง โดยใช้ข้อมูลเสียงต้นฉบับเพียงไม่กี่วินาทีเพื่อวิเคราะห์และสร้างรูปแบบเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ขึ้นมาใหม่ ทำให้ AI สามารถ "พูด" ในสิ่งที่ไม่เคยพูดมาก่อน ด้วยน้ำเสียงและสำเนียงที่แทบแยกไม่ออกจากเสียงจริง

เทคโนโลยีนี้ถูกนำไปใช้ในหลายด้าน ทั้งการสร้างสรรค์ผลงานบันเทิง หรือการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาในการพูด แต่ในทางกลับกันก็ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การหลอกลวงทางโทรศัพท์ (Voice Phishing) การสร้างข่าวปลอม หรือการแอบอ้างบุคคลเพื่อสร้างความเสียหายในรูปแบบต่าง ๆ

5 สัญญาณเตือน คุณกำลังถูก AI ลอกเสียงไปใช้หรือไม่?

การตระหนักรู้ถึงสัญญาณผิดปกติเป็นขั้นตอนแรกในการป้องกันตนเองจากภัย Deepfake Voice ลองตรวจสอบว่าคุณเคยพบเจอเหตุการณ์เหล่านี้หรือไม่

  1. ได้รับสายหรือข้อความแปลก ๆ จากคนรู้จักที่ฟังดู "แปลกไป": คุณอาจได้รับสายหรือข้อความเสียงจากเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่เสียงคล้ายจริง แต่มีน้ำเสียงแปลก ๆ หรือมีคำพูดที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ หากมีการขอข้อมูลส่วนตัวหรือเงิน ควรสงสัยไว้ก่อน
  2. มีคนแจ้งว่าได้รับสายหรือข้อความเสียงจากคุณ โดยที่คุณไม่ได้โทรไป: หากมีคนรอบข้าง เพื่อนร่วมงาน หรือสมาชิกในครอบครัว แจ้งว่าได้รับสายหรือข้อความเสียงจากคุณ โดยที่คุณไม่ได้เป็นผู้โทรหรือส่งไป อาจเป็นไปได้ว่าเสียงของคุณถูกนำไปใช้แล้ว
  3. มีข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงินของคุณรั่วไหลอย่างน่าสงสัย: หากบัญชีธนาคารมีการเคลื่อนไหวผิดปกติ หรือมีข้อมูลส่วนตัวของคุณถูกนำไปใช้ในการสมัครบริการที่ไม่รู้จัก อาจเกิดจากการที่ Deepfake Voice ของคุณถูกนำไปใช้ในการยืนยันตัวตนหรือการหลอกลวงข้อมูลจากแหล่งอื่น
  4. พบเนื้อหาเสียง/วิดีโอ ที่คุณไม่ได้สร้างบนอินเทอร์เน็ต: การค้นหาชื่อของคุณบน Google หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อาจพบเนื้อหาเสียงหรือวิดีโอที่ใช้เสียงของคุณ แต่เป็นเนื้อหาที่คุณไม่เคยสร้างหรือเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนของการถูกลอกเลียนเสียงด้วย AI
  5. ถูกชักชวนให้มีส่วนร่วมในโครงการที่ "ฟังดูดีเกินจริง": ผู้ไม่หวังดีอาจใช้ Deepfake Voice ของบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือแม้แต่เสียงที่สร้างขึ้นมาเพื่อหลอกให้คุณลงทุนในโครงการที่อ้างผลตอบแทนสูง แต่แท้จริงแล้วคือการฉ้อโกง ควรตรวจสอบข้อมูลและแหล่งที่มาให้รอบคอบเสมอ

วิธีป้องกันเสียงของคุณ ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ AI

การป้องกันตนเองจากภัย Deepfake Voice นั้น เริ่มต้นได้จากพฤติกรรมการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในยุคดิจิทัลนี้

  1. จำกัดการเปิดเผยข้อมูลเสียง: หลีกเลี่ยงการบันทึกเสียงหรือวิดีโอส่วนตัวที่ไม่จำเป็นลงบนแพลตฟอร์มสาธารณะที่เข้าถึงได้ง่าย เพราะข้อมูลเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้เป็นต้นแบบในการสร้าง Deepfake Voice
  2. ตั้งรหัสผ่านที่รัดกุมและใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA): เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีออนไลน์ต่าง ๆ ทำให้ยากต่อการเข้าถึงข้อมูลเสียงและข้อมูลส่วนตัวของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต
  3. ตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลเสมอ: หากได้รับสายหรือข้อความเสียงที่น่าสงสัย ให้ติดต่อไปยังบุคคลหรือองค์กรโดยตรงผ่านช่องทางที่เป็นทางการ เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลและตัวตนของผู้ที่ติดต่อมา อย่าหลงเชื่อเพียงแค่เสียงที่ได้ยิน
  4. อัปเดตซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันให้เป็นปัจจุบัน: การอัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณได้รับการป้องกันล่าสุดจากช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจถูกโจมตีโดยมัลแวร์ที่ใช้ในการขโมยข้อมูลเสียง

ตื่นตัวไว้ ปลอดภัยจากภัย Deepfake Voice

เทคโนโลยี AI ลอกเลียนเสียง หรือ Deepfake Voice เป็นภัยคุกคามที่ไม่ควรมองข้าม การตระหนักรู้ถึง 5 สัญญาณเตือน และการรู้จักป้องกันตนเอง จะช่วยลดความเสี่ยงจากการตกเป็นเหยื่อได้ อย่าหลงเชื่อเพียงแค่เสียงที่ได้ยิน แต่ควรตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่งและตั้งคำถามกับทุกสิ่งที่ดูแปลกไปเสมอ เพื่อให้คุณปลอดภัยในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้