รวมมือถือ Nothing และ CMF by Nothing ทุกรุ่นที่มีขายในไทย อัปเดตล่าสุด

Nothing แบรนด์อุปกรณ์เสริม และผู้ผลิตมือถือที่มีความคิดเริ่มจาก Startup ที่ต้องการสร้างความต่างโดยมีผู้บริหารที่รู้จักกันดีคือ Carl Pei โดยมักจะเน้นการดีไซน์ ฟีเจอร์สะดวกใช้ และราคาที่ไม่ได้แรงเกินไป แต่ด้วยการเปิดตัวหลายปีแล้วทำให้มือถือมีหลายรุ่น วันนี้ Sanook Hitech ได้รวมมือถือให้คุณได้เลือกกันครับ

มือถือ Nothing ที่คุณเลือกได้ในปี 2025

 

Nothing Phone (3) ราคา 27,999 บาท (12GB/256GB) - 30,999 บาท (16GB/512GB)

สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดที่จัดเต็มทั้งในด้านประสิทธิภาพ ดีไซน์ และประสบการณ์การใช้งานระดับพรีเมียม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและโดดเด่นไม่เหมือนใคร

• ชิปเซ็ตประมวลผล: ไม่ระบุอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าเป็นชิประดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด มอบการประมวลผลที่รวดเร็วและทรงพลังที่สุดในทุกการใช้งาน

• หน้าจอ: AMOLED ขนาดใหญ่ พร้อมเทคโนโลยี LTPO ที่ปรับรีเฟรชเรทได้อัตโนมัติ (1-120Hz) เพื่อความลื่นไหลสูงสุดและการประหยัดพลังงาน

• ดีไซน์และ Glyph Interface: การออกแบบโปร่งใสอันเป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ พร้อมไฟ Glyph Interface ที่มีลูกเล่นมากขึ้น สามารถปรับแต่งการแจ้งเตือนและฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างละเอียด

• กล้อง: ชุดกล้องหลังคุณภาพสูง มักจะมาพร้อมเซ็นเซอร์ระดับเรือธงจาก Sony เพื่อการถ่ายภาพที่คมชัดในทุกสภาวะแสง พร้อมการถ่ายวิดีโอระดับ 4K

• แบตเตอรี่: ขนาดใหญ่ รองรับการชาร์จไวทั้งแบบมีสาย (ประมาณ 65W) และไร้สาย เพื่อการใช้งานที่ต่อเนื่องตลอดวัน

• ระบบปฏิบัติการ: Nothing OS 3 บนพื้นฐาน Android 15 เน้นความเรียบง่าย (Clean UI) ปราศจากแอปขยะ และมอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล

เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูงสุด, ชื่นชอบดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และต้องการประสบการณ์การใช้งานระดับพรีเมียม

 

Nothing Phone (3a) ราคา 14,499 บาท (12GB/256GB)

รุ่นเริ่มต้นของซีรีส์ที่มอบความคุ้มค่าสูงสุด มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 7s Gen 3 และหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว (120Hz) ที่ให้ภาพสวยงามและลื่นไหล จุดเด่นอยู่ที่ชุดกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 50MP, กล้องเทเลโฟโต้ 50MP ที่รองรับการซูมดิจิทัลสูงสุด 30x และกล้องอัลตร้าไวด์ 8MP ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 32MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh และชาร์จเร็ว 50W ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือประสิทธิภาพดีและมีกล้องซูมคุณภาพในงบประมาณที่คุ้มค่า

Nothing Phone (3a) Pro ราคา 17,499 บาท (12GB/256GB)

รุ่น Pro ขยับความสามารถด้านการถ่ายภาพขึ้นไปอีกขั้น โดยยังคงใช้ชิปเซ็ตและหน้าจอเดียวกันกับรุ่น (3a) แต่สิ่งที่อัปเกรดคือชุดกล้องหลังที่เปลี่ยนเลนส์ซูมเป็น กล้อง Periscope ความละเอียด 50MP ทำให้สามารถซูมได้ไกลและคมชัดยิ่งขึ้นถึง 60x และยังอัปเกรด กล้องหน้าเป็น 50MP เพื่อการเซลฟี่ที่สวยงามคมชัดยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพ ต้องการพลังซูมระยะไกล และให้ความสำคัญกับการถ่ายภาพบุคคลและเซลฟี่เป็นพิเศษ

 

Nothing Phone (2a) Plus ราคา 11,499 บาท (8GB/256GB)

รุ่นต่อยอดความสำเร็จที่เน้นความคุ้มค่า มอบประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ในราคาที่จับต้องได้ง่ายที่สุดในตระกูล Nothing Phone

• ชิปเซ็ตประมวลผล: MediaTek Dimensity 7350 Pro ชิปเซ็ตที่ปรับแต่งมาเพื่อประสิทธิภาพที่ดีและจัดการพลังงานได้เยี่ยม

• หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว, รีเฟรชเรท 120Hz ให้การแสดงผลที่ลื่นไหล สีสันสดใส

• กล้อง: กล้องหลังคู่ ประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP พร้อมกันสั่น OIS และกล้องอัลตร้าไวด์ 50MP

• แบตเตอรี่: 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 50W

• ดีไซน์: ยังคงดีไซน์โปร่งใสและ Glyph Interface แบบ 3 แถบที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่น (2a)

• มาตรฐานกันน้ำ: IP54

เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นประสบการณ์กับ Nothing, มองหามือถือดีไซน์โดดเด่น สเปกครบครันสำหรับใช้งานทั่วไปและเล่นเกมได้ดีในงบหมื่นต้นๆ

 

CMF By Nothing Phone (1) ราคาเริ่มต้น 5,999 บาท

สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้นที่สร้างความแตกต่างด้วย ดีไซน์ฝาหลังที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ และยังรองรับ microSD Card เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูล ขับเคลื่อนด้วยชิป MediaTek Dimensity 7300 พร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว (120Hz) มีกล้องหลังคู่ (หลัก 50MP + Depth 2MP) และแบตเตอรี่ 5,000 mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 33W เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้งานระดับเริ่มต้น หรือผู้ที่มองหามือถือสำรองที่สเปกดีและมีลูกเล่นในการปรับแต่ง

 

CMF By Nothing Phone (2) Pro ราคาเริ่มต้น 8,999 บาท

รุ่น Pro ที่อัปเกรดสเปกขึ้นมาอย่างน่าสนใจในราคาที่ยังคงเป็นมิตร ใช้ชิป MediaTek Dimensity 7300 Pro และหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว (120Hz) จุดเด่นที่สุดคือ ชุดกล้องหลัง 3 ตัว ที่ให้มาครบทุกระยะ ประกอบด้วย กล้องหลัก 50MP, กล้องเทเลโฟโต้ 50MP ที่รองรับการซูมแบบออปติคัล 2 เท่า และกล้องอัลตร้าไวด์ 8MP ทำให้เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าที่สุดในงบไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ที่ให้กล้องซูมคุณภาพมาด้วย