ในเวลานี้ Apple ได้วางจำหน่าย iPhone 16e ในราคาเริ่มต้นที่ $599 หรือ 22,900 บาท ซึ่งเป็น iPhone รุ่นที่มีราคาเข้าถึงได้ง่ายที่สุดในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม, iPhone 15 Pro ที่เปิดตัวเมื่อปี 2023 ซึ่งอาจจะยังเหลือค้างกับผู้ให้บริการ หรือร้านค้าบางร้าน รุ่นไหนที่เหมาะกว่ากัน
ก่อนอื่น! เรามาทบทวนหน่อย โดย iPhone 15 Pro เปิดตัวในเดือนกันยายน 2023 ด้วยราคาเริ่มต้น $999 (หรือประมาณ 39,900 บาท) และได้ถูกยกเลิกการจำหน่ายโดย Apple เองเมื่อ iPhone 16 Pro เปิดตัว อย่างไรก็ตาม, ยังคงมีวางจำหน่ายจากร้านค้าปลีกอื่นๆ รวมถึงในรูปแบบมือสองหรือ refurbished ในราคาประมาณ $600 ถึง $750 (ประมาณ 20,000 - 25,000 บาท) ขึ้นอยู่สภาพ
ถึงแม้ว่า iPhone 15 Pro จะเป็นอุปกรณ์ที่มีฟีเจอร์ที่ครบครันกว่า iPhone 16e อย่างเห็นได้ชัด แต่รุ่นหลังก็มีข้อได้เปรียบที่น่าสนใจบางประการ
| คุณสมบัติ | iPhone 16e | iPhone 15 Pro |
|---|---|---|
| วัสดุตัวเครื่อง | อะลูมิเนียมและกระจก | ไทเทเนียมและกระจก |
| กล้องหน้า | "Notch" สำหรับ TrueDepth Camera | Dynamic Island สำหรับ TrueDepth Camera |
| ความสว่างหน้าจอ (ทั่วไป) | 800 nits | 1,000 nits |
| ความสว่างหน้าจอ (HDR) | 1,200 nits | 1,600 nits |
| ความสว่างหน้าจอ (กลางแจ้ง) | - | 2,000 nits |
| เทคโนโลยีจอภาพ | - | ProMotion พร้อม Adaptive Refresh Rate สูงสุด 120Hz |
| หน้าจอติดตลอด (Always-On) | ไม่มี | มี |
| ชิปเซ็ต | A18 (ผลิตด้วยกระบวนการ 3nm N3E) | A17 Pro (ผลิตด้วยกระบวนการ 3nm N3B) |
| ความเร็ว CPU Clock | 4.04 GHz | 3.78 GHz |
| GPU | 4-core | 6-core |
| RAM | LPDDR5X-7500 (แบนด์วิดท์ 60 GB/s) | LPDDR5-6400 (แบนด์วิดท์ 51.2 GB/s) |
| โมเด็ม | Apple C1 | Qualcomm X70 |
| 5G | mmWave | mmWave |
| Wi-Fi | Wi‑Fi 6 | Wi‑Fi 6E |
| เทคโนโลยีเครือข่าย | Thread networking technology | Second-generation Ultra Wideband chip |
| ระบบกล้องหลัง | "Advanced" 2-in-1 camera | "Pro" triple camera system |
| กล้องหลัก | 48MP (ƒ/1.6) | 48MP (ƒ/1.78, เซ็นเซอร์ใหญ่กว่า) |
| กล้อง Ultrawide | 12MP (ƒ/2.2) | 12MP (ƒ/2.2) |
| กล้อง Telephoto | ไม่มี | 12MP (ƒ/2.8) |
| ซูม Optical | 1x, 2x | 0.5x, 1x, 2x, 3x |
| ระบบกันสั่น | Optical image stabilization | Second-generation sensor-shift image stabilization |
| แฟลช | True Tone flash | Adaptive True Tone flash |
| LiDAR Scanner | ไม่มี | มี |
| โหมด Portrait | มี, พร้อม Depth Control | Next-generation portraits พร้อม Focus และ Depth Control |
| โหมดกลางคืน | มี | มี |
| การถ่ายภาพ Macro | ไม่มี | มี |
| Apple ProRAW | มี | มี |
| ลดเสียงลม | มี | ไม่มี |
| Audio Mix | มี | ไม่มี |
| การถ่ายโอน ProRAW ไป Mac | - | ผ่าน USB 3 |
| บันทึกวิดีโอภายนอก | ไม่มี | มี |
| ProRes Video Recording | - | สูงสุด 4K @ 30 fps (60 fps ภายนอก) |
| Macro Video | ไม่มี | มี (รวมถึง Slo-mo และ Time-lapse) |
| Log Video Recording | ไม่มี | มี |
| Academy Color Encoding System | ไม่มี | มี |
| Spatial Photos/Videos | ไม่มี | มี (สำหรับ Apple Vision Pro) |
| ความเร็ว USB | USB 2 (สูงสุด 480Mb/s) | USB 3 (สูงสุด 10Gb/s, เร็วกว่า 20 เท่า) |
| รองรับ DisplayPort | ไม่มี | สูงสุด 4K HDR |
| MagSafe | รองรับ | รองรับ |
| Qi Wireless Charging | สูงสุด 7.5W | สูงสุด 7.5W |
| MagSafe Wireless Charging | ไม่มี | สูงสุด 15W (ต้องใช้ Adapter 20W ขึ้นไป) |
| แบตเตอรี่ | 4,005mAh | 3,274mAh |
| อายุการใช้งานแบตเตอรี่ | 26 ชั่วโมง | 23 ชั่วโมง |
| น้ำหนัก | 167 กรัม | 187 กรัม |
| ความหนา | 7.80 มม. | 8.25 มม. |
| ตัวเลือกความจุ | 128GB, 256GB, 512GB | 128GB, 256GB, 512GB, 1TB |
| สี | ขาว, ดำ | Natural Titanium, Blue Titanium, White Titanium, Black Titanium |
| วันที่วางจำหน่าย | มีนาคม 2025 | กันยายน 2023 |
| ราคาเริ่มต้น | $599 | เริ่มต้น $999 (ปัจจุบันราคาใกล้เคียง $599) |
iPhone 15 Pro เป็นไอโฟนที่ มอบการอัปเกรดที่สำคัญหลายประการเหนือกว่า iPhone 16e ด้วยราคาที่ใกล้เคียงกัน ผู้ใช้งานจำนวนมากอาจมองว่าคุ้มค่าที่จะเลือก iPhone 15 Pro เพื่อแลกกับคุณสมบัติอย่างหน้าจอ ProMotion และ Always-On Display, MagSafe, Dynamic Island และหน้าจอที่สว่างกว่า นอกจากนี้ iPhone 15 Pro ยังโดดเด่นอย่างยิ่งในด้านระบบกล้อง โดยมีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เหนือกว่า เช่น LiDAR scanner, กล้อง Telephoto และกล้อง Ultrawide แต่ต้องยอมรับว่าเก่าไปแล้ว!!
อย่างไรก็ตาม iPhone 16e ยังคงมีคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายอย่างที่ iPhone 15 Pro มี เช่น การรองรับ Apple Intelligence, พอร์ต USB-C, Action Button และกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปอาจไม่รู้สึกถึงความแตกต่างในการใช้งานมากนัก ดังนั้นจึงมีบางสถานการณ์ที่ iPhone 16e เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า เช่น หากคุณให้ความสำคัญกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่หรือความทนทานของอุปกรณ์ในระยะยาว
ในทำนองเดียวกัน หากคุณมีความต้องการใช้งานพื้นฐานและไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบกล้องหลังระดับ "Pro" หรือคุณสมบัติอย่าง ProMotion และ Always-On Display, iPhone 16e ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ในกรณีนี้ คุณยังคงได้รับประโยชน์จากฟีเจอร์ที่ครบครันของอุปกรณ์ iPhone 16e ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีและมีความสมดุล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งาน iPhone ทั่วไปและผู้ที่อัปเกรดมาจากรุ่นที่เก่ากว่ามาก
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :MacRumors