.jpg?ip/crop/w670h402/q80/jpg)
ในที่สุดเราก็ได้สมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ล่าสุดของแอปเปิลมาแกะกล่องทดสอบกัน สำหรับบทความนี้เราจะมาแชร์ความรู้สึกคร่าวๆ หลังได้ทดลองใช้งาน iPhone 14 และ iPhone 14 Pro Max สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กสุดและรุ่นใหญ่สุดในซีรีส์มาบอกเล่ากัน
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
สำหรับสเปกของ iPhone 14 / iPhone 14 Pro Max Series มีดังนี้
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
รายละเอียดของ iPhone 14
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
รายละเอียดของ iPhone 14 Pro Max
iPhone 14
แรกเห็น iPhone 14 แทบจะบอกว่าการออกแบบไม่ได้แตกต่างจาก iPhone 13 ยังคงใช้ Notch หรือคนที่จะเรียกว่า ติ่ง!!! บนหน้าจอเหมือนกับรุ่นที่ผ่านๆ มา พร้อมกับสถานะที่เห็นชัดเจนบนหน้าจอและเวลา พร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซลรอบนี้ใส่ Auto Focus มาให้ โดยขนาดของเครื่องอยู่ที่ 6.1 นิ้วเท่านั้น
ด้านบนสุดของหน้าจอจะมีลำโพงสำหรับสนทนาและสามารถใช้เป็นลำโพงตัวที่ 2 ได้ด้วยครับ
ด้านล่างเป็นที่ปัดสำหรับกลับหน้าหลักซึ่งมีมานานแล้ววิธีการใช้งานยังคงเหมือนเดิม
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
รอบตัวเครื่องเป็นบอดี้แบบอลูมิเนียมผิวด้านทนรอยประมาณหนึ่ง ฝั่งซ่ายมีปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง, ปรับเปลี่ยน Profile ของระบบเสียง และ ถาดใส่ซิมการ์ด
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
อีกฝั่งจะมาพร้อมกับปุ่ม Power และสามารถกดเพื่อเปลุก Siri ขึ้นมาได้
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
ส่วนบนไม่มีปุ่มอะไร และด้านล่างจะมาพร้อมกับลำโพงตัวเครื่อง, ช่องเสียบ Lightning และ ไมโครโฟนตัวเครื่อง
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
พลิกมาด้านหลังจะมาพร้อมกับกล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แต่สังเกตว่าถ้าดูด้านข้างแล้วความหนาของกล้อง iPhone 14 แอบหนากว่าเล็กน้อยเท่านั้น
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
iPhone 14 Pro Max
ยังคงมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว และมาพร้อมกับส่วนบนแบบ Dynamic Island ทำให้ฉีกจากรุ่นเดิมชัดเจนพร้อมกับ Refresh Rate ปรับเปลี่ยนได้ตั้งแต่ 1 - 120Hz หรือเรียกว่า ProMotion นั่นเอง
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
รอบตัวเครื่องเป็นแบบสแตนเลสที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับรุ่นปกติ ฝั่งซ้ายมีปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง, ปรับเปลี่ยน Profile ของระบบเสียง และ ถาดใส่ซิมการ์ด
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
อีกฝั่งจะมาพร้อมกับปุ่ม Power และสามารถกดเพื่อปลุกฟีเจอร์ Siri ขึ้นมาได้
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
ส่วนบนไม่มีปุ่มอะไร และด้านล่างจะมาพร้อมกับลำโพงตัวเครื่อง, ช่องเสียบ Lightning และ ไมโครโฟนตัวเครื่อง
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
พลิกมาด้านหลังจะมาพร้อมกับวัสดุกระจกและเป็นเฟรมแบบเดียวกัน มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ส่วนกล้อง 2 ตัวที่เหลือความละเอียด 12 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ LiDAR และมีความหนากว่ากล้องรุ่นเดิมๆ ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับภาพที่เห็นนี้
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
เมื่อเห็นแบบนี้แล้วในภาคนี้ขอสรุปการเปลี่ยนแปลงในตระกูลของ iPhone 14 / 14 Pro ทั้งคู่ด้วยกันดังต่อไปนี้
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
iOS 16 กับลูกเล่นที่โดดเด่น
มือถือทั้งคู่เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 16.0.1 ใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่มากขึ้นแต่โดดเด่นที่ระบบ Lock Screen ที่สามารถแสดงผลที่สามารถเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ ส่วนลูกเล่นต่างๆ จะไม่ได้แตกต่างจากรุ่นที่อัปเดตก่อนหน้านี้สามารถอ่านฟีเจอร์ลูกเล่นของ iOS 16 ต่อได้ที่นี่
แต่ถ้ามองถึงความแตกต่างจริงๆ ของ iPhone 14 และ 14 Pro Max คือ Dynamic Island ที่มีลูกเล่นการสั่งงานบหน้าจอและมีความยืดหยุ่นได้นั่นเอง รายละเอียดที่เหลือขอเก็บไว้เล่าต่อใน Full Review กันต่อไป
iPhone 14











iPhone 14 Pro Max








โดยรวมของ iPhone 14 และ iPhone 14 Pro Max ถือว่าเป็นอีก Smart Phone ที่สาวกรอคอยการเปลี่ยนแปลงของ iPhone 14 จะเรียกว่าเป็นการนำงานเดิมที่ดีมาแก้ไขให้ดีมากขึ้น ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนคือ iPhone 14 Pro Max ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ทั้งการเพิ่ม Dynamic Island และกล้องหลังความละเอียดสูงขึ้น ส่งผลให้ถ่ายภาพกลางคืนได้ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนรุ่นเล็กที่ปรับขุมพลังที่เหมาะสม แต่ได้กล้องหน้าที่ถ่ายภาพได้ดีมากขึ้นอย่างมาก
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
ทั้งนี้มือถือรุ่นนี้จะเหมาะกับใคร ถ้าแนะนำในเวลาแกะกล่องพรีวิวนี้ ก็บอกว่าเป็นสาวก ที่ไม่เคยเปลี่ยนมือถือระยะเวลนาน และต้องการรับประสบการณ์ใหม่ๆ หรือ คนที่ต้องการใช้สเปกของเครื่องที่ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ด้วยราคาเริ่มต้น 32,900 บาท สำหรับ iPhone 14 และ 44,900 บาท ฟังดูแล้วอาจจะสูงกว่าเดิม แต่เมื่อเล่นเองแบบเต็มที่จากในรีวิวฉบับเต็มนั้นจะเป็นอย่างไร พบกันได้เร็วๆ นี้ครับ
อัลบั้มภาพ 65 ภาพ