ห่างหายกันไปนานพอสมควรครับสำหรับกล้อง Canon ซีรีส์ 7D ที่แฟน ๆ ต่างคิดถึงกัน ครั้งนี้จุติใหม่มาในร่างของมิเรอร์เลสสเปกแรงกับชื่อ ‘Canon EOS R7’ ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ APS-C ความละเอียดสูง 32.5 ล้านพิกเซล ยิงรัวโหด 30fps แถมระบบหลายอย่างยังยกมาจากรุ่นพี่ EOS R3 ฟูลเฟรมรุ่น top ตัวละ 2 แสนอีก จัดเต็มกันแบบเน้น ๆ ให้หายคิดถึงกันไปเลย
EOS R7 ยังเป็นกล้องที่จัดอยู่ในระดับโปรเช่นเดียวกับซีรีส์ 7D เจ้าของฉายา KING OF APS-C ของฝั่ง DSLR เลยนะครับ แต่ยุคสมัยเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน จาก DSLR ก็กลายร่างมาเป็นมิเรอร์เลสตัวเล็กกะทัดรัดแทน เอาล่ะเพื่อความรวดเร็วเราไปทำความรู้จักกับสเปกพื้นฐานของเจ้า EOR R7 กันก่อนเลยดีกว่า
ด้าน body และการจับถือถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับ operate ได้ด้วยมือเดียว แต่ที่เห็นเด่นสะดุดตาคือในส่วนของไดอัลด้านหลังที่ย้ายมารวมกับ joy stick นี่ล่ะครับ
พอได้มาใช้งานจริงเวลาส่องช่องมองภาพการที่ไดอัลมันอยู่ที่เดียวกับ joy stick ทำให้เราไม่ต้องเลื่อนตำแหน่งนิ้วให้เสียจังหวะ คือเขาคิดมาแล้วอ่ะครับดีงามมาก อันนี้ต้องยกนิ้วให้เลย
พอเอามาวางเทียบกับ EOS RP ฟูลเฟรมเมาท์ RF รุ่นเล็กสุดให้ดู ตัว body ของ EOS R7 มีขนาดที่ใหญ่กว่าชัดเจน รวมถึงกริปที่เซาะร่องมาใหญ่โตจับถนัดมือกว่า เรียกว่าสมกับเป็นเรือธงของฝั่ง APS-C จริง ๆ
ตามสไตล์กล้องยุคใหม่ EOS R7 ก็มีม่านสำหรับกันฝุ่นเวลาเปลี่ยนเลนส์ใส่มาให้ด้วยนะครับ เวลาไปออกหน้างานฝุ่นจะได้ไม่ติดเซนเซอร์เป็นจุดดำรบกวนสายตา ต้องไปลำบากนั่งทำความสะอาดกันทีหลัง
จอ LCD เป็นแบบพับข้างสไตล์ Canon ให้คุณภาพที่ค่อนข้างดีเลยครับกับความละเอียด 1.62 ล้านจุด เอานิ้วแตะเปลี่ยนค่าต่าง ๆ ได้เลย จะมุมกด, มุมซ้อนก็ถ่ายสะดวก มาพร้อมกับช่องมองภาพ EVF 2.36 ล้านจุด ขนาดใหญ่กำลังดี มองสบายตา
ตัว EOS R7 รองรับการ์ดความเร็วสูง UHS-II ถึง 2 ช่อง พร้อมพอร์ตครบครัน ทั้ง USB-C, ไมค์, หูฟัง, micro HDMI มีซีลป้องกันละอองน้ำละอองฝุ่นใช้งานได้อย่างอุ่นใจ มีน้ำหนักเฉพาะ body (รวมการ์ด + แบตเตอรี่) ที่ 612 กรัม เรียกว่ากำลังดีไม่หนักไม่เบาเกินไป
หัวใจหลักในรุ่นนี้ใช้เซนเซอร์ APS-C 32.5 ล้านพิกเซล พอติดกับเลนส์ RF รุ่นใหม่รับประกันว่าภาพคมกริบ บวกกับชิปประมวลผลอันทรงพลังอย่าง DIGIC X สามารถเปลี่ยนกล้องให้เป็นปืนกล ถ่ายรัวต่อเนื่องได้สูงสุด 30fps (Electronic shutter) และ 15fps (Mechanical shutter) เลยทีเดียว
ถ้าถ่าย 30fps แบบ RAW ใหญ่สุด บัฟเฟอร์จะเหลือให้ใช้ประมาณ 30-42 ภาพ แต่พอเป็น JPEG นี่รัวกันได้หลายวินาทีอยู่เหมือนกันครับ
แถมเจ้า EOS R7 ยังมีโหมดที่เรียกว่า RAW Burst ที่สามารถบันทึกภาพล่วงหน้าก่อนกดชัตเตอร์ 0.5 วินาทีเป็นจำนวน 15 ภาพ และหลังกดชัตเตอร์อีก 15 ภาพ รวมแล้วก็ 30 ภาพพอดี ทำให้มั่นใจว่าไม่พลาดช็อตสำคัญแน่ ๆ
ถึงรัวได้เยอะแต่โฟกัสไม่เข้าก็ไม่มีประโยชน์ EOS R7 ใช้ระบบโฟกัส Dual Pixel CMOS AF II ที่ยกมาจากรุ่นพี่ EOS R3 เลยครับ โฟกัสติดตามได้ทั้งคน, สัตว์, ยานพาหนะ เรียกว่าตามจิกไม่มีปล่อย โฟกัสไว แถมมีโหมดให้หลากหลายสถานการณ์ ครอบคลุมทั้งเฟรมภาพ
ติดเลนส์ผ่านอะแดปเตอร์ EF-RF ก็ยังโฟกัสไวไม่มีตก (แค่ถ้ารัวผ่านอะแดปเตอร์จะได้ไม่เท่าเลนส์ RF)
พ่วงมาด้วยระบบกันสั่น 5 แกนภายใน body ที่ขึ้นชื่อของทาง Canon ชดเชยชัตเตอร์สปีดได้สูงสุด 8 สต็อป ติดเลนส์อะไรก็มีกันสั่นหมด ภาพนิ่งก็แจ่ม วิดีโอก็ใช้งานกันได้แบบนิ่ม ๆ
ฟีเจอร์ใหม่ที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ก็คือ ‘Auto level’ ที่การทำงานก็จะคล้ายกับกล้องจำพวก action camera เลยครับ ไว้ช่วยปรับองศาเซนเซอร์ของเราให้ภาพตั้งตรงตลอดเวลา
แม้จะดูจัดเต็มภาพนิ่งขนาดนี้ แต่ด้านวิดีโอก็ไม่น้อยหน้าเช่นกันครับ ถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K/60p ซึ่งถ้าเลือกที่ 30p จะเป็นการ over sampled จาก 7K คุณภาพสูง
ใครอยากถ่ายเอามาทำ slow ที่ Full HD ก็ทำได้สูงสุดถึง 120p โพรไฟล์สีก็มีให้เลือกทั้ง HDR PQ และ C-LOG 3 10-bit สำหรับใครที่จะเอาไปเกรดสีต่อ ที่สำคัญ EOS R7 ถ่ายวิดีโอไม่จำกัดเวลาแล้วนะ อัดยาว ๆ เกิน 30 นาทีได้เลย!
แถมในโหมดวิดีโอก็ยังมีกันสั่น digital IS เปิดเสริมได้อีก ถือเดินถ่ายกันแบบนิ่ง ๆ (แต่ต้องแลกกับภาพที่จะมีการครอปเข้าไปอีก)
แต่ใครที่อยากเอาไป live หรือต่อจอแยกแบบ Clean HDMI จะไม่สามารถบันทึกวิดีโอที่ตัวกล้องได้นะครับ
EOS R7 ใช้แบตเตอรี่รหัส LP-E6NH ตัวเดียวกับรุ่นพี่ EOS R5, EOS R6 ซึ่งให้ความจุมาสูงถึง 2,130mAh จากที่ลองเอาไปถ่ายภาพนิ่ง 700-800 ภาพ ก็ยังมีแบตเตอรี่เหลือให้ใช้งานกันได้อีกนิดหน่อยครับ ถือว่าอึดพอสมควรสำหรับกล้อง APS-C
ใครที่กังวลว่าแบตเตอรี่จะไม่พอ รุ่นนี้สามารถเสียบชาร์จ power bank ผ่านพอร์ต USB-C ได้ด้วยนะครับ
ต้องบอกว่า skintone สีผิวของค่ายนี้เขาแจ่มจริง ๆ ถ่ายคนออกมายังไงก็สวย
ใครที่มีเลนส์ Canon EF ของ DSLR เก็บไว้ก็เอามาต่ออะแดปเตอร์ EF to RF ใช้งานบนเจ้า EOS R7 กันได้
ถ่ายที่แสงน้อยดัน ISO ไปสัก 6400 ก็ยังไหว อย่างรูปด้านล่าง ISO 12,800 ก็ยังเก็บดีเทลสีได้ดี เอามาย่อลง social ได้สบาย ๆ
จากการใช้งานจริง Canon EOS R7 ถือว่าใช้งานได้ดีทั้งในส่วนภาพนิ่ง และวิดีโอเลยครับ กับราคาเฉพาะ body ที่ 49,900 บาท แต่ใส่ฟีเจอร์มาให้ขนาดนี้ ทั้งระบบโฟกัส ถ่ายภาพต่อเนื่องนี่เรียกว่าเป็น mini EOS R3 ได้เลย
แต่สำหรับใครที่ลังเลว่างบประมาณ 50,000 บาท อยากได้ body ซักตัว จะไปฟูลเฟรม EOS RP แล้วมีเงินเหลือซื้อเลนส์เพิ่ม หรือ APS-C สเปกแน่น ๆ อย่าง EOS R7 อันนี้ก็อยู่ที่ความต้องการแล้วล่ะครับ
ถ้าคุณต้องการกล้องสมัยใหม่ที่ใช้งานแบบ hybrid หรือสายกีฬา, ส่องนก, สปีดสูง EOS R7 ตอบโจทย์กว่าแน่นอน แต่ถ้าอยากได้กล้องถ่ายภาพนิ่งอย่างเดียวไฟล์ฟูลเฟรมสวย ๆ ไม่รีบถ่าย อันนี้อาจต้องมองไปที่ EOS RP ดูแทนครับ
สุดท้ายต้องขอขอบคุณทาง Canon Thailand ที่ให้เอากล้อง EOS R7 มารีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ
อัลบั้มภาพ 27 ภาพ
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :บดินทร์ ตันวิเชียร