แกะกล่องลองเล่นหูฟัง "Samsung Galaxy Buds2" เสียงดี ใส่สบายเพลิน พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ANC
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
สวัสดีครับ...กลับมาพบกับรีวิวสินค้าใหม่อีกครั้ง สำหรับบทความนี้เป็นคิวของหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในอีเว้นท์ล่าสุดไปพร้อม ๆ กับ Samsung Galaxy Z Fold3 5G, Samsung Galaxy Z Flip3 5G และ Samsung Galaxy Watch4 นั้นเองครับ ^^
สำหรับใครที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม ในราคาที่เอื้อมถึงผมว่า Samsung Galaxy Buds2 คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่ค่อนข้างดีเลยครับ
วันนี้ทีม Sanook Hitech จะมาเจาะลึกทดลองใช้งานจริงมาเล่าให้คุณรับชมกันครับ มันจะเจ๋งจริงหรือไม่ มาดูกันครับ !!!
_1.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
Samsung Galaxy Buds2 เป็นหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดที่โดดเด่นด้วยการให้เสียงที่ทรงพลังดุดัน และตัดเสียงรบกวนภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ด้วยเทคโนโลยี Active Noise Cancellation (ANC) และมาพร้อมกับ Driver ขนาด 10 มิลลิเมตร พร้อมกับไมโครโฟนเทคโนโลยีจัดหนัก
โดยไมโครโฟนสามตัวในหูฟังแต่ละข้างในการดักจับคลื่นเสียงด้านนอก เพื่อลดเสียงรอบข้างและเพิ่มคุณภาพเสียงอย่างครบถ้วนทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะอยู่ข้างนอก หรือตามคาเฟ่ ร้านอาหาร ก็ยังเพลิดเพลินกับการฟังเพลงหรือคุยโทรศัพท์ได้อย่างชัดเจน
แกะกล่องส่องอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
- หูฟังไร้สาย Samsung Galaxy Buds2
- เคสสำหรับใส่หูฟังและเป็น Charging Case
- จุกซิลิโคนสำรอง
- สายชาร์จไฟ USB-C
- คู่มือการใช้งาน
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Buds2 เรียบหรู... คลาสสิค
ก่อนจะไปเทสต์เสียงนั้น ผมขออนุญาตพาคุณผู้อ่านไปชมรูปลักษณ์ภายนอกของ Samsung Galaxy Buds2 กันก่อนดีกว่า... บอกได้คำเดียวว่าดูดีเอามากๆ
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
ตัวเคสมาพร้อมกับดีไซน์ทรงเดียวกับ Galaxy Buds Live และ Galaxy Pro นั่นหมายความว่าสามารถหาเคสแบบทรงเดียวมาใช้ได้เลย พร้อมกับโลโก้ของ Samsung ที่สกรีนไว้อย่างเด่นชัดมากเลยครับ แต่แค่ไม่ว่าจะซื้อสีไหน กล่องที่เห็นจะเป็นสีขาวทั้งหมด จะรู้ว่าเป็นสีอะไรก็ต้องเปิดกล่องขึ้นมาเท่านั้นครับ
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
ด้านใต้มีสเปกบอกและเป็นที่อยู่ของ Wireless Pad เท่ากับหูฟังรุ่นนี้รองรับระบบชาร์จไฟไร้สายได้นั่นเอง
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
รอบตัวหูฟังออกแบบเป็นสีขาวดูสะอาดตามากและมีการเว้นระหว่างบนล่างเพื่อบอกว่ามันสามารถเปิดได้นะ ด้านหน้าจะมาพร้อมกับไฟสถานะของกล่องเก็บหูฟังว่า เหลือไฟอยู่ที่ โดยบอกทั้งหมด 3 สถานะได้แก่ เขียว ไฟเต็ม, เหลือไฟเหลือ 50% และ แดง ไฟเหลือ 25% ส่วนกระพริบสีแดง แสดงว่าไฟเหลือน้อยกว่า 10% ควรชาร์จไฟ
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
ภายในกล่องจะมีหูฟังและขั้วชาร์จไฟหูฟัง สามารถบอกได้ว่าหูฟังนั้นมีไฟเหลือเท่าไหร่
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
ด้านหลังของตัวเคสเป็นตำแหน่งของพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จไฟให้หูฟังนั่นเอง
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
แถบแม่เหล็กสำหรับยึดติดฝาของตัวเคส เพื่อไม่ให้หูฟังหลุดออกจากกล่องหากคุณทำกล่องเคสตก
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
เมื่อเราเปิดเคสออกมาก็จะพบกับหูฟังทั้งสองข้างวางชาร์จอยู่พร้อมไฟบอกสถานะแบตเตอรี่การชาร์จแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน หากเป็นสีเขียวบ่งบอกว่าแบตเตอรี่เต็ม และหากเป็นสีแดงเป็นสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ของหูฟัง
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
เคสชาร์จ มาพร้อมกับไฟ LED บอกสถานะปริมาณไฟของหูฟัง
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
สำหรับในส่วนของตัวหูฟังนั้น Samsung Galaxy Buds2 เป็นหูฟังรูปทรงก้านสั้นแบบ in-ear พร้อมจุกยางที่สวมใส่สบาย ผลิตจากซิลิโคนที่ไม่มีสารพิษและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ จึงใช้งานได้อย่างไร้กังวล ดีไซน์ของหูฟังออกแบบเรียบง่าย แต่ที่ดูดปูดเพราะว่าภายในมี Driver ขนาด 10 มิลลิเมตร มีทั้ง Woofer และ Tweeter มาให้และจุกเป็นแบบ In Ear ขนาดเล็กใส่ได้ง่ายมากขึ้นไม่ดันหูมากนัก และเพื่อให้สมกับเป็นหูฟังน้องเล็ก สีสันก็มีให้เลือกครบครันเช่น สีให้เลือกทั้งสีขาว (White), สีม่วง (Lavender), สีดำ (Graphite) และ เขียว (Olive)
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
Galaxy Buds2 มีน้ำหนักเบา (ข้างละ 5 กรัม) และไม่หลุดร่วงง่ายแม้คุณจะมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งก็ตาม ปลอกหูฟังซิลิโคนมอบความนุ่ม ให้ความยืดหยุ่น มีให้เลือกถึง 3 ขนาดมอบความกระชับที่ลงตัวเพื่อเพิ่มประสบการณ์การรับฟัง
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
หูฟังแต่ละข้างมาพร้อมกับไมโครโฟน 3 จะตรวจจับเสียงรบกวนรอบข้างในขณะที่ Active Noise Canceling จะช่วยกำจัดเสียงที่ไม่ต้องการออกไป ซึ่งทำให้เสียงรบกวนภายนอกนั้นลดลงได้ถึง 98% รับรองโดย UL Verification

ซึ่งค่อนข้างที่จะใช้งานได้สบายๆ ใส่ได้นานๆ เพราะแนบกระชับกับสรีระหูของคน เสียบเข้าไปในรูหูอย่างง่ายดาย Samsung Galaxy Buds2 มาพร้อมรูปทรงของหูฟังสุดคลาสสิกแบบใหม่ ออกแบบมาเพื่อการสวมใส่ที่สบายมากขึ้น แม้สวมใส่ติดต่อยาวนานหลายชั่วโมงก็ตาม แทบไม่มีอาการปวดหูออกมาให้เห็นเลย
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
ที่สำคัญไม่หลุดร่วงง่ายขณะออกกำลังกาย และด้วยช่องลมที่ช่วยปรับสมดุลแรงดันและเพิ่มการไหลเวียนของอากาศภายในช่องหูของคุณ หูฟังนี้จึงพอดีกับหูของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ จนทำให้คุณลืมไปว่าคุณสวมใส่หูฟังอยู่ และมีจุกให้ปรับขนาดได้ทั้งหมด 3 ขนาดด้วยกัน
สวมใส่ลองใช้งานฟีเจอร์ของ Galaxy Buds 2
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
การเชื่อมต่อกับ Application บนมือถือ / PC
แนะนำว่าขอให้เริ่มต้นจากการโหลดแอปพลิเคชั่น Samsung Galaxy Wearable สำหรับระบบปฏิบัติการ Android และ Galaxy Buds สำหรับ iOS การเชื่อมต่อก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงเปิดฝาตัวหูฟังก็จะ Pairing กับสมาร์ทโฟนให้ทันทีโดยที่ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นเพียงแค่คุณต้องทำการเปิด Bluetooth ที่สมาร์ทโฟนเครื่องที่ต้องการเชื่อมต่อ
แต่ถ้าคิดว่าหมดแล้ว ยังครับ ยังมี App Galaxy Buds สำหรับคอมพิวเตอร์ Windows เมื่อดาวน์โหลดมาแล้วการทำงานเหมือนกับของมือถือ และ สามารถสลับไปยังมือถือผ่าน Samsung Account ได้ด้วย
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
บนแอปฯ Galaxy Wearable จะสามารถปรับแต่งการทำงานของหู Galaxy Buds2 ได้ละเอียดขึ้น ทั้งการปรับแต่งเสียงอีควอไลเซอร์ในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ เสียงปกติ บูสต์เบส นุ่ม ไดนามิก ชัดเจน และบูสต์เทรเบิล แต่ไม่สามารถปรับแต่งเองได้
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
นอกจากนี้คุณยังสามารถสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ Galaxy ต่าง ๆ ของคุณจะง่ายกว่าเคยด้วย Auto Switch รับชมภาพยนตร์ในแท็บเล็ตหรือเล่นเพลงจาก Galaxy Buds2 ได้โดยไม่ต้องกดปุ่มมากมายให้วุ่นวาย หรือจะเป็นการสลับถ้าไม่ได้อยู่กับมือถือ ให้ Galaxy Watch 4 จัดการเองทั้งหมดได้
คุณสมบัตินี้สามารถใช้ได้กับ Galaxy Buds Live และ Galaxy Buds Pro ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถ Download Software แก้ปัญหา และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ได้ และยังมีฟีเจอร์เช็คว่าคุณใส่หูพอดีหรือไม่ พร้อมกับปรับความสมดุลของเสียงทั้งซ้ายและขวา

การด้วยการสัมผัส บริเวณฝั่งด้านนอกของหูฟัง Galaxy Buds2 สามารถใช้งานสัมผัสในการสั่งการได้ ดังนี้
- แตะ 1 ครั้ง เพื่อเล่น หรือพักเพลง
- แตะ 2 ครั้้ง เพื่อเล่นเพลงถัดไป หรือรับสายโทรศัพท์
- แตะ 1 ครั้ง เพื่อเล่นเพลงก่อนหน้า
- แตะค้าง เพื่อสลับการควบคุมเสียงรบกวน หรือปฎิเสธสายเรียกเข้า
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
แบตเตอรี่อึด...ใช้งานได้ยาวนานถึง 29 ชม.*
ไม่ว่าคุณจะเอาไว้ดูซีรีส์โปรด ไล่ฟังเพลงในเพลลิสต์ หรือเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมกลางแจ้ง Galaxy Buds2 ช่วยคุณเชื่อมต่อและรู้สึกสบายหูไปพร้อมกันได้ตลอดทั้งวัน และด้วยอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานช่วยให้คุณเล่นเพลงได้นานถึง 5 ชั่วโมง และอีก 18 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสที่ชาร์จไฟจนเต็ม แต่ถ้าเปิด ANC ตลอด ก็จะลดลงเหลือ 3 ชั่วโมง และฐานอีก 15 ชั่วโมงสำหรับการเปิด ANC และระบบการชาร์จไฟทำได้ง่ายทั้ง USB-C และสามารถวางผ่าน ชาร์จผ่าน Wireless Charging
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
และแน่นอนว่า Galaxy Buds2 มาพร้อมกับมาตราฐานกันน้ำ IPX2 ใส่ออกกำลังกายได้ ไม่ต้องกลัวเหงื่อไหลเข้าไปข้างใน สามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่ หรือกิจกรรมเอาท์ดอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ได้เวลาทดลองเสียงในว่าจะฟังเพลงหรือใช้สายคือดีย์
ส่วนเรื่องความสามรถในเรื่องของการช่วยตัดเสียงรบกวนหรือที่เรารู้จักกันดีอย่าง Active Noise Canceling หรือ ANC ที่มีใน Samsung Galaxy Buds2 ก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน เพราะเขาเคลมมาว่ามันสามารถช่วยตัดเสียงรบกวนได้อย่างดี
โดยที่ไมโครโฟนด้านในและด้านนอกสามารถจับเสียงรบกวนได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย (อันนี้เท่าที่ลองใช้งานคือตอนเข้าโสู่โหมด ANC ทันเงียบจริงๆ ครับ) แต่ถ้าต้องการให้เสียงภายนอกเข้ามา ก็จะมีฟีเจอร์ Ambient Sound ได้ถึง 3 ระดับตามรูปแบบที่คุณต้องการ
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
คุณภาพเสียง / ไมโครโฟน
ด้านคุณภาพเสียงถือว่ามีการใช้ Driver ขนาด 10 มิลลิเมตร ใหญ่กว่า Galaxy Buds Plus แต่เป็นรอง Galaxy Buds Pro คุณภาพที่ออกมาให้คุณภาพเสียงครบเครื่องและสามารถปรับแต่งผ่าน Apps ที่ได้บอกไปข้างบน ทั้งนี้และเมื่อใช้งานเล่นเกม สามารถเปิด Lab เข้าสู่ Game Mode จะพบว่า ไม่มีอาการ Delay ให้เห็น ส่วนการดู Series ก็มีฟีเจอร์ให้เสียง 360 องศาให้คุณภาพเสียงที่ดี แต่ถ้าไม่เปิด ก็ยังมีคุณภาพดีแยกซ้ายขวาได้ไม่ต้องห่วงเรื่องอาการ Delay เช่นเดียวกัน
ไมโครโฟนใช้สนทนาคมชัดหรือไม่
หูฟัง Samsung Galaxy Buds 2 มีระบบ Machine Leaning ในการลดเสียงรบกวนเวลาโทรศัพท์ และยังมีการติดตั้งไมโครโฟน และ VPU (Voice Pick Up Unit) ทำให้เสียงที่ได้ใส่กว่าเดิม และไมโครโฟนเป็นแบบ Beamforming มาให้ด้วย

ทั้งหมดที่ทำให้เสียงพูดออกมาคมชัดแม้ว่าจะอยู่สถานการณ์ไหนก็ตาม ยกเว้นเข้าที่สถานที่เสียงดังมากๆ อย่าง Concert มันจะเบาเสียงลงไปได้ประมาณหนึ่งนะ แต่ใช้ประชุมออนไลน์ถือว่าดีมากในเรื่องการเก็บเสียงครับ
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
โดยรวมแล้วถือว่าคุณภาพเสียงที่ออกมาเมื่อฟังเบื้องต้น ให้เสียงเบสดี และเสียกลางถือว่าลงตัว เพราะรองรับกับคุณภาพเสียงที่จัดว่ารองรับรูปแบบเสียงค่อนข้างมาก จนเรียกว่าครบเลยก็ว่าได้ คุณภาพของไมโครโฟนก็มีการตัดเสียงได้ดีเพราะมีไมโครโฟนแทบจะรอบตัวหูฟังเลยครับ (ตรงนี้ผมว่าเรื่องของเสียงดีหรือไม่ดีของแต่ละคนไม่เท่ากัน)
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
คุณภาพไมโครโฟนหากมีสายเรียกเข้าหรือโทรออก ผมว่า Samsung Galaxy Buds Pro เป็นหูฟังอีกรุ่นที่สามารถตอบโจทย์ได้ดีมากๆ ในเรื่องของการใช้สายไม่ว่าจะเป็นการโทรออกหรือการรับสายสำคัญและต้องพูดคุยหรือประชุมสำคัญ ไมโครโฟน 3 ตัว จะช่วยรับเสียงคู่สนทนาได้ชัดเจน ได้ยินเสียงที่ตัวเองพูดชัดขึ้น และมีการตัดเสียงรบกวนออกไปจากทั้ง 2 ฝั่ง ช่วยให้สนทนาได้อย่างราบรื่น
คุณไม่ต้องกังวลถึงปัญหาของการได้ยินเสียงหรืออีกฝั่งไม่ได้ยินเสียงจนทำให้คุยกันไม่รู้เรื่องเพราะเท่าที่ผมทดลองใช้งานจริง มันสามารถใช้งานเรื่องดีได้ดีมากๆ ...และยังสามารถใช้งานหูฟังรุ่นนี้ข้างเดียวได้นะครับ เพราะบางจังหวะเราอาจต้องการใส่หูฟังเพียงข้างเดียวเท่านั้นตอนใช้งาน
เอาเป็นว่าถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของผมละกันครับ ถ้าใครไม่แน่ใจก็สามารถแวะเวียนไปทดลองของจริงกันได้ที่ Samsung Shop ได้เขามีของจริงให้เราได้เล่นกัน)
สรุปหลังได้ทดลองเล่น Samsung Galaxy Buds2 อย่างเป็นทางการ
สำหรับเราแล้วหากให้เลือกหูฟังของฝั่งแอนดรอยด์มาไว้ใช้งานสักรุ่น Galaxy Buds คือคำตอบในดวงใจ ส่วนทางฝั่งแอปเปิลเราคงต้องยกตำแหน่งนี้ให้กับ AirPods เขาไป...
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
แน่นอนว่าหูฟัง Galaxy Buds2 รุ่นนี้มาพร้อมความโดดเด่นในหลาย ๆ ตามแบบฉบับของ Samsung ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ หรือเสียงที่สามารถทำออกมาได้ดีเหมาะสมกับราคาที่วางจำหน่ายเมื่อเทียบกับฟีเจอร์และสเปกขนาดนี้
อีกเรื่องที่สำคัญมากของการใส่หูฟังแบบนี้คือหลาย ๆ คนกังวลว่าหากต้องใส่ใช้งานต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานๆ จะมีปัญหาหรือไม่ เท่าที่เราได้ทดลองใช้งานก็ยังสบายหูอยู่นะ แม้สวมใส่ติดต่อยาวนานหลายชั่วโมงก็ตาม
ที่สำคัญไม่หลุดร่วงง่ายขณะออกกำลังกาย และด้วยช่องลมที่ช่วยปรับสมดุลแรงดันและเพิ่มการไหลเวียนของอากาศภายในช่องหูของคุณ หูฟังนี้จึงพอดีกับหูของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ จนทำให้คุณลืมไปว่าคุณสวมใส่หูฟังอยู่
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
ในเรื่องของระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Canceling และไมค์สนทนาที่ทำได้ดีมาก แม้ว่าราคาจะไม่สูงมากเท่ากับรุ่นพี่ ๆ แต่ Galaxy Buds2 ก็จัดว่าจัดเต็มมากครับ หากใครต้องการหูฟังสำหรับไว้ประชุมออนไลน์เยอะ ๆ เราว่าตัวนี้ไม่เลวเลย
ส่วนตัวแล้วหลังการได้ทดลองเล่น Samsung Galaxy Buds2 พูดเลยว่ากระเป๋าสตางค์สั่นในทันที ยิ่งทำให้ตัดสินใจได้อย่างง่ายดายว่าจะจับจองเป็นเจ้าของหรือไม่ ... และนี่คือ “Samsung Galaxy Buds2 ” หูฟังดี ๆ อีกรุ่นที่อยากให้คุณได้ลอง สำหรับใครที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม ในราคาที่เอื้อมถึงตัวนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
ราคาและการวางจำหน่าย
หูฟังไร้สาย Galaxy Buds2 จะวางจำหน่ายในราคา 3,990 บาท ซึ่งถือเป็นราคาเปิดตัวที่เข้าถึงได้มากที่สุดในกลุ่มของหูฟัง Galaxy Buds ของซัมซุง มาในตัวเลือก 3 สี ได้แก่ สีแกรไฟต์, สีเขียว Olive และ สีม่วงลาเวนเดอร์ พร้อมด้วยอุปกรณ์เสริมสุดเก๋อีกมากมาย การหาซื้อง่ายทั้งออนไลน์และหน้าร้าน Samsung Store และวางจำหน่ายแล้วนะ
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี




