
ผ่านไปแล้วครับสำหรับงาน Apple Event ใหญ่ของ Apple เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา และเป็นไปตามคาดครับเพราะในไฮไลท์ของงานคือการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล iPhone 12 series ที่รอบบนี้มาด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น

ทั้งนี้บทความก่อนหน้านี้เราได้แนะนำ iPhone 12 Pro และ Pro Max ไปแล้วบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก iPhone 12 และ iPhone 12 mini สมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G รุ่นเล็กกันต่อ
สเปกเปรียบเทียบ iPhone 12 และ iPhone 12 mini
iPhone 12 เร็วยิ่งกว่าเร็ว ทั้งชิพที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟนอย่าง A14 Bionic จอภาพ OLED แบบขอบจรดขอบ Ceramic Shield ที่ทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น 4 เท่า และโหมดกลางคืนบนกล้องทุกตัว iPhone 12 ก็มีหมดทุกอย่าง ในสองขนาดที่ลงตัว

Ceramic Shield เห็นได้ชัดว่าแข็งแกร่งกว่า กระจกไหนๆ บนสมาร์ทโฟน ทนต่อการตกกระแทก ได้ดีขึ้น 4 เท่า

ผลึกเซรามิกระดับนาโน แล้วก็ถึงเวลาของ Ceramic Shield ซึ่งเกิดจากการนำผลึกเซรามิกระดับนาโนซึ่งแข็งแกร่งกว่าโลหะส่วนใหญ่ไปผสมลงในกระจก อาจจะฟังดูง่าย แต่จริงๆ แล้วกระบวนการนี้ยากกว่าที่ใครหลายคนคิดเพราะเซรามิกไม่ได้มีความโปร่งใส ดังนั้นเราจึงคิดค้นสูตรแบบเฉพาะตัวขึ้นมาในการควบคุมชนิดของผลึกและระดับความเป็นผลึกของเซรามิก
ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของเซรามิกจนถึงขีดสุด ในขณะที่ยังคงความใสเอาไว้ได้ด้วย นี่คือความล้ำที่ทำให้ Ceramic Shield เหมาะที่จะนำมาทำเป็นจอภาพอย่างไร้ที่ติ ขณะเดียวกันก็ยังเป็นครั้งแรกในสมาร์ทโฟนกับความแข็งแกร่งที่มากกว่ากระจกบนสมาร์ทโฟนไหนๆ อีกด้วย
กระบวนการแลกเปลี่ยนไอออนคู่ ถึงจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีเสมอไป ดังนั้นเราจึงใช้กระบวนการแลกเปลี่ยนไอออนคู่แบบเดียวกับที่ใช้บนกระจกด้านหลัง เพื่อป้องกันจอภาพจากรอยเล็กๆ รอยขีดข่วน และร่องรอยจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น 4 เท่า นอกจาก Ceramic Shield แล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เสริมความทนทานของตัวเครื่องด้านหน้ายิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งก็คือจอภาพที่เรียบเสมอกันกับขอบของโทรศัพท์ซึ่งช่วยเพิ่มการป้องกันในอีกระดับ และจากทั้งหมดนี้ เราจึงได้ iPhone ที่ทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น 4 เท่า นับเป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดจากปีก่อนหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone

H2O โอเค ทนต่อน้ำที่หกและน้ำที่กระเด็นใส่ได้ดียิ่งขึ้น

5 สีสันสดใหม่

แรงด้วย A14 Bionic คือชิพที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน ชิพแบบเดียวกับ iPhone 12 Pro
และยังสร้างขีดจำกัดใหม่ๆ ให้ความเป็นไปได้ อย่างเช่น การประมวลผลนับล้านล้านรายการบน Neural Engine หรือถ่ายวิดีโอในแบบ Dolby Vision ที่แม้แต่กล้องภาพยนตร์ระดับโปรยังทำไม่ได้ แถมยังประหยัดพลังงานเป็นเยี่ยมเพื่อแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน และในขณะเดียวกันก็ล้ำหน้าไปไกลจนเรียกได้ว่าเป็นขุมพลังที่พร้อมรับมือได้แทบทุกอย่างที่รออยู่ข้างหน้าเลยล่ะ

จอภาพ Super Retina XDR โอ้โห OLED
ก้าวกระโดดที่ชัดเจนจาก LCD ไป OLED iPhone 12 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่อันทรงพลังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกวิดีโอระดับ 4K ในแบบ Dolby Vision และรูปภาพ HDR ที่มีรายละเอียดสุดยอด ซึ่งมีแต่จอภาพแบบล้ำๆ เท่านั้นที่จะสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ได้อย่างเต็มรูปแบบ เราจึงทุ่มสุดตัวเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด และผลลัพธ์ก็คือ จอภาพ Super Retina XDR

ความสว่าง 1,200 นิต สำหรับ HDR อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 LCD จะใช้แบ็คไลท์เพื่อทำให้พิกเซลส่องสว่างพร้อมกันทั้งหมด ซึ่งต่างจาก OLED ที่ แต่ละพิกเซลสามารถเปล่งแสงด้วยตัวเองได้โดยพิกเซลเหล่านี้สามารถปิดการทำงานโดยสิ้นเชิงเพื่อถ่ายทอดสีดำที่ดำสนิท หรือให้ความสว่างได้สูงถึง 1,200 นิตสำหรับคอนเทนต์ HDR นี่คือเหตุผลว่าทำไมอัตราส่วนคอนทราสต์จึงสูงถึง 2,000,000:1 ไม่บอกก็รู้ว่าความแตกต่างจะน่าตื่นตาขนาดไหน
สว่างยิ่งขึ้นดำสนิทยิ่งขึ้น ข้อความและอีเมลต่างดูคมชัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนรูปภาพและวิดีโอทั้งหมดของคุณรวมถึงความทรงจำโปรดก็จะดูสวยงามสมจริงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ นอกจากนี้อะไรต่างๆ อย่างฉากระเบิดไฟลุกหรือสงครามอวกาศในภาพยนตร์ ก็มีความละเอียดอย่าง น่าทึ่ง ส่วนที่สว่างก็สว่างสุดๆ และส่วนที่ควรจะมืดก็มืดสนิทอย่างแท้จริง
ระบบกล้องคู่ ยินดีต้อนรับสู่ด้านมืด


ตอนนี้ทั้งกล้องไวด์หรืออัลตร้าไวด์ต่างก็มีโหมดกลางคืนแล้วทั้งคู่ ซึ่งทำให้การถ่ายภาพที่สวยงามน่าทึ่งในสภาวะแสงน้อยนั้นทำได้ดีกว่าครั้งไหนๆ โดยที่กล้องไวด์ใหม่นั้นรับแสงได้มากขึ้นถึง 27% ดังนั้นไม่ว่าคุณจะถ่ายรูประหว่างวันหรือใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืน คุณก็จะได้รายละเอียดและสีสันในระดับที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน

โหมดกลางคืน รู้ว่าเมื่อไหร่ที่แสงน้อย และจะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อคงความคมชัดในขณะที่ยังคงถ่ายทอดสีสันได้อย่างสวยสดงดงาม ซึ่งทั้งหมดที่คุณต้องทำก็แค่กดถ่าย

Deep Fusion จะวิเคราะห์ภาพจากหลายค่าแสงเพื่อให้สามารถถ่ายทอดรายละเอียดออกมาได้มากที่สุดเมื่ออยู่ในสภาวะแสงปานกลางถึงน้อย ไม่เชื่อลองดูรายละเอียดบนพื้นผิวของไม้ ผ้า และคริสตัลดูสิ ส่วนกล้องอัลตร้าไวด์ก็ยังช่วยเสริมมุมมองของคุณให้ยิ่งใหญ่อลังการด้วย

ไม่มีคำว่าน้อยหน้า สำหรับโหมดภาพถ่ายบุคคล
โหมดภาพถ่ายบุคคล สามารถเบลอฉากหลังได้ดียิ่งขึ้นอย่างสวยงามเพื่อโฟกัสเต็มๆ ไปที่ตัวแบบของคุณ ถูกใจใช่มั้ยล่ะ
ถ่ายภาพสวยๆ ได้สวยยิ่งขึ้นด้วยเอฟเฟ็กต์การจัดแสงสุดสร้างสรรค์ที่มีให้เลือกถึง 6 แบบ ทั้งแสงไฟขาวดำไฮคีย์ แสงไฟธรรมชาติ และแสงไฟสตูดิโอ

วิดีโอ แสงน้อย แต่ถ่ายได้ สวยมาก
ถ้าสงสัยว่าจะทำให้วิดีโอที่มีคุณภาพสูงที่สุดในสมาร์ทโฟนดีขึ้นอีกได้ยังไง คำตอบก็คือทำให้ถ่ายในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นนั่นเอง แล้วก็ต้องดีขึ้นแบบจัดเต็ม 27% ด้วย ซึ่งหมายความว่าจะช่วงเวลาไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับการถ่ายวิดีโอในรายละเอียดที่สวยงามยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ยังมีไทม์แลปส์ในโหมดกลางคืนด้วย เอาล่ะ ทีนี้ก็ติด iPhone ไว้กับอะไรซักอย่าง แล้วก็ปล่อยให้เส้นแสงได้โลดแล่นกันเลย
เซลฟี่ในโหมดกลางคืนดูโดดเด่นในความมืด
ตอนกลางคืนนี่แหละเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับเซลฟี่ เพราะโหมดกลางคืนและคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมทั้งหลายมาอยู่บนกล้องหน้าเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นDeep Fusion, HDR อัจฉริยะ 3, การบันทึกวิดีโอในแบบ Dolby Vision และอีกมากมายคราวนี้ก็ทำหน้าเก๋ๆ แล้วก็ 3-2-1 ยิ้ม
อุปกรณ์เสริม MagSafe อะไรๆ ก็คลิก ไปซะหมด
ซ้อนกันได้อย่างสวยงาม ติดเข้ากับเคสหรือกระเป๋าสตางค์ MagSafe ใหม่ หรือทั้งคู่ได้เลย (และไม่ต้องห่วง เพราะกระเป๋าสตางค์ยังมีการป้องกันเพื่อความปลอดภัยสำหรับบัตรเครดิตอีกด้วย)

พลังชาร์จติดเทอร์โบ แม่เหล็กจะประกบเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบทุกครั้งเพื่อการชาร์จแบบไร้สายที่เร็วยิ่งขึ้น
และแน่นอนว่า iPhone ทุกรุ่นรุ่นใหม่ไม่มี อะแดปเตอร์แปลงไฟและ EarPods ให้อีกแล้ว

จากการให้อะแดปเตอร์แปลงไฟและ EarPods ที่มักไม่ค่อยได้ใช้มาเป็นสาย USB-C เป็นLightning สำหรับการชาร์จเร็วที่คนส่วนใหญ่ต้องการแทน ซึ่งทำให้บรรจุภัณฑ์มีขนาดเล็กลง มีปริมาณกล่องต่อรอบการจัดส่งมากขึ้น และนั่นหมายถึงรอบการจัดส่งโดยรวมที่น้อยลง นอกจากนี้เรายังให้พันธมิตรด้านการผลิตของเราเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนอีกด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้เราสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากกว่า 2 ล้านเมตริกตันต่อปีเลยทีเดียว

ทั้งนี้จะเริ่มวางจำหน่าย 6 พฤศจิกายน ในบางประเทศ และ 13 พฤศจิกายน จะเริ่มเปิดจองเช่นเดียวกัน ทั้งนี้สำหรับประเทศไทยต้องรอประกาศอีกครั้ง อันนี้คือราคาที่สำรวจจากทางเว็บไซต์ Apple.com ในประเทศสหรัฐอเมริกา