Nikkei Asian Review รายงานว่าผู้ผลิตชิปเซ็ตรายใหญ่ของจีนอย่างกำลังเร่งการลดใช้อุปกรณ์ทางด้านการผลิตชิปเซ็ต Semi-Conductor จากสหรัฐอเมริกา เหตุมาจากกรณีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีนในด้านเทคโนโลยีมาร่วมปี
ผู้ผลิตชิปเซ็ตของจีนที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของจีนเช่น SMIC หรือ Semiconductor Manufacturing International Corporation และ Yangtze Memory Technologies หรือบริษัทผู้ผลิตหน่วยความจำ memory คือสองบริษัทที่ต้องการเดินหน้าพัฒนาการผลิตอุปกรณ์ และฮาร์ดแวร์ของตัวเอง โดยที่ไม่ต้องพึ่งอะไรเลยจากสหรัฐอเมริกา
ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงแค่สองบริษัทนี้ แต่ยังมีอีกหลายบริษัทที่ได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลจีน ก็กำลังทำเช่นเดียวกัน และมีการรายงานจากแหล่งข่าวไม่ระบุชื่อว่า บางบริษัทได้กักตุนสินค้าบางชิ้นที่นำเข้ามาจากผู้ผลิตในสหรัฐฯเอาไว้นานแรมปี เพื่อที่จะนำหยิบเอามาใช้ในภายหลัง และทำเหมือนว่าพวกเขาสามารถอยู่ได้แม้ไม่ต้องพึ่งทางสหรัฐ
“ก็เป็นแผนที่เสี่ยงดีนะ กับการหยิบเอาแพลน B ปลอม ๆ ออกมาใช้แบบนี้” แหล่งข่าวดังกล่าวได้ให้ความเห็นเอาไว้กับทาง Nikkei Asian Review
SMIC เป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตชิปที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้สูงมากแต่ต้น กับการตั้งใจที่จะผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ขนาด 40nm โดยที่จะไม่พึ่งอุปกรณ์ของสหรัฐฯเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ให้สำเร็จภายในปีนี้ และตั้งใจที่จะพัฒนาลงไปยังขนาด 28nm ในเวลา 3 ปีข้างหน้า
ส่วนทางด้าน Yangtze Memory อีกหนึ่งผู้ผลิตหน่วยความจำรายสำคัญ ก็ต้ังเป้าที่จะเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์การผลิตภายในบ้านของตนเองมากขึ้น ทุก ๆ เดือน ซึ่งเป็นความตั้งใจที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแล้ว จนตอนนี้หันมาใช้อุปกรณ์จากผู้ผลิตภายในประเทศของตัวเองถึง 70% แล้ว และอีก 30% ที่เหลือจะเป็นการชวนกลุ่มผู้ผลิตที่ได้คุณภาพ และมาตราฐานเข้ามาร่วมทำงานด้วยกัน เป็นเหมือนการช่วยกันไปในตัว
ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีนในเรื่องเทคโนโลยีอุตสหกรรม Semi-Conductor คงยังจะไม่จบลงง่าย ๆ เพราะเทคโนโลยีการผลิตชิปนี้อยู่แทบในทุกส่วนของสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี ตั้งแต่สมาร์ตโฟนเครื่องเล็ก ๆ ไปจนถึงรถยนต์ขนาดใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งเป็นอะไรที่สามารถขับเคลื่อนประเทศได้ และมีผลต่อความมั่นคงของชาติของทั้งสอง
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ
ขอขอบคุณ