สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการคุมเข้ม "หัวเว่ย" ไม่ให้เข้าถึงเทคโนโลยี-ชิปคอมพิวเตอร์

สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการคุมเข้ม "หัวเว่ย" ไม่ให้เข้าถึงเทคโนโลยี-ชิปคอมพิวเตอร์

สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการคุมเข้ม "หัวเว่ย" ไม่ให้เข้าถึงเทคโนโลยี-ชิปคอมพิวเตอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศในวันจันทร์ว่า จะเพิ่มมาตรการควบคุมเพื่อไม่ให้บริษัทเทคโนโลยีหัวเหว่ย (Huawei Technologies Co) สามารถเข้าถึงชิปคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีต่าง ๆ สืบเนื่องจากมาตรการลงโทษที่สหรัฐฯ นำมาใช้กับหัวเหว่ย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กำลังพิจารณาขยายขอบเขตของมาตรการลงโทษที่สหรัฐฯ ประกาศใช้กับบริษัทหัวเหว่ยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยมีเป้าหมายป้องกันไม่ให้หัวเหว่ยสามารถเข้าถึงชิปคอมพิวเตอร์เพื่อการพาณิชย์โดยไม่มีใบอนุญาตพิเศษ ซึ่งรวมถึงชิปคอมพิวเตอร์ของบริษัทต่างชาติที่ใช้เทคโนโลยีหรือซอฟต์แวร์ของบริษัทอเมริกันในการผลิตหรือพัฒนาชิปด้วย

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังจะเพิ่มรายชื่อบริษัทสาขาหรือบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับหัวเหว่ยอีก 38 บริษัทใน 21 ประเทศไว้ในบัญชีดำ ทำให้มีบริษัทที่อยู่ในรายชื่อนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 152 แห่ง นับตั้งแต่หัวเหว่ยถูกขึ้นบัญชีดำของรัฐบาลสหรัฐฯ ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว เนื่องจากเหตุผลด้านเทคโนโลยีและความมั่นคงของสหรัฐฯ ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ วิลเบอร์ รอสส์ กล่าวกับ Fox Business ว่าการควบคุมจำกัดชิปคอมพิวเตอร์ของหัวเหว่ย ทำให้หัวเหว่ยต้องหาวิธีหลบเลี่ยงไปใช้ชิปของผู้ผลิตรายอื่น ดังนั้นกฎเกณฑ์ใหม่นี้จึงมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่ใช้เทคโนโลยีหรือซอฟต์แวร์ของบริษัทอเมริกันในการผลิตหรือพัฒนาชิปเหล่านั้น

ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ กล่าวว่า การปรับกฎเกณฑ์ใหม่ครั้งนี้คือการป้องกันไม่ให้หัวเหว่ยสามารถหลบเลี่ยงกฎหมายของสหรัฐฯ ไปใช้ชิปคอมพิวเตอร์ที่ผลิตโดยบริษัทอื่น หลังจากที่หัวเหว่ยพยายามทำเช่นนั้นมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม

ภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่นี้ บริษัทที่มีชื่ออยู่ในบัญชีดำของรัฐบาลสหรัฐฯ จะต้องขอใบอนุญาตพิเศษหากต้องการขายเทคโนโลยีหรือชิปคอมพิวเตอร์ให้กับบริษัทที่อยู่ในรายชื่อถูกลงโทษจากรัฐบาลสหรัฐฯ เช่น หัวเหว่ย เป็นต้น

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยืนยันว่าจะไม่ยืดอายุใบอนุญาตชั่วคราวสำหรับบริษัทที่ใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีโทรคมนาคมของหัวเหว่ยซึ่งหมดอายุลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วย

มาตรการควบคุมจำกัดที่สหรัฐฯ นำมาใช้กับหัวเหว่ยตั้งแต่เดือน พ.ค. และจะมีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. ส่งผลกระทบอย่างมากต่อกระบวนการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ของหัวเหว่ยและบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้หัวเหว่ย

โดยเมื่อต้นเดือนนี้ นายริชาร์ด หยู ประธานด้านธุรกิจสินค้าอุปโภคของหัวเหว่ย เปิดเผยว่า สายการผลิตชิป “คิริน” ที่วิศวกรของบริษัทเป็นผู้ออกแบบจะต้องหยุดพักตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนนี้เป็นต้นไป เพราะบริษัทคู่สัญญาที่ทำหน้าที่ผลิตจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในการทำงาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook