ชุมชนชาว Crypto ครึกครื้น! เมื่อ J.K. Rowling ถามเกี่ยวกับ Bitcoin คืออะไร?

ชุมชนชาว Crypto ครึกครื้น! เมื่อ J.K. Rowling ถามเกี่ยวกับ Bitcoin คืออะไร?

ชุมชนชาว Crypto ครึกครื้น! เมื่อ J.K. Rowling ถามเกี่ยวกับ Bitcoin คืออะไร?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้เขียน ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’ กับคำถามเกี่ยวกับเงินสกุลคริปโตฯ ที่ยากเกินทำความเข้าใจ

นี่ไม่ใช่ชื่อตอนใหม่ของนวนิยายชุดชื่อดังของโลกอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่เรื่องนี้กลายเป็นกระแสฮือฮาเมื่อ J.K. Rowling ผู้เขียนนวนิยายแฟนตาซีชื่อดัง ได้ออกมาทวีตตั้งคำถามบน Twitter ว่า  Bitcoin คืออะไร?

1501257-thumbnail

และเธอก็ได้รับคำตอบหลายพันข้อความแทบจะในทันที โดยหนึ่งในนั้นที่เข้ามาตอบคือ Elon Musk เจ้าของกิจการ Tesla Motors, ระบบขนส่ง Hyperloop และโครงการ SpaceX โดยเรื่องนี้เริ่มเกิดเป็นกระแสขึ้นเมื่อ J.K. Rowling ได้ โพสต์บนทวิตเตอร์ของเธอ ซึ่งมีผู้ติดตามราว 14.6 ล้านคนว่า

‘ฉันไม่เข้าใจว่าบิตคอยน์คืออะไร? ช่วยอธิบายให้ฉันหน่อย’

1

ด้วยความที่ J.K. เป็นหนึ่งในคนที่มีชื่อเสียงระดับโลก และผู้ติดตามงานเขียนของเธอก็มีอยู่หลายล้านคน ซึ่งชุมชนชาว Crypto ก็อาจเป็นหนึ่งในแฟนนักอ่านของเธอด้วย จึงพร้อมใจกันเข้าไป Retweet อธิบาย และตอบคำถาม แต่ด้วยความที่คำตอบส่วนใหญ่เป็นคำตอบเชิงเทคนิค และมีหลายพันข้อความ ทำเธอรู้สึกว่า Bitcoin เป็นเรื่องแปลกใหม่ ยากเกินเข้าใจ สับสน และชวนงงมากสำหรับเธอ 

และหนึ่งในทวีตที่ผู้คนให้ความสนใจ คือทวิตที่มาจาก Elon Musk ที่แสดงความเห็นไว้ว่า…

“การอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลจากธนาคารกลางของรัฐบาล  กำลังทำให้เงินอินเทอร์เน็ตอย่าง Bitcoin ดูมี (เสถียรภาพ) ความแข็งแรงมากขึ้น”

2

และทวีตจากนาย Vitalik Buterin นักพัฒนาเหรียญสกุล Ethereum ซึ่งเป็นเหรียญที่มีมูลค่ารวมสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกก็ได้มาอธิบายให้ J.K. ด้วย

3

“มันคือสกุลเงินดิจิทัล ที่ตอนนี้มีจำนวนประมาณ 18 ล้านหน่วย (จากทั้งหมด 21 ล้านหน่วย :ผู้เขียน) ที่กำลังหมุนเวียนอยู่ในระบบ มันไม่ได้ถูกสำรองโดยใครหรืออะไร เหมือนของสะสมที่มีคุณค่าในตัวของมันเอง โดยมีเครือข่าย Computers (ที่ใครก็สามารถเข้าร่วมได้) ไร้ตัวกลาง ควบคุมดูแลตรวจสอบด้วยระบบประมวลผลที่กระจายอยู่ทั่วโลก คอยจัดการดูแล ตรวจสอบยืนยันความถูกต้องว่าแต่ละคนถือครองเหรียญอยู่จำนวนเท่าไหร่”

ซึ่งมีคนเข้ามาแสดงความเห็นทั้งในเชิงลบและเชิงบวกตลอดทั้งวัน แต่ประเด็นที่ทำให้โพสต์ของ J.K. กลายเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้ง คือบรรดาคำตอบจากแฟนคลับหนังสือ ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’ ที่มาพร้อมคำอธิบาย ที่พยายามนำสิ่งที่อยู่ในหนังสือมาอธิบาย เพื่อหวังให้ J.K. เข้าใจได้ง่ายขึ้น (หรืองงหนักกว่าเดิม?)

โดยหนึ่งในผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า Bitcoin Magazine ทวีตตอบว่า

 ลองจินตนาการว่าลอร์ดโวลเดอมอร์บุกกระทรวงเวทมนตร์ไม่ได้ แฮร์รี่ลักลอบเข้าธนาคารกริงกอตส์ไม่ได้ และเอลฟ์ประจำบ้านสามารถมีส่วนในระบบเศรษฐกิจได้ง่าย ๆ โดยใช้แค่อินเทอร์เน็ตซิ

ตามมาด้วยทวิตของ Josh Cincinatti (Executive Director ของ ZCASH) ที่ได้กล่าวเสริมว่า

ลองหลับตาจินตนาการว่าธนาคารกริงกอตส์มีระบบปฏิบัติการผ่านเครือข่ายผงฟลูซิ!

แต่ที่สุดของคำตอบอาจต้องยกให้แฟนวรรณกรรมตัวยงอย่าง Matt Senter (CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Lolli) ที่ทวีตแบบจินตนาการมาเต็มว่า 

ให้นึกถึงเหรียญทองเกลเลียน (สกุลเงินหนึ่งที่มีเขียนอยู่ในหนังสือ) แบบดิจิทัลดูสิ มันเป็นเหรียญทองแบบที่ถึงเอาศิลาอาถรรพ์มาใช้ก็ทำปลอมขึ้นมาไม่ได้ มีจำนวนจำกัด และวิธีเดียวที่จะได้เกลเลียนใหม่มาใช้ คือต้องแข่งกับผู้ทำธุรกรรมรายอื่น และทั้งหมดนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่านธนาคารกลางของพวกก็อบลิน

คำตอบของ Matt Senter น่าจะครอบคลุมที่สุดแล้วสำหรับแฟนคลับ แฮร์รี่ พอตเตอร์

แต่ไวรัลครั้งนี้ก็จบลงด้วยการที่ J.K. ออกมาโพสต์ติดตลกปนบ่น และตอบทุกคนว่า เธอคงไม่มีทางเข้าใจเรื่องนี้ และบัญชี Twitter ที่บอกว่าเธอได้ทดลองซื้อ bitcoin แล้ว เป็นบัญชีปลอม ทั้งยังบอกว่าเธอน่าจะหัวโบราณเกินกว่าที่จะถือครอง bitcoin พร้อมทั้งขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้ข้อมูล กึ่ง ๆ กดดัน และสนับสนุนให้เธอลองซื้อ ก่อนจะหันไปโพสต์เรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้

ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง เรื่องนี้ก็สร้างเสียงฮือฮา และกระแสความสนใจในหมู่ชุมชนชาว Crypto ได้ และว่ากันตามจริงในฐานะมหาเศรษฐินีที่มีชื่อติดโผใน Forbes จากค่าลิขสิทธิ์วรรณกรรมชุด ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’ J.K. Rowling อาจจะไม่จำเป็นต้องสนใจเลยก็ได้ว่า bitcoin คืออะไร หรือควรมีไว้ในครอบครองบ้างหรือไม่

แต่วันหนึ่งหากเธอได้รับคำอธิบายที่ชัดเจนกว่านี้ หรือมีความเข้าใจมากขึ้น เราอาจเห็นเธอหยิบเอาเรื่องนี้ไปพูดถึงในงานเขียน หรือเปิดรับชำระค่าลิขสิทธิ์หนังสือด้วยเงินสกุล Crypto ก็เป็นได้ 

และอย่างน้อยการที่สื่อ รวมถึงคนดังในวงการต่าง ๆ เริ่มกล่าวถึง Bitcoin บ่อยขึ้นเท่าไหร่ โอกาสในการเข้ามามีส่วนร่วมของผู้คนส่วนใหญ่ในสังคม ก็ยิ่งส่งผลดีให้กับอุตสาหกรรม Crypto มากขึ้นเท่านั้น

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook