มูลนิธิรามาธิบดีฯ รวมพลัง กับ 4 Super App เพื่อช่วยนักสู้ชุดขาว สู้กับโควิด 19

มูลนิธิรามาธิบดีฯ รวมพลัง กับ 4 Super App เพื่อช่วยนักสู้ชุดขาว สู้กับโควิด 19

มูลนิธิรามาธิบดีฯ รวมพลัง กับ 4 Super App เพื่อช่วยนักสู้ชุดขาว สู้กับโควิด 19
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมด้วย แกร็บ ประเทศไทย (Grab Thailand), เจดี เซ็นทรัล (JD Central), ลาซาด้า (Lazada), และ ช้อปปี้ (Shopee) เปิดโครงการ “มูลนิธิรามาธิบดีฯ รวมพลัง Super App เพื่อนักสู้ชุดขาว” ครั้งแรก! ของการประกาศความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่าง 4 ซูเปอร์แอป (Super App) ชั้นนำของประเทศไทย ร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงบน “วัฒนธรรมแห่งการให้” เปิดช่องทางบริจาคบนแอปพลิเคชันเพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการต่อสู้และยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  

เพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บุคคลากรทางการแพทย์ต้องการการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนมากขึ้นอย่างทวีคูณ แม้ในตอนนี้สถานการณ์เรื่องทรัพยากรดีขึ้น แต่ก็ยากที่จะคาดเดาว่าสถานการณ์ในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มูลนิธิรามาธิบดีฯ จึงทำงานอย่างใกล้ชิดกับโรงพยาบาล เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ให้สามารถรับมือกับความจำเปนเร่งด่วนและเหตุฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที 

มูลนิธิรามาธิบดีฯ ในฐานะองค์กรการกุศล มีพันธกิจในการเป็นศูนย์กลางการระดมทุน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ตระหนักถึงความสำคัญของการ “ให้” ของทุกภาคส่วนในสังคม ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงบน “วัฒนธรรมแห่งการให้” ในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤต           

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่บุคคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยต่างก็ต้องการการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนมากขึ้นทวีคูณ โครงการ “มูลนิธิรามาธิบดีฯ รวมพลัง Super App เพื่อนักสู้ชุดขาว” จึงถือกำเนิดขึ้น 

นางสาวพรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า “มูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของกลุ่ม ซูเปอร์แอป (Super App) ด้วยปัจจุบันวิถีชีวิตของคนก็กำลังปรับตัวสู่สังคมดิจิตอล โลกออนไลน์มากขึ้น ยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  

ที่พวกเราทุกคนสามารถช่วยหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อได้ด้วยมาตรการ “การรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)” และ “การกักตัวในที่พักอาศัย (Self-Quarantine)” จึงทำให้เกิดเป็นแนวคิดในการผสานความร่วมมือกับแพลตฟอร์มชั้นนำของประเทศไทย เพื่อเป็นเพิ่มช่องทางในการระดมทุนและเพิ่มช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลสำคัญในช่วงเวลาฉุกเฉินที่สามารถเข้าถึงประชาชนส่วนใหญ่ได้ง่ายและรวดเร็ว” 

  

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ที่ผ่านมา แกร็บ ได้ริเริ่มและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการ ‘แกร็บแคร์’ (GrabCares) เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของคนกลุ่มต่างๆ ในสังคม ซึ่งรวมถึงหน่วยงานด้านสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ โดยเราได้ร่วมสนับสนุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ ด้วยการส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการบริจาคเพื่อสมทบทุนใน ‘โครงการป้องกันและช่วยเหลือสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19’ ผ่าน GrabPay Wallet และการใช้คะแนน  GrabRewards นอกจากนี้ เรายังได้มอบส่วนลดค่าส่งเมื่อสั่งอาหารผ่าน GrabFood   

ให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมโรค ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลรัฐ 7 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมจนถึง 30 มิถุนายน 2563 รวมมูลค่าสูงสุดกว่า 3 ล้านบาท รวมถึงการสนับสนุนโรงพยาบาลของรัฐ ในการจัดส่งยาผ่าน GrabExpress ให้กับผู้ป่วยถึงบ้าน ทั้งนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อกำลังใจและแบ่งเบาภาระของคุณหมอ พยาบาล รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ได้อุทิศแรงกายแรงใจในการป้องกันโรคและรักษาผู้ป่วยอย่าง สุดความสามารถในภาวะวิกฤติ19 ที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้” 

นางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง              

 เจดีเซ็นทรัล ได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มาเปิดร้านจำหน่ายสินค้าบนแพลทฟอร์มพร้อมเว้นค่าธรรมเนียม และสิทธิพิเศษ   อีกมากมายเพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ และเพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม นอกจากนี้ยังได้มีการเชิญชวนลูกค้าร่วมบริจาคเพื่อสมทบทุนซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ ผ่านแคมเปญ “โครงการ#เจดีเซ็นทรัลจอยจากใจ”               

เริ่มต้นเดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป เจดีเซ็นทรัล ก็เตรียมที่จะให้การสนับสนุนด้านการบริจาคและระดมทุนเพื่อช่วยเหลือนักสู้เสื้อขาวผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ และโรงพยาบาลในจังหวัดต่างๆ ด้วยการเปลี่ยนเจดีพ้อยท์ เป็นเงินบริจาค และการบริจาคผ่านคูปองที่จำหน่ายบนแพลทฟอร์มเจดีเซ็นทรัล นอกจากนี้ เรายังพร้อมเป็นกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์ เพื่อสนับสนุนโครงการระดมทุนหรือการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในยามฉุกเฉินต่อไปด้วย” 

นางสาวภารดี สินธวณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ลาซาด้าพร้อมร่วมสนับสนุนและร่วมส่งกำลังใจให้กับนักสู้ชุดขาว บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปฏิบัติงานแถวหน้าทุกทาน ผ่านการเปิดช่องทางการบริจาคออนไลน์เพื่อสนับสนุนองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในรูปแบบของ Digital Giving Platform  

เพื่อช่วยเหลือองค์กรสาธารณกุศลต่างๆและผู้ด้อยโอกาส โดยผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคได้ผ่าน LazadaForGood ให้ทุกใจได้ทำดี บนแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ เรายังตระหนักถึงผู้ยากไร้ในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ โดยมีการผนึกกำลังกับแบรนด์ ที่เข้าร่วมโครงการ LazadaForGood เพื่อนำยอดขาย     ส่วนหนึ่งสมทบทุนบริจาคเงินหรือร่วมบริจาคสินค้าอุปโภคบริโภค และเรายังมีโครงการ #LazHappyHeart ที่นำการติด ทุกแฮชเท็กมานับเป็นหนึ่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่เราจะนำไปบริจาคให้ผู้ยากไร้อีกด้วย” 

  

นางสาวสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ช้อปปี้มีพันธกิจหลักที่เรามุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย รวมถึงภาคส่วนสังคมในทุกๆสถานการณ์ เราจึงดำเนินโครงการต่างๆเพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจ       

สู้สถานการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน โดยผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคออนไลน์กับมูลนิธิรามาธิบดีฯ ใน “โครงการป้องกันและช่วยเหลือสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19” ของมูลนิธิฯ ได้โดยตรง ผ่านการซื้อคูปองบริจาคที่ร้านค้า Official Store ของมูลนิธิรามาธิบดีฯ บนแพลตฟอร์มช้อปปี้ นอกจากนี้ช้อปปี้ยังได้จัดแคมเปญ ShopeeForHeroes มอบคูปองแก่บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อใช้ในการจับจ่ายในแพลตฟอร์มของช้อปปี้ แทนคำขอบคุณในความเสียสละและการอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันเพื่อต่อสู้กับวิกฤตการณ์ในครั้งนี้” 

“การผสานความร่วมมือระหว่าง 4 ซูเปอร์แอปชั้นนำของประเทศ ในโครงการ “มูลนิธิรามาธิบดีฯ รวมพลัง Super App เพื่อนักสู้ชุดขาว” นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงบน “วัฒนธรรมแห่งการให้” ในสังคมไทย นี่คือความร่วมมือร่วมใจครั้งยิ่งใหญ่ของทุกภาคส่วน  

โดยประชาชนชาวไทยที่มีจิตศรัทธาทุกคนก็สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยในการฝ่าวิกฤตไวรัสร้าย รวมถึงร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคมได้ ด้วยการคลิก 

ร่วมบริจาคผ่านทั้ง 4 แอปพลิเคชันวันนี้ มูลนิธิรามาธิบดีฯ เชื่อว่า ทุกการให้ของทุกคนมีความสำคัญและสามารถแปรเปลี่ยนเป็นพลังการให้ที่ยิ่งใหญ่ได้ ดังปณิธานที่ว่า คำว่าให้...ไม่สิ้นสุด”  นางสาวพรรณสิรี กล่าวปิดท้าย 

สำหรับผู้ที่สนใจร่วมบริจาคสมทบทุนในโครงการ “มูลนิธิรามาธิบดีฯ รวมพลัง Super App เพื่อนักสู้ชุดขาว” สามารถบริจาคได้ผ่านแอปพลิเคชันของ แกร็บ ประเทศไทย (Grab Thailand), เจดี เซ็นทรัล (JD Central), ลาซาด้า (Lazada), และ ช้อปปี้ (Shopee) และช่องทางการบริจาคของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ผ่าน E-Banking ตามรายละเอียดดังนี้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook