Travelex บริการแลกเปลี่ยนเงินถูกสั่งออฟไลน์ระบบคอมพิวเตอร์หลังจากการโจมตีทางไซเบอร์

Travelex บริการแลกเปลี่ยนเงินถูกสั่งออฟไลน์ระบบคอมพิวเตอร์หลังจากการโจมตีทางไซเบอร์

Travelex บริการแลกเปลี่ยนเงินถูกสั่งออฟไลน์ระบบคอมพิวเตอร์หลังจากการโจมตีทางไซเบอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อังคารที่ 7 มกราคม Travelex ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและชำระเงินของอังกฤษที่ดำเนินกิจการใน 60 ประเทศสำหรับนักเดินทางรายใหญ่ของโลก ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทในสหรัฐว่าได้ตรวจพบซอฟต์แวร์ไวรัสในวันส่งท้ายปีเก่าและมีบริการบางส่วนถูกทำลาย

แถลงการณ์ใน travelex.com

เนื่องจากมาตรการปกป้องข้อมูลและป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส จึงมีคำสั่งให้บริษัทใช้ระบบคอมพิวเตอร์แบบออฟไลน์ (ไม่ให้เชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่าย) ในบางสาขา จึงต้องให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศด้วยกำลังคนแบบแมนนวลหลังจากการโจมตีทางไซเบอร์

บริษัทยังไม่สามารถบอกได้ชัดว่าข้อมูลส่วนบุคคลหรือลูกค้าคนใดเสียหายบ้าง ซึ่งขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีและด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์กำลังทำงานเพื่อเรียกคืนระบบที่ได้รับผลกระทบ และ Travelex ได้ประกาศขออภัยลูกค้าในความไม่สะดวกจากเหตุที่เกิดขึ้น

ส่วนในด้านของตำรวจนครบาลของลอนดอนกล่าวในแถลงการณ์ว่าพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม ทีมอาชญากรรมไซเบอร์ของตำรวจนครบาลได้รับรายงานการโจมตี Ransomware ที่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและกำลังสืบสวนข้อเท็จจริงอยู่

เว็บไซต์ของ Travelex ในอังกฤษโพสต์ข้อความว่าบริการของบริษัทไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราวเนื่องจากการบำรุงรักษาตามแผนที่กำหนด แต่ไม่ได้เปิดเผยถึงเรื่องที่บริษัทถูกโจมตีทางไซเบอร์หรือไม่

สำนักข่าว Skynews ได้นำเสนอข่าวว่ามีคนออกมาเคลมว่าเป็นพันธมิตรกับกลุ่มแฮกเกอร์ ซึ่งบอกนักข่าวว่าได้ขโมยข้อมูลไปจากเครือข่ายของ Travelex และหากไม่จ่ายค่าไถ่จะเผยแพร่ข้อมูลทางออนไลน์ แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ชัดเจนว่าข่าวนี้จริงหรือไม่

สำนักข่าว BBC ก็ได้กล่าวว่าวันส่งท้ายปีเก่าแฮกเกอร์ได้โจมตีบนเครือข่ายของ Travelex เป็นผลให้บริษัทประกาศลงเว็บไซต์ใน 30 ประเทศว่าตรวจพบไวรัสและต้องปิดระบบเพื่อปกป้องข้อมูล นอกจากนี้แฮกเกอร์ยังเรียกค่าไถ่เพื่อให้บริษัทแลกกับการเข้าถึงระบบของตนได้

ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่า Travelex ได้ถูกขโมยข้อมูลไปและมีการเรียกค่าไถ่จริงหรือไม่ ก็ขอเอาใจช่วยให้กู้ระบบกลับมาให้ได้ หากแฮกเกอร์สามารถเรียกค่าไถ่ได้ ต่อไปก็จะมีเหตุการณ์เช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ และขอเตือนไปยังบริษัททั้งหลายให้หาระบบป้องกัน หากคุณโดนแบบนี้อาจจะยิ้มไม่ออก เพราะผมเคยโดน Ransomware ล็อกไฟล์ในฮาร์ดดิสก์เกือบทั้งลูกมาแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook