ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เผยวิสัยทัศน์ทศวรรษแห่งนวัตกรรม ภายใต้ธีม "Age of Experience" ในงาน CES 2020

ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เผยวิสัยทัศน์ทศวรรษแห่งนวัตกรรม ภายใต้ธีม "Age of Experience" ในงาน CES 2020

ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เผยวิสัยทัศน์ทศวรรษแห่งนวัตกรรม  ภายใต้ธีม "Age of Experience" ในงาน CES 2020
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ซัมซุงนำเสนอสุดยอดนวัตกรรมล้ำสมัยในงาน CES 2020 ทั้งเทคโนโลยีและประสบการณ์ที่คำนึงถึงผู้ใช้ศูนย์กลาง ผ่านหุ่นยนต์เพื่อการดูแลส่วนบุคคล บ้านแห่งอนาคตด้วยพลัง AI และเมืองอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย IoT และ 5G

hs.kimceskeynote(1)

ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ประกาศการก้าวเข้าสู่ ‘Age of Experience’ ทศวรรษแห่งนวัตกรรมที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ซึ่งรวมเอาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคลที่มอบความสะดวกสบาย สนุกสนาน และมีความหมายมากกว่าที่เคย ณ งานคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ โชว์ ประจำปี 2563
(CES 2020) ณ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

"Age of Experience" คือยุคแห่งประสบการณ์ที่จะเข้ามาเปลี่ยนทุกวิธีการที่เราดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น วิธีการในการดูแลตนเองและครอบครัว วิธีการปรับแต่งบ้านเพื่อให้เข้ากับความต้องการของแต่ละบุคคล หรือแม้กระทั่งวิธีการสร้างเมืองอัจฉริยะที่มีความปลอดภัยและยั่งยืน ผ่านการนำเสนอความก้าวหน้าล่าสุดในด้านหุ่นยนต์อัจฉริยะ (Intelligent robotics) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยี 5G และ Edge Computing โดยในครั้งนี้ ซัมซุงได้จัดแสดงให้เห็นถึงภาพรวมของอนาคตอันใกล้ที่ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะมารวมตัวกันเพื่อมอบประสบการณ์ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

hs.kimceskeynote(3)

 “ในยุคแห่งอนาคต เราจำเป็นต้องพิจารณาถึงพื้นที่ที่เรามีอยู่ใหม่อีกครั้ง เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการที่หลากหลายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเรา” มร. คิม ฮยอน ซอก ประธานและหัวหน้าส่วนซัมซุง คอมซูมเมอร์อิเลคโทรนิคส์ กล่าว “สิ่งที่ทำให้แนวคิดของซัมซุงมีความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ คือการที่เรามีปรัชญาในการดำเนินงานที่แน่ชัดเพื่อสร้างนวัตกรรมที่มีผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง เราต้องการสร้างนวัตกรรมขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนให้ดียิ่งขึ้น”

 อีกขั้นของการดูแลเฉพาะบุคคล (The Next Level of Personal Care)

หัวใจหลักของวิสัยทัศน์ที่มีผู้ใช้เป็นศูนย์กลางของซัมซุง คือการดูแลเฉพาะบุคคล เพื่อสร้างสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี พร้อมตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน โดยภายในงาน ได้มีการแนะนำ บอลลี่ (Ballie)’ หุ่นยนต์รูปทรงกลมขนาดเล็กที่กลิ้งได้ ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่เปรียบเสมือนเพื่อน (life companion) ที่พร้อมเข้าใจ สนับสนุน และคอยช่วยเหลือผู้ใช้งานในการจัดการทุกอย่างภายในบ้าน จากความสามารถในการประมวลผล AI ผ่านเครื่องได้โดยตรง (On-Device AI)

 ซัมซุงเล็งเห็นว่าความสามารถในการประมวลผล AI ผ่านเครื่องได้โดยตรง (On-Device AI) เป็นศูนย์กลางในการมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่แท้จริง โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมข้อมูล พร้อมปกป้องความเป็นส่วนตัว ในขณะที่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล (Personalization)

 นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้จัดแสดงโซลูชันด้านสุขภาพเฉพาะบุคคลขั้นสูง จากการร่วมมือกับ Kaiser Permanente ในการพัฒนาโซลูชันเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจเสมือนจริงที่บ้าน ผ่านการจับคู่ซัมซุง สมาร์ทวอทช์ และสมาร์ทโฟนเข้าด้วยกันและเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ พร้อมให้แอปพลิเคชัน Heartwise ของซัมซุง คอยทำการแจ้งเตือนไปยังผู้ป่วยเพื่อให้ออกกำลังกาย ก่อนจะรวบรวมข้อมูลกิจกรรม อัตราการเต้นของหัวใจของผู้ป่วย และอัปโหลดผ่านสมาร์ทโฟนโดยอัตโนมัติไปยังแพทย์ผู้ดูแล เพื่อให้สามารถติดตามความคืบหน้าของผู้ป่วยและมีส่วนรวมกับพวกเขาได้ ซึ่งในอนาคตข้างหน้าซัมซุงจะยังคงพัฒนาโซลูชันการดูแลสุขภาพที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลางซึ่งตอบสนองความต้องการเฉพาะของบุคคลมากยิ่งขึ้น

hs.kimceskeynote(5)

 บ้านที่ออกแบบมาเพื่อคุณเท่านั้น (A Home Tailored to You)

ขอบเขตเชิงพื้นที่ของโลกทางกายภาพ (physical world) และโลกทางดิจิตอล (digital world) กำลังเลือนหายไป ซึ่งทำให้พื้นที่อยู่อาศัย กลายเป็นพื้นที่แห่งประสบการณ์ตามที่แต่ละคนต้องการ ซึ่งแนวคิดนี้เองที่จะมาพลิกโฉมบ้านในทศวรรษหน้า

 โดยครั้งนี้ ซัมซุงได้นำเสนอ เทคโนโลยี GEMS (Gait Enhancing & Motivating System) ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถสวมแว่นตา AR เพื่อออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็น การปีนเขา หรือเดินใต้น้ำ ร่วมกับเทรนเนอร์ส่วนตัวเสมือนจริง (virtual personal trainer) ได้จากในห้องนั่งเล่น พร้อมกับทำหน้าที่รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้คำแนะนำส่วนบุคคลภายหลังการออกกำลังกายอีกด้วย

ทั้งนี้ ซัมซุงยังได้เปลี่ยนมุมมองของ หน้าจอ ว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่ผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่เป็นหน้าต่างสู่โลกกว้างที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับคนที่รักและเพื่อนได้ทันทีราวกับอยู่ในห้องเดียวกัน จากการทำงานร่วมกันของจอแสดงผลไมโคร แอลอีดี ซอฟต์แวร์ AI IoT และฮาร์ดแวร์ จะทำให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับห้องอัจฉริยะที่มอบประสบการณ์อันไร้ขอบเขต ที่ซึ่งผู้คนสามารถมองเห็นและสัมผัสได้เกือบทุกอย่างในโลกและแม้แต่พบโลกที่ไม่รู้จักได้ผ่านทางหน้าจอ

ซัมซุงยังได้เผยถึงวิวัฒนาการของการทำอาหารสมัยใหม่ที่เครื่องใช้ไฟฟ้าจะกลายมาเป็นคู่หูในการปรุงอาหาร ทั้งการเป็น
พ่อครัวส่วนตัว นักโภชนาการ และผู้ช่วยในการช้อปปิ้ง โดยเทคโนโลยีและนวัตกรรมอัจฉริยะต่างๆ จะสามารถปรับแต่งประสบการณ์ด้านอาหารให้กับผู้บริโภคได้ทั้งหมด ผ่านคำแนะนำสูตรอาหารและการวางแผนอาหารที่ปรับให้เหมาะกับความชอบส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับสถานีปลูกพืชสวนที่บ้านรวมถึง Bot Chef ผู้ช่วยเตรียมอาหารหุ่นยนต์

ชีวิตที่ปลอดภัยและยั่งยืนในเมืองอัจฉริยะ (Safer and More Sustainable Urban Life in Smart Cities)

จากการขยายตัวของความเป็นเมืองที่ได้เกิดขึ้นทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง ซัมซุง จึงได้สรุปวิสัยทัศน์เมืองอัจฉริยะ
(Smart cities) ที่ซึ่งระบบอัจฉริยะจะถูกเปิดใช้งานผ่านสมาร์ทดีไวซ์ แพลตฟอร์ม ข้อมูล พร้อมผสานเข้ากับวิสัยทัศน์หลักของซัมซุง ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยมลพิษ และช่วยสร้างความยั่งยืนเมื่อประชากรมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

โดยเมืองที่ชาญฉลาดและอาคารอัจฉริยะที่ใช้ AI IoT และ 5G จะเปลี่ยนวิธีการที่คนเรามีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมโดยรอบ พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายและความสุขยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ผู้อยู่อาศัยในอาคารอัจฉริยะจะสามารถเรียกลิฟต์ ปิดไฟ จัดการการส่งของ หรือตรวจสอบจุดจอดรถ ด้วยเพียงปลายนิ้วหรือคำสั่งเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ติดตั้งในอาคารอัจฉริยะจะแจ้งให้ทราบหากต้องการการซ่อมแซมและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนที่ผู้อยู่อาศัยจะสังเกตเห็น

 ทั้งนี้ เพื่อเป้าหมายในการสร้างเมืองอัจฉริยะ ซัมซุง จึงให้ความสำคัญในการทำงานร่วมกัน ผ่านการสร้างพันธมิตรกับผู้สร้างและผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ เช่น Greystar Real Estate Partners ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลกในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะทำการคิดค้นโซลูชันอาคารอัจฉริยะ นอกจากนี้ ซัมซุงยังแสดงให้เห็นว่าการรวมกันของ 5G Edge computing และ AI จะเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางในเมือง โดยยุคใหม่ของยานพาหนะที่ใช้เทคโนโลยี 5G จะทำให้การสื่อสารระหว่างยานพาหนะกับทุกสิ่งรอบตัวเป็นไปได้อย่างราบรื่น

ces-2020_ballie-01_re-thum

 สร้างสถานที่ที่ดีกว่าสำหรับทุกคน (Building A Better Place for All)

ซัมซุงให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างสถานที่ที่ดีกว่าสำหรับทุกคน โดยสามเรื่องหลักที่มีความสำคัญต่อก้าวต่อไปของบริษัท คือ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว (security and privacy) เทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดี (technology for good) และความเป็นพลเมือง (citizenship)

 ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรม ซัมซุงมีความมุ่งมั่นที่จะให้การปกป้องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยซัมซุงยืนยันว่าจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้งานกับบุคคลที่สามโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง ซึ่ง Samsung Knox เป็นแพลตฟอร์มความปลอดภัยระดับสูงของซัมซุง ที่จะปกป้องตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ ทีวี รวมถึงเครื่องใช้ในบ้านและอื่น ๆ โดยซัมซุงมุ่งมั่นที่จะทำให้การจัดการและถ่ายโอนข้อมูลมีความโปร่งใสยิ่งขึ้นด้วยการพัฒนาด้านการปกป้องข้อมูลด้วยอุปกรณ์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) Edge computing และเทคโนโลยีบล็อคเชน

 นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้แสดงให้เห็นถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดี (technology for good) จากการนำเสนอ Relúmĭno ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้พิการทางสายตาได้มองเห็น IGNIS เครื่องมือที่ช่วยให้นักผจญเพลิงทำงานของพวกเขาได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น และ GEMS ที่ช่วยให้ผู้สูงอายุและผู้พิการเคลื่อนไหวได้

ซัมซุงยังตอกย้ำวิสัยทัศน์หลักด้านความรับผิดชอบต่อสังคม “Together for Tomorrow! Enabling People” โดยการประกาศขยายโครงการ Samsung Innovation Campus ในปี 2563 เพื่อสานต่อหลากหลายความสำเร็จของโปรแกรมการศึกษาจากทศวรรษที่ผ่านมา โดย Samsung Innovation Campus จะให้การฝึกอบรมเกี่ยวกับ AI, IoT และเทคโนโลยีคลาวด์รุ่นล่าสุด

โดยที่ผ่านมา ซัมซุงได้ให้ความรู้แก่นักเรียนนักศึกษามากกว่า 20,000 คนจาก 13 ประเทศนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2562 และวางแผนจะเพิ่มจำนวนเป็นสองเท่าในปีนี้ ซึ่งด้วยการให้การศึกษาแก่คนรุ่นหลัง ซัมซุงกำลังส่งเสริมปรัชญาที่ว่าเป้าหมายของเทคโนโลยีคือการแก้ปัญหาสังคมและให้อำนาจผู้คนในการสร้างโลกที่ดีกว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook