ทดสอบ "Garmin VENU" รุ่นใหม่กับการใช้งานนานต่อเนื่องถึง 5 วัน ดูดีได้ง่ายๆ โดยไม่กินแบต
กลับมาพบกับรีวิว Gadget และ Smart Phone อีกครั้ง สำหรับในรอบนี้ทีม sanook hitech ได้รับอุปกรณ์สวมใส่รุ่นใหม่ที่พูดเลยว่าหน้าจอสวยมากอย่าง Garmin Venu รุ่นใหม่ล่าสุดกับการเปลี่ยนแปลงมาใช้หน้าจอ AMOLED ครั้งแรกในราคา 14,500 บาท มาดูกันว่ามันจะมีความน่าใช้แค่ไหน และคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
- ตัวเรือนของ Garmin Venu
- สติ๊กเกอร์ติดเล่นตามใจคุณ
- สายชาร์จ
- คู่มือ / ใบรับประกัน
ดีไซน์รอบตัวเรือนของ Garmin Venu
เริ่มที่เรือนแรกกับ Garmin Venu กับสีสันหน้าจอที่โดดเด่น โดยมีขนาดตัวเรือน และ สายที่เล็กลง Garmin Venu มาพร้อมกับขนาดตัวเรือนเพียง 43 มม. หน้าปัด 1.2 นิ้ว และ สายขนาด 20 มม. ใช้หน้าจอรูปแบบ AMOLED ทำให้การแสดงผลดูสวยงามเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับ Garmin ในรุ่นที่ผ่านมา
สำหรับคนชอบหน้าจอคมชัด และ สีสันจัดจ้าน มีขนาดตัวเรือนกระทัดรัดเหมาะกับคุณผู้หญิง หรือ คนที่ข้อมือเล็ก จึงทำให้เลือกใส่ได้อย่างลงตัวและมีสไตล์
ตัวเครื่องด้านหน้าส่วนของหน้าจอ
ตัวเครื่องด้านหลัง ส่วนด้านหลังจะมีตัววัดชีพจร และช่องเสียบสายชาร์จ ซึ่งตัวสายเป็นแบบ Quick Release
ด้านขวาของตัวเรือนจะพบกับ 2 ปุ่ม โดยปุ่มบนจะเป็นปุ่มสำหรับเข้าโหมดออกกำลังกาย และถ้ากดค้างจะสามารถสั่งเปิด / ปิด เครื่องได้ ส่วนปุ่มล่างจะเป็นปุ่ม ย้อนกลับ และกดค้างจะเข้าหน้าตั้งค่าของเครื่อง
สายทั้งสองข้างของสามารถถอดเปลี่ยนได้ผ่านเดือยสีเงิน ขนาดของสายเป็นแบบ 20 มิลลิเมตร โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี
ส่วนของหน้าปัดนาฬิกาเล่นได้ไม่อยากสามรถปัด ซ้าย-ขวา, บน-ล่าง เพราะรุ่นนี้รองรับ Touch Screen เหมือนกับ vivoActive 3 และ 4
ฟีเจอร์ที่สำคัญในนาฬิกา Garmin Venu
ต่อกันที่ฟีเจอร์หลักๆ และการใช้งานทั่วไปของ Garmin VENU ยังคงเน้นเรื่องของการออกกำลังกายและดูข้อมูลสุขภาพอย่างเหนียวแน่น มีรายละเอียดดังนี้
โหมดการออกกำลังายทั้งหมด 13 รูปแบบ สามารถบอกพิกัด (GPS) ได้ และมีโปรแกรมเทรนเนอร์ส่วนตัวแสดงผลเป็นภาพและกราฟิกได้อย่างสวยงาม
สถิติของสุขภาพคุณไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงาน, ลุกนั่ง, ความเครียด, การเต้นของหัวใจ และก้าวเดิม รวมถึงเป้าหมายในการเคลื่อนไหวครบหรือไม่
สามารถบอกข้อมูลการเต้นของหัวใจและรวมถึง ช่วงที่เรามีการใช้เคลื่อนไหวร่างกายได้
การแสดงการแจ้งเตือนของมือถือ โทรเข้า-รับสาย และ พยากรณ์อากาศได้ ซึ่งข้อความและเบอร์โทรสามารถแสดงผลภาษาไทยได้
คุณสามารถฟังเพลงผ่านแอปฯ Spotify, Amazon Music, Deezer และ iHeartRadio รวมถึงในตัวเครื่องมีความจำ 4GB สามารถโหลดเพลงใส่ในเครื่องได้
ต่อกันที่ฟังก์ชั่น "การติดตามรอบประจำเดือน" ก็เป็นฟังก์ชั่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ตัวนี้ถือว่าเด็ด และยังรองรับ Garmin Pay เชื่อมต่อการกับบัตรเครดิตช่วยทำให้จ่ายเงินผ่านนาฬิกาด้วยการแตะ NFC ได้ทันที
ทางด้านการเชื่อมต่อกับ Application ยังคงทำได้กับ Garmin Connect เหมือนเดิม สามารถตั้งค่าทั้งเรื่องของการเชื่อมต่อกับเพลง, ผลการออกกำลังกาย, Join กับเพื่อน รวมถึงแชร์การออกกำลังกายของคุณลง Social Network และตั้งค่า นาฬิกาเรือนโปรดของคุณได้
และแบตเตอรี่ของ Garmin Venu สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 5 วันได้อย่างสบายและเสียบชาร์จไฟได้อย่างวรวดเร็ว
สรุปหลังจากทีม sanook hitech ได้ทดลองใช้งาน Garmin Veun สักระยะเวลาหนึ่ง
ภาพเดิมของ Garmin ที่จำความเกี่ยวกับ Smart Watch จะต้องดูแข็งแรง ออกกำลังกายดี เซนเซอร์แม่นยำ แต่หน้าจอนั้นค่อนข้างไม่สวยและดูด้อยกว่ายี่ห้ออื่น แต่สำหรับ Garmin Venu นั้นพลิกความคาดหมายทั้งหมดเพราะเมื่อ Garmin ใช้หน้าจอ AMOLED ที่แม้ว่าจะกินไฟเยอะขึ้น ทำให้ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 5 วันเท่านั้น แต่ภาพรวมของนาฬกาเครื่องนี้เป็น ที่น่าใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างดี เพียงแต่ว่าราคาของเครื่องอยู่ที่ 14,500 บาท เท่านั้น หากใครสนใจสามารถซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย GIS หรือ Garmin ได้ทั่วประเทศ