5 ปัจจัยที่ส่งผลกับแบตเตอรี่มือถือหมดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
มือถือเป็นอีกเรื่องที่หลายคนใช้งานในชีวิตประจำวันบางคนตั้งเป้าว่าจะให้มือถือสามารถใช้ได้ตลอดทั้งวัน แต่บางครั้งกลับหมดเร็วแบบไม่คาดคิด ทีม Sanook! Hitech ได้พบปัจจัยว่า ทำไมถึงแบตฯ มือถือถึงหมดเร็ว
เปิดแจ้งเตือน (Notification) ตลอดเวลา
สิ่งแรกที่ทำให้กินไฟจากแบตเตอรี่คือ เรื่องของการแจ้งเตือนผ่าน Application รวมไปถึงการแจ้งเตือนของเครื่องด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากเราสามารถปิดไม่ให้การแจ้งเตือน หรือ เปิดเฉพาะบางโปรแกรมที่จำเป็นก็จะช่วยประหยัดไฟมากกว่า
เปิดความสว่างหน้าจอเต็มตลอด
ความสว่างของหน้าจอเป็นส่วนหลักที่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วมากขึ้น วิธีการแก้ไขนั้นมี 2 วิธีด้วยกันคือ
- เปิดระบบปรับระดับแสงอัตโนมัติ เพื่อให้เครื่องจัดการแสงสว่างของหน้าจอเอง
- เลือกความสว่างของหน้าจอเองตามความเหมาะสม แม้ว่าจะช่วยประหยัดไฟได้เยอะกว่าแต่ว่าเราปรับตลอดเวลาทำให้บางครั้งอาจจะลืมปรับก็เป็นได้
ไฟแจ้งเตือนทำงานตลอดเวลา
ไฟแจ้งเตือน ที่เป็นไฟสีเขียวด้านบนตัวเครื่องแม้ว่าจะเป็นดวงเล็กๆ หลายคนบอกว่าไม่กินไฟเท่าไหร่ แต่ความจริงแล้วถ้าเกิดเราไม่ได้ปิดหรือสนใจปิดการแจ้งเตือน ก็อาจจะส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วได้
ฉะนั้นการแจ้งเตือนต่างๆ เราควรปิดการแจ้งเตือนให้ไฟดับจะดีกว่า
ปรับให้เครื่องทำงานประสิทธิภาพสูงตลอดเวลา
มือถือรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะ Android มีเรื่องของการปรับประสิทธิภาพให้สูงขึ้น จึงทำให้หลายคนเลือกที่จะปรับเพื่อความรวดเร็ว หากไปเลือกตลอดเวลาอาจจะทำให้เครื่องนั้นร้อนและแบตเตอรี่หมดเร็วได้
ดังนั้นเราควรเลือกให้เฉพาะ Game เท่านั้นที่จะเรียกประสิทธิภาพให้สูงขึ้นชั่วคราวจะดีกว่า
มี Application ที่ทำงานในเครื่องตลอดเวลา
สุดท้ายแล้วมือถือบางรุ่นอาจจะมี Application ที่เปิดใช้งานตลอดเวลา โดยผู้ใช้อาจจะไม่รู้เรื่องมาก่อน ก็ทำให้เกิดปัญหาคือ มันจะเรียกให้เครื่องทำงานตลอดเวลา จึงส่งผลให้แบตเตอรี่หมดลงได้ง่ายมากขึ้นเช่นเดียวกัน
แต่วิธีนี้เราสามารถสั่งปิดได้ หากเป็น Android เข้าไปที่ Setting > Apps > เลือก Apps ที่เปิดอยู่ตลอด > เลือกปุ่มหยุดการทำงานชั่วคราว (Force Stop)
สุดท้ายแล้วหากทำวิธีเหล่านี้ แต่แบตเตอรี่ก็ยังคงหมดเร็วอยู่ให้สันนิฐานไว้ก่อนว่า แบตเตอรี่อาจจะเสื่อมแล้วก็เป็นได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นลองเช็คให้ดี รวมถึงพฤติกรรมในการใช้งานมือถือด้วยครับ