ASUS ประเทศไทยได้เปิดตัวมือถืออีก 2 รุ่นได้แก่ Zenfone Max Pro (M1) และ Zenfone 5Z เรียกได้ว่ามาต่อยอดกระแสของ ASUS Zenfone 5 และ Zenfone 5Q ที่กลับมาแบบเต็มปากเต็มคำเลยทีเดียว ทีม Sanook! Hitech ไม่พลาดที่จะลองของกับมือถือรุ่นนี้สักหน่อย มันจะมีดีอะไรและน่าใช้แค่ไหน มาชม Hands On 2 มือถือที่ว่านั้นเลยดีกว่า
แรกเห็นรูปร่างของ ASUS Zenfone Max Pro (M1) ได้มีการใช้ Theme ออกแบบเหมือนกับ ASUS Zenfone Max Plus แต่ได้หน้าจอใหญ่กว่าที่ขนาด 5.99 นิ้วอัตราส่วน 18:9 ความละเอียดแบบ Full HD+ เน้นเรื่องของความละเอียดและให้ความสว่างของภาพที่ดี พร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล + LED Flash
ด้านข้างและโดยรอบใช้เฟรมเครื่องเป็นโลหะ สังเกตได้จาการถูกสัมผัสอากาศที่เมื่อโดนแล้วจะเย็นมาก มีทั้งช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Tri Slot ประกอบไปด้วย Nano SIM 2 ช่องและ Micro SD 1 ช่องแบบไม่แยกกัน, ช่องเสียบหูฟังยังอยู่ด้านบน และที่ชาร์จยังคงเป็น Micro USB เช่นเคย พร้อมกับลำโพง 1 ลูก
ด้านหลังของเครื่องออกแบบหรูหรา มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือที่อยู่กลางเครื่องและมีกลองหลังคู่ขนาด 16 ล้านพิกเซลพร้อมกับ LED Flash จัดวางไว้ทางซ้ายบนเช่นเคย ทำให้ภาพรวมของเครื่องที่เห็นแรกๆ นั้นสวยและน่าสัมผัสมาก และมีให้เลือก 2 สีคือ Deepsea Blue และสีเงิน
ครั้งนี้มีการเลือกใช้ CPU จาก Qualcomm Snapdragon 636 ที่แรงขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 40% พร้อมกับ GPU Adreno 509 ถือว่าสเปคใหม่ล่าสุด รวมกับ RAM มีให้เลือกตั้งแต่ 3, 4 และ 6 GB และความจำในตัว 32 – 64GB ถ้านั่นธรรมดาแล้ว แบตเตอรี่ที่ติดเครื่องสมกับความอึดด้วยการเพิ่มเป็น 5000 mAh ถือว่ามากพอสมควรเลยครับ และมี Flash Charge แม้ไม่ได้ออกมาเร็ว แต่ก็ถือว่าดีกว่าไม่ให้มา และยังใจดีปล่อยไฟให้มอืถือตัวอื่น และยังผ่านมาตรฐานความปลอดภัย 12 รายการและมาตรฐาน JEITA จากญี่ปุ่น
ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจจากที่ได้จับสั้น ๆ ก็มีดังนี้
ก็เป็นมือถืออีกรุ่นที่พูดเลยว่าถ้าใครต้องการมือถือที่ภาพคมชัด แบตเตอรี่ที่ทนทานและราคาไม่แพงเกินไป นี่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะว่าเชื่ออยู่ว่าหลายคนเห็นสเปค จะต้องนำไปเปรียบกับคู่แข่งและคู่กัดตลอดกาลอย่าง Xiaomi Redmi Note 5 นั่นเอง แต่ผมพูดได้คำเดียวว่า Zenfone Max Pro ถ้าต้องนำมาเล่นเกมแล้ว มันจะให้ความรู้สึกเบากว่าพอสมควร ทั้ง ๆ ที่บอดี้ใช้โลหะเป็นส่วนประกอบ
ส่วนราคาของ ASUS Zenfone Max Pro (M1) นั้นมีดังนี้
คาดว่าจะเปิดจำหน่ายทาง Shopee เป็นที่แรกก่อนที่จะวางจำหน่ายในช่องทางอื่นๆ ต่อไป และมีการให้ลองใช้ฟรี 14 วันฟรี ไม่ชอบคืนได้ทันที และได้รับ Point จาก Shopee อีก 500 บาทด้วยเช่นกัน แถม Jacket เกม Freefire ใครอยากได้มือถือรุ่นนี้คงต้องจับตาดูโปรโมชั่นในช่องทางดังกล่าวกันต่อไปครับ แต่ถ้าลองมารีวิวจริงเป็นอย่างไรนั้นคงต้องติดตามเร็วๆ นี้นะครับ
และยังไม่จบครับ เพราะยังมีอีกรุ่นที่ ASUS นำเข้ามา ซึ่งทีมก็เซอร์ไพรส์เหมือนกัน นั่นคือ ASUS Zenfone 5Z นั่นเอง ที่หน้าตาและสเปคทุกสิ่งแทบจะเหมือนกับ ASUS Zenfone 5 ทุกประการ แต่สิ่งที่แตกต่างและชัดเจนคือ สเปคเครื่องใช้ Qualcomm Snapdragon 845, RAM 6 - 8GB, ROM 128 - 256GB พร้อมกับเทคโนโลยี AI Boost ทำให้ตัวเครื่องมีประสิทธิภาพที่ดี ทำให้เครื่องมีคะแนนสูงเป็นอันดับ 2 จาก Antutu นั่นเอง แถมมีการเพิ่มลูกเล่น Zenmoji ขยับ Emoji เหมือนกับมือถืออย่าง Samsung หรือ Apple ได้
ราคานั้น ASUS Zenfone 5Z เปิดราคาอยู่ที่ 19,990 บาท (RAM 8GB ROM 256GB) และ 15,990 บาท (RAM 6GB ROM 128GB) พร้อมเปิดจองทาง Shopee 3 กรกฏาคม นี้ ส่วนใครรอ ROG Phone คงต้องรอกันต่อไปว่า ASUS จะนำเข้ามาจำหน่ายในรูปแบบไหน
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ