สรุป iOS 12 มีอะไรใหม่หลังเปิดตัวในงาน WWDC 2018

สรุป iOS 12 มีอะไรใหม่หลังเปิดตัวในงาน WWDC 2018

สรุป iOS 12 มีอะไรใหม่หลังเปิดตัวในงาน WWDC 2018
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในงาน WWDC 2018 วันที่ 4 มิถุนายน 2561 Apple ได้เปิดตัว iOS 12 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย เรามาชมกันว่ามีอะไรใหม่ใน iOS 12 บ้าง

 เพิ่มความรวดเร็วและปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้น

ปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้น สำหรับทุกอุปกรณ์ ถึงแม้จะเป็นอุปกรณ์รุ่นเก่า โดยปรับความเร็วในการทำงานของแอปเร็วขึ้น 40%, การตอบสนองของคีย์บอร์ดเร็วขึ้น 50% และเปิดกล้องเร็วกว่าเดิมถึง 70%

1

AR Platform ที่ใหญ่ที่สุด

ARKit 2 มาพร้อมกับรูปแบบไฟล์ใหม่ที่ชื่อว่า USDZ โดยบริษัทที่รองรับไฟล์นี้ประกอบด้วย Adobe, Autodesk, Sketchfab, ptc, Quixe

2

3

ใช้ AR เป็นเครื่องมือในการวัดที่ทำได้แม่นยำมากขึ้น

4

5

ปรับปรุงการตรวจจับใบหน้า, การเรนเดอร์ให้เหมือนจริง, การตรวจสอบวัตถุ 3D

6

7

8

9

แอปรูปภาพที่ฉลาดมากขึ้น

เพิ่มฟีเจอร์การแนะนำการแชร์รูปถ่ายให้กับเพื่อน แนะนำการค้นหาตามกิจกรรม สถานที่ กลุ่ม หมวดหมู่ และการค้นหาล่าสุดที่เกี่ยวข้อง สามารถค้นหาได้ง่ายขึ้น ด้วยคำค้นหาหลายๆ คำ

10

มีแท็บ For You ที่แสดงรูปภาพตามช่วงเวลา รวมภาพความทรงจำและอัลบั้มที่แชร์ใน iCloud ไว้ในที่เดียวกัน

11

สามารถทำงานร่วมกับ HomeKit ได้ดียิ่งขึ้น

12

Siri ปรับปรุงประสิทธิภาพใหม่ เพิ่มฟีเจอร์ Siri Shortcut

แนะนำกิจกรรมจากการเรียนรู้การใช้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้ได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น เช่น กิจกรรมที่ผู้ใช้ทำบ่อยๆ หรือทำอยู่เป็นประจำ Siri ก็จะแนะนำมาให้ เช่น การแนะนำให้ดื่มกาแฟตอนเช้า , การออกกำลังกายตอนเย็น ซึ่งผู้ใช้สามารถสร้าง Shortcut สำหรับสั่งการ Siri ได้รวดเร็วมากขึ้น

13

14

ปรับปรุงแอป News, Stock , Voice Memo, Books ใหม่

แอป News ของ Apple เป็นแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ (ในต่างประเทศ) ปรับหน้าตาการฟีดข่าวใหม่

15

แอปหุ้น (Stock) มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาแบบใหม่ที่มอบประโยชน์ให้กับเหล่านักเล่นหุ้น ที่มีทั้งรายงานหุ้นและข่าวที่เกี่ยวข้องกับหุ้นทั้งสิ้น

16

แอป Voice Memo ปรับเปลี่ยนหน้าตาการทำงานรูปแบบใหม่ และเปิดใช้งานใน iPad ได้ (จากเดิมไม่มี)

17

แอป Books เปลี่ยนชื่อเป็น Apple Books มาพร้อมกับการออกแบบใหม่ พร้อมกับฟีเจอร์ Reading Now ที่แสดงหนังสือที่น่าสนใจและหนังสือติดอันดับ

18

ปรับปรุง Apple Car Play ให้รองรับ Google Map

Apple Car Play รองรับ Waze และ Google Map สามารถนำทางและแสดงแผนที่บนหน้าจอรถยนต์ที่มี Apple Car Play ได้

19

โหมด Do not disturb during bedtime

จะช่วยให้คุณหลับสบายขึ้น ด้วยการลดแสงหน้าจอลงและซ่อนการแจ้งเตือนบนหน้าจอล็อคทั้งหมด เพื่อไม่ให้รบกวนในขณะที่เรานอนหลับ เมื่อถึงเวลาตื่น ก็จะมีการปลุกด้วยข้อความสวัสดีตอนเช้า

20

21

22

และยังสามารถตั้งค่าให้บางแอปแสดงการแจ้งเตือนบนหน้าจอล็อคได้

23

จัดกลุ่มการแจ้งเตือน

หน้าจอการแจ้งเตือน มีการจัดกลุ่มการแจ้งเตือนตามแอป ที่ดูเป็นระเบียบมากขึ้น สำหรับใครที่มีการแจ้งเตือนเข้ามาเยอะๆ ก็สามารถเลือกจัดการหรือเลือกดูการแจ้งเตือนได้ง่ายและเป็นระเบียบมากขึ้น

24

Screen Time ควบคุมการใช้งานแอป

แอป Limits สำหรับตั้งเวลาจำกัดในการใช้งานแอปแต่ละแอป สามารถตรวจสอบได้ว่าเราใช้เวลากับแอปไหนมากที่สุด เพื่อให้เราสามารถจัดการหรือ Balance เวลาได้ดียิ่งขึ้น

25

26

สำหรับผู้ปกครองสามารถควบคุมการใช้งานแอปของเด็กๆ หรือลูกๆ ได้ โดยควบคุมและจัดการจากอุปกรณ์ของผู้ปกครองเอง

27

28

Animoji และ Memoji ใหม่

Animoji ที่สามารถจับการเคลื่อนไหวของลิ้นและการขยิบตาได้ มี Anmoji ใหม่ ประกอบด้วย ผี เสือ หมีโคอาล่า ทีเร็ก

29

30

Memoji สามารถตัวละครเคลื่อนไหวแทนตัวผู้ใช้ ตรวจจับใบหน้าได้แบบ Real-Time ที่สามารถเลือกปรับแต่งคาแร็กเตอร์ได้เอง ไม่ว่าจะเป็น ทรงผม สีผม การปรับเงาแว่น สามารถปรับแต่งได้ละเอียดมาก

31

32

33

และที่น่าสนใจคือ สามารถถ่ายรูป Memoji พร้อมกับตกแต่งและส่งให้เพื่อนทางข้อความได้เลย

34

Face Time แบบกลุ่ม (Group FaceTime )

Face Time พร้อมกันได้ถึง 32 คน โดยการสร้างกลุ่มในแอปข้อความ และ Face Time กันในรูปแบบ Memoji ที่เป็นของตัวเองได้อีกด้วย รวมทั้งใส่เอฟเฟ็คต่างๆ ให้การพูดคุยสนุกมากยิ่งขึ้น สามารถใช้งานได้ทั้ง iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch

35

36

37

สรุปการเปิดตัว iOS 12 จะเน้นในเรื่องของการปรับปรุงประสิทธิภาพเป็นหลัก ปรับปรุง Siri suggestions ที่ฉลาดขึ้น เพิ่มฟีเจอร์ Memoji, Screen Time และการปรับปรุงแอปที่เคยมีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น

อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 12

iPhone

  • iPhone X
  • iPhone 8, iPhone 8 Plus
  • iPhone 7, iPhone 7 Plus
  • iPhone 6s, iPhone 6s Plus
  • iPhone 6, iPhone 6 Plus
  • iPhone SE
  • iPhone 5s

iPad

  • iPad Pro 12.9 นิ้ว
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว
  • iPad Pro 9.7 นิ้ว
  • iPad Air 2, iPad Air
  • iPad mini 4, iPad mini 3, iPad mini 2
  • iPad 9.7 นิ้ว (5th generation Model)
  • iPad 9.7 นิ้ว (6th generation Model)

iPod touch

  • iPod touch (6th generation)

และนี่ก็คือทั้งหมดของฟีเจอร์ใหม่ที่มาใน iOS 12 ที่ทีมงานอัปเดตสดๆ ร้อนๆ จากงาน WWDC18 สำหรับ iOS 12 อาจจะปล่อยเวอร์ชันเบต้าให้กับนักพัฒนาหลังจบงาน ส่วนเวอร์ชันบุคคลทั่วไปจะปล่อยให้อัปเดตเมื่อไหร่นั้น รอติดตามจากเพจ iPhonemod.net กันต่อไปนะคะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook