[Hands On] "OPPO R15 Pro" อย่างเป็นทางการครั้งแรกในเมืองไทย ก่อนขายจริง 2 มิ.ย.นี้
นอกจากตระกูล OPPO F ที่ขึ้นชื่อเรื่องกล้องถ่ายภาพแล้ว ในตระกูล R ก็เคยเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยและก็หายไปพักใหญ่ จนล่าสุดนี้ OPPO Thai กลับมาขายอีกครั้ง และรุ่นนั้นคือ OPPO R15 Pro และแน่นอนว่าหากมีของใหม่ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พวกเราทีมงาน Sanook! Hitech ก็พร้อมที่จะพาไปสัมผัสกันว่ามันดีหรือไม่และน่าใช้แค่ไหนแบบสั้นๆ หลังลองแค่ 30 นาที เท่านั้น
ส่วนใครที่อยากอ่านรีวิวแบบเจาะลึกทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน อดใจรอกันได้ในบทความฉบับหน้ากับการ Review OPPO R15 Pro แกะกล่องอย่างเป็นทางการ
สเปคเครื่องเป็นอย่างไร OPPO R15 Pro มีการเปลี่ยนให้สเปคครั้งใหญ่ของ OPPO ในปีนี้ที่มีจุดเด่นได้ทั้ง
- OPPO R15 Proมาพร้อมจอแสดงผลแบบ OLED Super View Screen Display ขนาด 6.28 นิ้ว, อัตราส่วนแบบ 19:9
- กระจกหน้าเป็นแบบ 3D Corning Gorilla Glass 5
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-Bit CPU Qualcomm Snapdragon 660 AIE Octa-core 2.2 GHz
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB
- ความจำภายในตัว 128GB และสามารถเพิ่มความจำในตัวได้ Micro SD 256GB
- รองรับ WiFi 802.11 b/g/n/ac Dual Band, Bluetooth V4.2
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 พร้อมกับ Color OS 5.0
- กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 16+20 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.7
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 20 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 พร้อมฟังก์ชัน A.I. Beauty Recognition Technology Version 2.0
- สามารถรปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้าและ Fingerprint Sensor จากด้านหลัง
- ขนาด 155.3x75.0x7.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 175 กรัม
- รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (VOOC Flash Charge) นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ OPPO
- แบตเตอรี่ขนาด 3430 mAh
- มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก (แดง-Ruby Red และม่วง Cosmic Purple)
รูปลักษณ์และการดีไซน์ของตัวเครื่องภายนอก
สะดุดตาด้วยหน้าจอขนาด 6.28 นิ้วความละเอียดสูงถึง 2280x1080 อัตราส่วนของหน้าจอ 19:9 เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มเล่นเกมกันสนุกมากขึ้นและมีกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมกับด้านข้างของเครื่องที่เป็นสีเดียวและไล่มาจากด้านหลังทำให้สีของเครื่องนั้นดูอิ่มและสวยงาม
OPPO R15 Pro ถูกผลิตขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Double-Sided Glass Unibody ด้วยกรอบโลหะอะลูมิเนียมผสานกระจก Gorilla Glass 5 ที่ด้านหน้า และด้านหลังของตัวเครื่องทำให้เวลาสัมผัสตัวเครื่องจะรู้สึกได้ถึงความสบายและกระชับมือเรียบสนิทไร้รอยต่อ
ส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 20 ล้านพิกเซล พร้อมฟังก์ชัน A.I. Beauty Recognition Technology ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0, ส่วนของลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา และระบบ Proximity Sensor
ต่อมาเป็นส่วนของด้านล่างหน้าจอเป็นส่วนของปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านหลังของเครื่องมีจุดเด่นเรื่องของสีที่ออกแบบได้กำลังดี ไล่เฉดสีที่น่าสนใจไม่น้อย พร้อมกับกล้องหลังคู่และมีสีสันของเครื่องที่มีให้เลือกทั้ง Cosmic Purple และ Ruby Red ให้เลือกและดูแตกต่าง
ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของกล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 16+20 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.7 พร้อมไฟแฟลชในตัว (LED Flash), เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และถัดลงมาเป็นอักษรตัว OPPO
ตัวเครื่องด้านขวาปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอและถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดที่สามารถใส่ได้ทั้งซิมการ์ดและการ์ดหน่วยความจำภายนอก
ตัวเครื่องด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง
ด้านบนของตัวเครื่องมีเพียงรูไมโครโฟนจับเสียงเท่านั้น
ตัวเครื่องด้านล่างมีช่องของลำโพงภายนอก, ถัดมาเป็นช่องของเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และโอนถ่ายข้อมูล, ไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลัง
ยังคงเป็นที่ 1 เรื่องกล้องเซลฟี่
นอกจากนี้กล้องหลังคู่บน OPPO R15 Pro ยังมาพร้อมเทคโนโลยีผู้ช่วยอัจฉริยะ AI-enhanced camera ที่ทำให้การถ่ายรูปต่างๆ ให้สวยสมจริงกลายเป็นเรื่องง่าย ด้วยฟีเจอร์มากมาย เช่น 3D Portrait Lighting ช่วยปรับแต่งแสงบนภาพถ่ายต่างๆ แบบ 3D อย่างชาญฉลาด , AI Portrait Mode ปรับแต่งแสงและความคมชัดบนภาพถ่ายบุคคลให้รูปดูสวยงาม
กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล f/2.0 พร้อมกับเทคโนโลยี A.I. Beauty Recognition Technology 2.0 รุ่นใหม่ที่มีการปรับให้หน้าเนียนสวยมากขึ้น แต่ถ้าไม่ชอบ สามารถปรับเองได้ถึง 6 ระดับและใส่ AI Sticker ได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ OPPO R15 Pro
กล้องดิจิทัลแแบบคู่ (Dual-Camera) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 16+20 ล้านพิกเซล f/1.7 (เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX519) ที่มีลูกเล่นเด่นคือ AI Scene Mode ปรับเปลี่ยนการแสดงผลของภาพเองอัตโนมัติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ OPPO R15 Pro
สรุปสั้นๆ หลังได้ลอง OPPO R15 Pro
OPPO R15 Pro มีจุดเด่นต่างๆ มากมายเรียกได้ว่าครบเครื่องไม่ว่าจะเป็นกล้องหลังที่กลับมาเน้นอีกครั้งหนึ่ง ด้วยกล้องความละเอียด 20 + 16 ล้านพิกเซลพร้อมกับ PDAF และ LED Flash มีเทคโนโลยีปรับสีโทนภาพทั้ง AI Scene Mode ปรับการถ่ายภาพอัตโนมัติ นอกจากนี้ ในเรื่องการถ่าย Portrait ด้านหลังยังออกแบบเป็นรุ่น 3D Portrait Mode ด้วยเช่นกัน และรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ที่น่าสนใจไม่น้อย
จากที่ได้ลองกล้องหน้าของ OPPO R15 Pro มีความละเอียด 20 ล้านพิกเซลพร้อมกับ AI Beauty 2.0 รุ่นล่าสุด เช่นเคย เรียกได้ว่ากล้องหน้าก็ดีกล้องหลังก็เยี่ยม และการพัฒนาของ Color OS 5 ที่คล้ายกับ OPPO F7 แต่ได้สเปคที่แรงกว่าทำให้การทำงานลื่นไหลมากขึ้นเล่นเกมได้สบายมากกว่าเดิม พร้อมกับ ระบบชาร์จไฟเร็ว VOOC Flash Charge ที่สามารถชาร์จไฟได้ไวแค่ 5 นาทีสามารถใช้โทรได้นานถึง 2 ชั่วโมง และมีประกันเครื่องหากเครื่องเสียก็สามารถเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ แต่ควรสอบถามกับศูนย์บริการก่อนดีกว่า
ส่วนราคาของ OPPO R15 Pro อยู่ที่ 19,990 บาท เท่านั้น เปิดจองตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน และมีของแถมทั้ง Special Gift Set และ OPPO VIP Card ให้สำหรับคนที่จองเท่านั้น เครื่องพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 2 มิถุนายน นี้ ใครที่คิดถึง OPPO ตระกูล R และอยากเห็นอะไรแปลกใหม่ใน OPPO ในปีนี้รุ่นนี้ไม่ควรพลาด
อัลบั้มภาพ 17 ภาพ