เทคนิคบริหารจัดการสื่อ Social Media สำหรับคนดังหลังเสียชีวิต หรือแยกวง

เทคนิคบริหารจัดการสื่อ Social Media สำหรับคนดังหลังเสียชีวิต หรือแยกวง

เทคนิคบริหารจัดการสื่อ Social Media สำหรับคนดังหลังเสียชีวิต หรือแยกวง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

bbking

เมื่อคุณเป็นคนดังที่มีผลงานแล้วใช้ Social Media ผลักดันจนมีฐานแฟนคลับเริ่มแน่น
แต่ถ้าวันนึงคุณออกจากวงการไป หรือสิ้นลมหายใจ  คุณได้วางแผนการใช้สื่อ Social Media สำหรับวันนั้นหรือยังครับ

ในยุคที่ Social Media ยังครองเมือง และเป็นวิถีหนึ่งของผู้คน
คนที่มีผลงานของตัวเอง  ต่างก็สร้างช่องทางในการสื่อสารกับแฟนคลับ เพราะแถลงข่าวเองได้ นำเสนอเบื้องหลังการทำงานเองได้
แต่ถ้าวันนึงทุกอย่างแตกดับล่ะนั่นล่ะคือปัญหา  มาดูว่าระดับมืออาชีพเขาทำกันอย่างไร
ผมยกตัวอย่างจากวงการเพลงนะครับ แต่คงเอาไปประยุกต์สำหรับวงการอื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน

ในกรณีที่ศิลปินเสียชีวิต เราควรเผยแพร่เนื้อหาบน Social Media อย่างไร

เรายกตัวอย่างของ Amy White House  ก่อนละกันครับ
Facebook Fanpage ของเธออยู่ที่ URL นี้  https://www.facebook.com/amywinehouse
มีผู้ติดตามกว่า 10 ล้านกว่าบัญชี  ส่วนตัวเธอเองนั้นเสียชีวิตไปแล้ว
สิ่งที่ Fanpage ของเธอยังทำต่อเนื่องคือ

1. ให้ข้อมูลข่าวสาร การออกผลงานใหม่ในลักษณะของรวมเพลง
ศิลปินตายแต่ผลงานไม่ได้ตายตามครับ โลกยังมีคนฟังเพลง มีคนเสพย์ผลงานบันเทิงอยู่ทุกวัน
หยิบมันขึ้นมาทำในรูปแบบที่น่าสนใจ แล้วพูดถึงกันเป็นระยะ

amy-2

2. จัดจำหน่ายขายของที่ระลึก
ความเป็นดารายังคงขายได้เสมอสำหรับแฟนคลับ
ตราบใดที่ยังต้องมีการดูแลผลงาน นั่นหมายความว่ายังต้องมีการใช้เงินลงทุน เรื่องพวกนี้ก็สามารถ Post ได้ครับ

amy-3

3. ทักทายแฟนเพลงเก่าๆ ผ่านตัวแทนของศิลปิน
เพราะมันมีผลทางใจในแง่การให้ความสำคัญ และระลึกถึง เช่น วันปีใหม่ หรือเทศกาลอื่นๆครับ
อันนี้วางแผนล่วงหน้าไว้จะดีที่สุด

amy-1

นั่นสำหรับศิลปินรุ่นใหม่ แล้วกับศิลปินระดับตำนานล่ะ
เรายกตัวอย่างของ BB King  ราชันย์กีตาร์บลูส์ครับ
Facebook Fanpage ของเขาอยู่ที่ URL นี้  https://www.facebook.com/bbking/

1. ทำให้เขาเป็นตำนานที่เล่าขานต่อไปซะ
สำหรับศิลปินที่มีชื่อเสียงแล้ว ผลงานของเขาย่อมสร้างแรงกระเพื่อมของคลื่นลูกแล้วลูกเล่า
ลองหาคนที่ได้รับอิทธิพล หรือการชี้นำมาพูดถึงแรงบันดาลใจที่ได้รับดูสิครับ

bbking-1

2.  ไว้อาลัยกับผู้เคยร่วมงาน ร่วมวงการเมื่อเสียชีวิตด้วยความระลึกถึง
อย่างทีมงานของ BB King ขึ้นภาพไว้อาลัยกับการจากไปของ David Bowie โดยหยิบรูปที่พวกเขาถ่ายไว้ร่วมกัน

bbking-2

3. สร้างเนื้อหาที่แฟนๆสามารถมีส่วนร่วมได้
บางทีไม่จำเป็นต้องลงทุนอะไรมากครับใช้ความใกล้ชิดเหนียวแน่นก็สร้างเนื้อหาได้
ตัวอย่างนี้คือให้แฟนเพลงร่วมเขียนข้อความใต้ภาพของ BB King

bbking-3

มาดูอีกตัวอย่างของ Ian Fraser Kilmister หรือ Lemmy แห่งวง Motorhead กันบ้าง
เขาถือเป็นกระบอกเสียงของวง เจ้าของตำนานการแผดลำโพงคอนเสิร์ตเสียงทีสุดตลอดกาลอีกหนึ่งวง
Facebook Fanpage ของวงอยู่ที่ URL นี้   https://www.facebook.com/OfficialMotorhead/

1. ทำเหมือนกับเขาไม่ตายจากไป แต่แค่ไปใช้ชีวิตอยู่ไกลๆ กับสิ่งที่เขาชอบ
อย่างที่เป็นข่าวกันวันก่อนครับว่า Jack Danial's ได้ตั้งชื่อสูตรเหล้าผสมโค้กว่า "Lemmy"
เพื่อเป็นการให้เกียรติและระลึกถึง  เพราะตอนมีชีวิตอยู่ชอบดื่มสูตรนี้มาก

2. การจากลาไม่จำเป็นต้องมากับน้ำตาและความเศร้าเสมอไป 
ท่าทางบางอย่างที่เก็บเป็นความทรงจำเฉพาะตัว ยังสามารถนำมาเล่าได้ด้วยภาพถ่าย
ภาพนี้อธิบายความหมายได้ด้วยตัวมันเองนะครับ

motorhead-2

ในกรณีที่ศิลปินแยกวง เราควรเผยแพร่เนื้อหาบน Social Media อย่างไร

มีอยู่หนึ่งวงที่เราเห็นว่า Admin ทำหน้าที่ได้ดีคือ "Clash"
Facebook Fanpage ของวงอยู่ที่ URL นี้ https://www.facebook.com/clash0007

1. ทำเหมือนพวกเขายังทำงานอยู่ด้วยกัน

วงดนตรีแตกแล้วแยกตัวกันไปทำงาน  ถ้ามันไม่ร้าวรานอะไรกันมาก
พอมีเหตุการณ์สำคัญๆ ลอง TAG หาสมาชิกในวงบ้างก็ได้ครับ
ส่วนการจะกลับมาทำงานด้วยกันในอนาคตมั้ยนั่นเป็นเรื่องที่ค่อยว่ากัน

clash-3

2. คอยดูว่าแฟนเพลงพูดถึงคุณอย่างไร

เอาเข้าจริงๆ เพลง "โรคประจำตัว" นี่ก็ออกมานานแล้วนะครับซึ่งก็ดังระดับนึง
พอถูกพูดถึงในแง่มุมขำขันบนโลก Social ทาง Admin ก็หยิบมาโพสต์ไวมาก

clash-2

3. กระจายความสำคัญถึงเพื่อนร่วมวง

วงดนตรีแตกแล้วแยกตัวกันไปทำงานกันทีไร คนที่ถูกโฟกัสคือนักร้องนำ
ถ้ามันไม่ร้าวรานอะไรกันมาก พอมีเหตุการณ์สำคัญๆ ลอง TAG หาสมาชิกในวงบ้าง
เอาแบบให้ครบทุกคนนะครับ

clash-1

 

สิ่งที่ไม่ควรทำในกรณีที่ศิลปินเสียชีวิต หรือแยกวงบน Social Media

เรายอมรับว่าเกร็งๆเหมือนกันในการนำเสนอ เพราะอาจจะนำมาซึ่งความไม่พอใจทั้งจากตัวศิลปินเอง หรือแฟนคลับที่ติดตามได้
แต่บางเรื่องมันก็จำเป็นต้องยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ  โดยมีคำตอบของผู้พบเห็นมาเป็นส่วนประกอบ

1. Post เนื้อหากล่าวถึงอดีตสมาชิกในทางลบ
อันนี้เรามักพบใน Instagram ครับ โดยมักเป็นการ Post แบบลอยๆ ไม่มีคำตอบ
ส่วนผู้พบก็มักยกข่าวเก่าๆมาวิเคราะห์ ประกอบ หรือนักข่าวก็มักเอาเรื่องพวกนี้ไปทำสกู็ปหน้า 1
เราขอข้ามไปเพราะตัวอย่างเรื่องนี้มักนำมาซึ่งความแตกแยก

2. Post เนื้อหาหาข่าวประเภท Click Bait
โดยพื้นฐานของการใช้สื่อ Social Media สำหรับงานบันเทิงนั้น ผู้ติดตามจะคาดหวังเห็นความเคลื่อนไหว และข่าวคราวล่าสุด
แต่ถ้ามาถึงจุดที่มีการนำเสนอข่าวล่อให้คลิ๊ก แฟนเพลงก้พร้อมที่จะตั้งข้อสงสัย และเลิกติดตามได้เหมือนกัน

socool-3

3. นำข้อความผู้อื่นมาใช้ แล้วลงในนามวง

บางทีการหยิบประโยคเด็ดฮุคโดน ที่ทุกคนร้องได้
น่าจะเป็นตัวอย่างที่สร้างสรรค์มากกว่าการคว้าคำคมของผู้อื่นมาใช้แล้วใส่กรอบของตัวเองลงไป
ลองดูความเห็นของแฟนเพลงนะครับ

socool-2

 

ครับ..สำหรับผู้ที่เคยฝากผลงานบันเทิงไว้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะอะไร นักแสดง ศิลปินเพลง หรือว่าสาขาอื่นๆ
ตราบใดแล้วที่คุณก้าวเท้าเข้ามาอยู่ใน  โลก Social Media  ของพวกนี้จะเป็นรอยเท้าติดตามคุณไป
ไม่ว่าคุณจะยังอยู่บนโลก หรือว่าทิ้งร่างที่มีลมหายใจไปแล้ว  อย่างที่เขาเรียกว่า Digital Foot Print นั่นล่ะ
ถ้าคุณคิดว่าจะไม่ดำเนินการอะไรต่อกับชื่อเสียงที่ผ่านมา ก็ขอให้ลบบัญชีผู้ใช้นั้นไปครับ หรือบางทีการปล่อยไว้เฉยๆ อาจจะยังดีกว่า

อยากคุยเรื่องไหนกับผม ทักมาได้ครับที่

Twitter : http://www.twitter.com/jetboat26
Facebook : http://www.facebook.com/trendy2mobi

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook