Tips&Tricks: แนะนำวิธีเช็กสายชาร์จ iPhone ของแท้กับของปลอม (อย่างละเอียด)
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/hi/0/ud/288/1444161/untitled-1.jpgTips&Tricks: แนะนำวิธีเช็กสายชาร์จ iPhone ของแท้กับของปลอม (อย่างละเอียด)

    Tips&Tricks: แนะนำวิธีเช็กสายชาร์จ iPhone ของแท้กับของปลอม (อย่างละเอียด)

    2018-02-04T09:36:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    (Tips&Tricks) แนะนำวิธีเช็กสายชาร์จ iPhone อย่างละเอียด ของแท้กับของปลอมเหมือนกัน หรือต่างกันตรงไหนบ้าง มาดูกัน!

     "สายชาร์จ" เป็นอุปกรณ์ที่ผู้ใช้หลายๆ คนมองข้ามความสำคัญไปค่อนข้างมาก ด้วยสาเหตุที่ว่าสายชาร์จก็เป็นเพียงแค่สายชาร์จเท่านั้น ไม่น่ามีความสำคัญอะไรมากมายขนาดนั้น แต่แท้ที่จริงแล้วสายชาร์จก็เป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ผู้ใช้ควรให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เพราะถ้าหากผู้ใช้ใช้งานสายชาร์จของปลอมที่มีคุณภาพไม่สู้ดีนัก สิ่งที่อาจเกิดขึ้นก็คือ สายดังกล่าวมีมัลแวร์ฝังอยู่, สายไฟด้านในเสียหายจนอาจทำให้เกิดการลัดวงจร หรือสร้างความเสียหายให้สมาร์ทโฟนได้ เป็นต้น ซึ่งความเสียหายเหล่านั้นไม่น่าจะคุ้มกับการที่เราซื้อของราคาถูกมาใช้งานอย่างแน่นอน และหนึ่งในสายชาร์จที่มีผู้ผลิตของปลอมออกมามากที่สุดก็คือ สาย Lightning ของ iDevice นั่นเอง

    แม้ว่าสายชาร์จ USB to Lightning ของ Apple ที่เป็นของแท้นั้นจะมีราคาประมาณ 790 บาท ซึ่งหลายๆ คนมองว่าอาจจะเป็นราคาที่แพงเกินความจำเป็น ทำให้หลายๆ คนหันมาเลือกของปลอมใช้งานซึ่งมีราคาเพียง 100-200 บาท เท่านั้น แต่ความเสี่ยงในการใช้งานนั้นค่อนข้างแตกต่างกันมากทีเดียว และบางครั้งผู้ใช้หลายๆ คนที่มักยืมสายชาร์จของเพื่อนมาใช้ หรือได้สายมาฟรีๆ ก็คงต้องตรวจสอบกันเสียหน่อยว่าสายดังกล่าวเป็นของแท้หรือไม่ วันนี้เราจึงมีเทคนิค และวิธีการตรวจสอบสายชาร์จของ Apple มาฝากทุกท่านกันครับ

    วิธีตรวจสอบที่ช่องเชื่อมต่อ USB

    สายชาร์จของแท้จาก  Apple จะมีลักษณะ ดังนี้

    - รอยต่อของช่อง USB จะมีความสมมาตร และเว้นระยะห่างเท่ากัน

    1

    - จุดเชื่อมต่อของ USB จะมีสีทอง
    - พื้นผิวของจุดเชื่อมต่อภายนอกจะราบเรียบ และดูเป็นเนื้อเดียวกัน
    - ตัวฉนวนด้านในช่อง USB จะแบนราบ และดูเป็นลักษณะเดียวกัน หรือเนื้อเดียวกันทั้งหมด
     

    สายชาร์จของปลอมมักมีลักษณะ ดังนี้

    - รอยต่อของช่อง USB ไม่มีความสมมาตร และระยะห่างไม่เท่ากัน
    - จุดเชื่อมต่อของ USB จะมีสีเงิน
    - พื้นผิวของจุดเชื่อมต่อภายนอกจะดูไม่เป็นเนื้อเดียวกัน
    - ตัวฉนวนด้านในช่อง USB จะมีส่วนที่ยื่นออกมา หรือมีรอยบากบางจุด
     

    วิธีตรวจสอบส่วนเชื่อมต่อ Lightning Port

    2


    สายชาร์จของแท้จาก  Apple จะมีลักษณะ ดังนี้

    - แถบสีทองจะเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด, พื้นผิวจะราบเรียบเป็นเนื้อเดียวกัน และพื้นที่ส่วนสีขาวจะมีลักษณะโค้งมน
    - ส่วนหุ้ม Lightning Port สีขาวจะมีขนาดเท่ากันทุกชิ้น คือ 7.7x12 มิลลิเมตร
    - ส่วนเชื่อมต่อ Lightning Port จะออกสีเทา หรือสีโลหะเท่านั้น
     

    สายชาร์จของปลอมมักมีลักษณะ ดังนี้

    - แถบสีทองเป็นคนละชิ้น, พื้นผิวมีความนูน ไม่ราบเรียบเสมอกัน และพื้นที่ส่วนสีขาวจะมีลักษณะเป็นเหลี่ยมมุมมากกว่า
    - ส่วนหุ้ม Lightning Port สีขาวจะมีขนาดแตกต่างกันออกไป
    - ส่วนเชื่อมต่อ Lightning Port จะเป็นสีดำ หรือสีขาว
     

    วิธีตรวจสอบที่สายเคเบิล

    3


    Apple ระบุว่า สายชาร์จของตนเองนั้นมักจะมีการประทับตราของแบรนด์ หรือข้อความบางอย่างลงที่สายด้วย โดยข้อความดังกล่าวจะอยู่ตรงบริเวณสายฝั่ง USB วัดจากด้านท้ายมาประมาณ 7 นิ้ว ซึ่งจะมีข้อความ “Designed by Apple in California” ประทับอยู่ ตามด้วย “Assembled in China,” “Assembled in Vietnam” หรือ “Indústria Brasileira” ซึ่งข้อความดังกล่าวจะมีขนาดเล็ก และจางมาก อาจต้องใช้การสังเกตมากสักเล็กน้อย และถ้าหากมีข้อความดังกล่าวก็มั่นใจได้ในระดับหนึ่งแล้วว่าเป็นสายของแท้อย่างแน่นอน

     แม้ว่าหลายๆ ท่านจะมองว่าสายชาร์จของแท้ ไม่ว่าจะเป็นของ Apple หรือของแบรนด์อื่นๆ จะมีราคาสูงอยู่สักเล็กน้อย แต่มาตรฐาน, คุณภาพ และประสิทธิภาพในการใช้งานก็ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาที่ต้องจ่ายไป เพราะสายของแท้จะป้องกันปัญหา และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้แทบทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นการถนอมสมาร์ทโฟนของคุณให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้นถ้าหากอยากให้แบตเตอรี่ และสมาร์ทโฟนของเราใช้งานไปได้หลายๆ ปี ก็หันมาใช้สายชาร์จของแท้กันนะครับ แล้วพบกันใหม่ใน Tips&Tricks ฉบับหน้าครับ

    ขอขอบคุณ

    ข้อมูล :www.thaimobilecenter.com