รีวิว Nokia 3 มือถือโนเกียยุคใหม่ที่คงเอกลักษณ์เดิมแต่ราคาเอื้อมถึง
ในที่สุด Nokia ก็กลับมาในโลกอีกครั้งหลังจากดูดไปอยู่กับ Microsoft และทำแต่มือถือ Windows Phone กันสักพักใหญ่ และชื่อ Nokia ก็เหลือแต่ Feature Phone เท่านั้น โดยที่ทีมงาน Sanook! Hitech ได้นำมา Nokia 3 มารีวิว จะเป็นอย่างไร กับรุ่นถูกที่สุดของ Nokia ในยุคของ HMD Global
รายละเอียดของ Nokia 3
- ขนาดตัวเครื่อง 143.4 x 71.4 x 8.5 มิลลิเมตร
- สีตัวเครื่อง ขาว และ ดำ
- น้ำหนัก 150 กรัม
- CPU : MediaTEK MT6737 Quad Core 1.4GHz
- GPU : Mali T720MP1
- RAM 2GB
- ความจุในตัว 16GB
- ความจำเพิ่มเติม : Micro SD 256GB
- รองรับสัญญาณเครือข่าย : 2G/3G/4G Cat 4 150/50 Mbps (Dual SIM)
- WiFi 11 b/g/n/ac, Bluetooth V4.1
- หน้าจอ 5 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด 1280x720
- กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล F2.0 พร้อมกับ Auto Focus และมี LED Flash
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล F2.0 auto focus
- แบตเตอรี่(ประมาณ) 2630 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat
รูปร่างของ Nokia 3
ด้านหน้า ถ้ามองดูแล้วก็ทำให้คิดถึงมือถือโนเกียสมัยก่อน โดยเฉพาะกลุ่ม Lumia พร้อมกับหน้าจอขนาด 5 นิ้วแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 ถือว่าละเอียดดี รองรับ มัลติทัช 1o จุด สู้แสงได้กำลังดี
ส่วนบน มีกล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ หูฟังสนทนา และมีโลโก้ Nokia แบบเด่นชัด
ส่วนล่างมีปุ่มกด Back, Home, และปุ่ม Recent Apps สลับ Apps ได้
ด้านข้างซ้ายขอบเครื่องเป็นอะลูมิเนียมจัดว่าเกรดดีมาก และมีช่องใส่ซิม Nano SIM อยู่ช่องบน 2 SIM และช่องล่างเป็น Micro SD ครบเครื่อง
ด้านข้างขวา มีปุ่มปรับระดับเสียงและ Power ที่เล็กมาพอสมควร
ด้านบนมีเสาอากาศ และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ด้านล่าง มีทั้งไมโครโฟน, ลำโพง และ Micro USB
ด้านหลังออกแบบเรียบง่ายพร้อมโลโก้ Nokia อยู่ตรงกลาง พรี้อมกับด้านบนสุดมีกล้องขนาด 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับ LED Flash โดยาส่วนนี้จะเป็นพลาสติกสีขาวเท่านั้น
ภาพรวมของโนเกีย 3 ถือว่าเป็นอีกเครื่องที่มีน้ำหนักเบาถือง่ายขนาดพอดี แต่ทว่าวัสดุนั้นหลายคนคาดหวังจะเป็นบอดี้แบบโลหะชิ้นเดียว ซึ่งจะต้องเอารุ่นที่แพงกว่านี้ ภาพรวมสำหรับ Nokia 3 ถือว่าเป็นตัวเครื่องที่สวยไม่เบาเลยล่ะ
ประสิทธิภาพ ของ Nokia 3
จากที่ได้ทดสอบประสิทธิภาพจาก Antutu ออกมานั้นได้อยู่ที่ 26963 คะแนน ถือว่าเกาะกลุ่มกับมือถือไม่เกิน 5,000 บาท เพียงแต่ว่าที่มันได้เปรียบกว่าเพราะระบบปฏิบัติการนั้นเป็น Pure Android อีกค่ายหนึ่ง
ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 2630 mAh ไม่มีระบบ Quick Charge แต่สามารถชาร์จไฟได้เร็วไม่แพ้กันเพราะแบเตอรี่ขนาดไม่ใหญ่มาก นอกจากนี้ยังทดสอบอยู่ได้ 7 ชั่วโมง 30 นาทีโดยประมาณ ถ้าใช้งานจริง ๆ นั้นถือว่าไหวสบาย แต่ถ้าเล่นเกมโหด ๆ แป๊ป ๆ ก็ลงแล้ว
ลูกเล่นเด่นของ Nokia 3
ระบบปฏิบัติการของ Nokia 3 นั้นใช้ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat พร้อมกับ UI ที่เป็น Pure Android แท้ ๆ โดยจะต้องเลื่อน Apps Drawer ต้องปัดขึ้น หรือ Notification เป็นแบบ Android ทุกประการ
แต่ทว่าลูกเล่นเด่น ๆ ของเครื่องที่เหลือ ยังคงเป็นการให้เครื่องมือครบไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นเพลง, วิทยุ FM, มีเครื่องมือ, Google Apps เป็นต้น ส่วนระบบเสียงของ Nokia 3 นั้นเป็นแบบธรรมดาไม่ได้แตกต่างอะไรกับมือถือทั่วไปในระดับเดียวกันนะ
กล้องหลังของ Nokia 3 นั้นมีขนาด 8 ล้านพิกเซลพร้อมกับ Auto Focus ที่ทำงานกลาง ๆ พร้อมกับ LED Flash และมีรูรับแสง F2.0 พร้อมกับ Ui กล้องแบบใหม่ มีเมนูทั้ง Touch UP, พาโนราม่า, วีดีโอ และมี HDR ให้ครบ และสามารถใส่ลายน้ำได้ด้วย สามารถบอกเข็มทิศและความสูงได้
จากที่ได้ลองถือว่ามันทำงานอาจจะไม่ได้รวดเร็วแต่ก็ทำงานได้ดีไม่น้อยเลย ถ้าปรับเรื่องโฟกัสให้เร็วกว่านี้จะดีมาก ส่วนวีดีโอถ่ายได้ที่ความละเอียด Full HD
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมกับ F2.0 และมี Auto Focus แต่ว่าไม่มี Beauty Mode มาให้น่าเสียดาย แต่กล้องหน้าถ่ายวีดีโอได้แค่ 720P เท่านั้น
(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Nokia 3)
สรุปจากที่ได้ลอง Nokia 3
กลับมาครั้งนี้เป็นการนำลักษณะดั่งเดิมของ Nokia กลับมาด้วย ที่ทำมือถือราคาไม่แพง แต่ได้ขอบอะลูมิเนียมและผสมกับโลหะนั้นดูดี พร้อมกับใช้ Android 7.0 ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด และยังมีเรื่องของการอัปเดตความปลอดภัยตลอด แม้ว่าลูกเล่นจะไม่ได้มีอะไร เพราะเน้นความเป็น Pure Google ที่อัปเกรดได้แน่นอน
ส่วนราคานั้นอยู่ที่ 4,850 บาท เมื่อเทียบกับคู่แข่งนั้นก็จะเจอกับ Moto C Plus ที่ราคาถูกกว่าหน่อย, Moto E4 ที่ลักษณะคล้ายแพงกว่าหน่อย และ Wiko U Pulse ซึ่งทั้งหมดนั้น Nokia 3 ประกอบดีกว่า แม้ว่าเครื่องอาจจะไม่ได้แรงมาก แต่ก็ใช้งานราบรื่น และหาซื้อได้ง่ายกว่ามีโปรโมชั่นหลากหลายกว่า ก็กลายเป็นอีกมือถือที่คุ้มค่าอีกรุ่น เพียงแต่ว่า ถ้าต้องเอามาถ่ายรูปนั้นมันช้าไปนิด เท่านั้น แต่ที่เหลือดีและรับได้ อัปเกรดได้แน่นอน
ข้อดี
- Pure Google แบบดั่งเดิม พร้อมอัปเกรด Android O แน่นอน
- สเปคกล้องหน้าดีมาก
- ตัวเครื่องน้ำหนักเบาและประกอบแน่น
- ลูกเล่นครบถ้วน และมีเข็มทิศในกล้อง
- ราคาไม่แพงเท่าไหร่
ข้อควรปรับปรุง
- ไม่มีลูกเล่นอะไรที่แตกต่างจากมือถือ Pure Android
- กล้องหลังทำงานช้า
- เคสที่แถมให้ดูราคาถูกไปหน่อย
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ