พรีวิวแรกในประเทศไทย HTC U 11 มือถือเน้นฟีเจอร์สั่งงานด้วยการบีบเครื่อง และสเปคไม่ธรรมดา
ในที่สุด HTC ได้เผยโฉมมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง HTC U 11 ซึ่งมีข้อมูลและข่าวลือต่าง ๆ นา ๆ ออกมาอย่างมากมาย ซึ่งครั้งนี้ทีมงาน Sanook! Hitech จะมีพรีวิวมือถือรุ่นดังกล่าวให้อ่านในบทความนี้รายละเอียดจะเป็นอย่างไร มาดูกันเลย
รูปร่างของ HTC U11
การออกแบบตัวเครื่องของ HTC U11 จะเน้นความบางทั้งด้านบนและล่างจะสามารถจับได้ถนัดมือมากขึ้น พร้อมการออกแบบ Liquid Surface Design ดูกลมกลืนมากและมีลูกเล่นสีสันที่น่าสนใจ พร้อมกับกระจกแบบ 3D ทั้งหน้าและหลัง พร้อมกับหน้าจอ Super LCD 5 ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด QHD
ส่วนบนมีกล้องหน้าขนาด 16 ล้านพิกเซลพร้อมกับ หูฟังสนทนาสามารถเป็นลำโพงตัวที่ 2 ทำงานคู่กับด้านล่าง นอกนั้นมีเซนเซอร์ต่าง ๆ ของตัวเครื่อง
ส่วนล่างของหน้ามีระบบสแกนลายนิ้วมือและปุ่ม Home อยู่กึ่งกลางเครื่องและปุ่ม Back กับ Recent
ด้านข้างของตัวเครื่องออกแบบให้บางเฉียบแต่ยังคงเอกลักษณ์ที่ทำให้จับตัวเครื่องได้ง่ายมากขึ้น โดยฝั่งซ้ายไม่มีปุ่มกด
ฝั่งขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม Power ให้กดใช้งาน
ด้านบนมีช่องใส่ซิมแบบ Hybrid Slot (Nano SIM, Nano Sim หรือ Micro SD)
ด้านล่างมีลำโพง 1 ตัวและ USB-C
ด้านหลังผ่านกระบวนการ Optical Spectrum Hybrid Deposition ทำให้ด้านหลังมีสีสั้นที่แตกต่างกันและได้รับการพัฒนามากว่า 2 ปี สีมีให้เลือก 5 สีคือ Amazing Sliver, Ice White, solar Red, Sapphire Blue, brilliant Black พร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซลและมี LED Flash 2 ดวง
นอกจากนี้ HTC U11 สามารถกันน้ำได้ระดับ IP 67 สามารถใช้งานขอบหน้าจอและทัชสกรีนได้แม้ว่าจะใส่ถุงมืออยู่ก็ตาม
สเปคเครื่องของ HTC U 11 ที่ขายพร้อมกันทั่วโลก
ใช้ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 835 Octa Core รุ่นล่าสุด พร้อมกับ RAM ขนาด 4GB หรือ 6GB ความจำในตัวมีให้เลือกทั้ง 64GB และ 128GB เพิ่มความจำได้จาก Micro SD รองรับสูงสุดที่ 2TB นอกจากนี้ยังรองรับ 4G LTE Cat 16 ให้ความเร็ว Download ที่ 1Gbps, แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมกับระบบ Quick Charge 3.0
Update : สเปคไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะได้ RAM 6GB และ ROM 128GB
จุดเด่นของ HTC U 11 ที่ได้ลองมา
ก่อนที่จะได้ลองนั้น HTC เผยว่า Innovation ยังคงมีชีวิตอยู่ ไม่ได้ตายไปไหน เพราะในการพัฒนามือถือมา 5 ปีมีแต่เรื่องใหม่ ๆ เช่นเรื่องของหน้าจอใหญ่ ประสิทธิภาพที่ดีและ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ชาร์จไฟเร็วเป็นต้น และมีการพัฒนาตั้งยุคปี 1960 ที่เน้นเรื่องการประมวลผล ปี 1980 ในเรื่องของการใช้ เมาส์และ keyboard แต่ในช่วงปี 2000 คือเรื่องของหน้าจอทัชสกรีน ใช้แบบ GUI
เมื่อมาถึงจุดนี้ HTC คิดว่าควรจะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องของการสั่งงานมือถือจึงได้คิดค้นการสั่งงานแบบ edge sense เน้นการบีบขอบเครื่องสั่งงานเช่น
- สามารถบีบเพื่อให้การเข้าหน้าจอหลัก หรือเปิดกล้องจากหน้า Lock Screen
- สั่งงานถ่ายภาพ
- บีบค้างเพื่อให้ระบบสั่งงานด้วยเสียงทำงาน บีบ 2 ครั้งจะเป็นการสั่งงาน Google Assistant แทนการพูด OK Google ที่อาจจะไม่ดีสำหรับบางคน
- บีบเพื่อสั่งเปิด Apps ได้ทุกโปรแกรม, สั่งเปิดไฟฉาย, สั่ง Capture หน้าจอ, หรือจะเป็นการเข้าการตั้งค่าเครื่องได้เป็นต้น การสั่งงานสามารถใช้งานในลักษณะการบีบแค่ครั้งเดียวหรือ 2 ครั้ง
ซึ่งจากที่ได้ลองใช้ระยะแรกจะไม่ชินเพราะว่าการสั่งงานจะต้องกะน้ำหนักในการกดอยู่บ้าง แต่หลังจากลองผ่านไปครึ่งชั่วโมง ถือว่าทำได้ดีมากขึ้นอย่างชัดเจน ข้อดีคือ การสั่งงานั้นเป็นธรรมชาติ มีความน่าเชื่อถือกว่าทัชกรีน แถมยังรองรับกับการสั่งงานหน้าจอแบบ Extended Touch
แต่อย่างไรก็ตาม edge sense จะพร้อมทำงานทุกฟีเจอร์ที่กล่าวมานั้นต้องรอถึงเดือนกรกฏาคม และ UI ปกตินั้น HTC ยังคงใช้ Sense UI และมีเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า U Touch ทำให้การใช้งานนั้นคล่องมือแม้หน้าจอจะใหญ่มากก็ตาม
Handfree Feature
เป็นการรวมคำสั่งเสียงของ Google Assistant และ Amazon Alexa มาประสานการทำงานร่วมกัน ทำให้สามารถออกแค่คำสั่งเสียงก็สามารถให้เครื่องทำงานได้เช่นการปลดล็อคหน้าจอ หรือจะเป็นการสั่งให้ Google Assistant ทำงาน โดยฟีเจอร์ Handfree นั้นจะรองรับการทำงานแบบ Always listening หรือการรอฟังเสียงคุณตลอดเวลา
ฟีเจอร์การออกกำลังกายและการแจ้งเตือนต่าง ๆ จะมีใหม่ทั้ง Smart Alarms, Phone Usage, บอกสภาพาอากาศรายสัปดาห์, การแนะนำข้อมูลร้านอาหาร
ฟีเจอร์เกี่ยวกับกล้องของ HTC U 11
มีตั้งแต่ Instant Snap ทำงานร่วมกับ Ultra Speed AF ทำให้โฟกัสได้เร็วเพียง 0.3 วินาที และHDR Boost ทำให้การถ่ายภาพกลางคืนถ่ายภาพได้สว่างและคมชัดมากขึ้น, Acoustic Focus จะช่วยให้การซูมระหว่างการถ่ายวีดีโอ จะดูดเสียงจากจุดที่ไกล ๆ เข้ามาชัดเจน และทำงานกับ 3D Microphone ทำให้การบันทึกเสียงรอบทิศ โดยใช้ไมโครโฟน 4 ตัวบันทึกเสียง ขนาดพิกเซล 1.4 um ส่วนกล้องหลังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล Ultrapixel 3 F1.7พร้อมกับ LED Flash คู่ละมีกันสั่น และเคลมคะแนน DXO Benchmark ที่ 90 คะแนน ถือว่ามากที่สุดในบรรดามือถือทั้งหมด
ส่วนกล้องหน้านั้นใช้แบบ Ultra Pixel ขนาด 16 ล้านพิกเซล พร้อมกับ รูรับแสง F2.0
ระบบเสียง ของ HTC U 11
รองรับ Personalized Audio ปรับเสียงตามความเหมาะสมของหูแต่ละคนที่ไม่ดยไม่เหมือนกัน โดยจะจดเป็น Profile ของคุณได้, หูฟังที่มากับ HTC U 11 มีชื่อว่า U Sonic ที่มีไมโครโฟนความไวสูงภายในหูฟัง และมีคลื่น Sonar ช่วยทำให้เสียงที่ได้นั้นดี พร้อมกับระบบ ACTIVE Noise Cancelling ช่วยตัดเสียงรบกวนได้ค่อนข้างดี
จากที่ได้ลองมาทั้งแบบเปิด Personalized Audio และไม่เปิด Personalized Audio ผลของเสียงค่อนข้างแตกต่างกัน โดยไม่เปิดนั้นเสียงบางรูปแบบจัดได้ยินไม่ชัดหรือไม่ก็อื้อเกินไปทำให้ไม่สะดวกที่จะฟังเท่าไหร่ แต่ถ้าเปิดระบบจัดการสิ่งที่เราขาดจากการฟังไปได้อย่างเรียบร้อยมากขึ้น
น่าเสียดาย HTC U11 ไม่มีช่องเสียบหูฟังมาให้เป็น USB-C ทั้งหมด แต่มี Adaptor สำหรับคนที่ต้องการฟังเพลงด้วยหูฟังปกติ แต่จะรองรับการทำงานผ่าน DAC และรองรับมือถือหลากหลายรุ่นที่ใช้ USB-C ด้วยเช่นกัน แถมมีความทนทานสูง
ส่วนลำโพงภายนอกนั้น ยังคงให้ลำโพงคู่พร้อมกับระบบเสียง HTC BoomSound Hi-Fi Edition จะมีลำโพงอยู่ด้านบน(ลำโพงสนทนา)และล่าง(อยู่ด้านข้าง USB-C)ของเครื่องทำให้เสียงที่มีคุณภาพและดังกว่าเดิม ซึ่ง BoomSound เป็นเทคโนโลยีที่ขึ้นชื่ออยู่แล้ว
กล่าวสรุปหลังได้ลองสัมผัส HTC U 11
เป็นอีกมือถือที่ HTC ตั้งใจมากที่จะเปลี่ยนแปลงการใช้งานของมือถือทั่วไปที่มีขายอยู่บนโลก และเน้นความเป็นโลหะพร้อมกับบอดี้ที่มีกลิ่นอายของความเป็นของเหลวที่ละมุนมืออย่างไม่น่าเชื่อ ประกอบกับกล้องที่เก็บรายละเอียดจัดว่าดี ระบบเสียงที่มีคุณภาพแบบนี้ แถมยังกันน้ำเหมือนกับมือถือเรือธงทำได้ ก็ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจในตลาด
ซึ่งราคานั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมาแต่คาดว่าไม่น่าจะแพงกว่า รุ่นท็อปอย่าง HTC U Ultra แน่นอน และคาดว่าเทคโนโลยีนี้จะถ่ายทอดไปยังรุ่นอื่น ๆ ของ HTC ในไม่ช้านี้ และในประเทศไทย มีการยืนยันว่า HTC U 11 มาให้ยลโฉมและให้คนไทยได้เป็นเจ้าของในประเทศไทยแน่นอน ซึ่งราคายังไม่ได้มีการพูดถึงแต่คาดว่าจะเผยในสัปดาห์หน้า แต่เมื่อไหร่ ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ
และได้ข่าวจาก Country Manager จาก HTC Thailand ว่า HTC U11 จะมีการขายกับผู้ให้บริการแต่ยังไม่ได้ระบุว่าค่ายไหน ความชัดเจนทีมงาน Sanook! Hitech จะนำมาเสนอกันต่อไป
อัลบั้มภาพ 44 ภาพ