กลับมาอีกครั้งสำหรับรีวิวมือถือที่เรียกว่ามหากาฬของ Samsung บทใหม่อีกครั้งที่แน่นอนว่าครั้งนี้ จัดหนักจัดเต็มกับการเปิดตัว จะเรียกได้ว่าเป็นการกู้หน้าครั้งใหญ่ของ Samsung เลยก็ว่าได้ กับ Samsung Galaxy S8 ซึ่งครั้งนี้มีให้ชมแบบจุใจเพราะทีมงาน Sanook! Hitech ลองเล่นทุกส่วนและทุกจุดของเครื่องและมาเล่ากันจริงจัง มาดูกันว่ามันจะเป็นอย่างไรและน่าใช้หรือไม่
ด้านหน้าเป็นจุดแรกที่เปลี่ยนแปลงอย่างมากหน้าจอของเครื่องที่รุ่นนี้เปลี่ยนให้ยาวขึ้น โดยมีพื้นที่หน้าจอมากขึ้นจนเรียกว่าหน้าจอโค้งแบบ Infinty Display อัตราส่วน 18.5:9 มากที่สุดในบรรดา Smart Phone แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2960x1080 สามารถปรับความละเอียดได้ รองรับมัลติทัช 10 จุด ให้อารมณ์เต็มอิ่มสุด ๆ
ส่วนบน เซนเซอร์, หูฟัง Infrared สำหรับสแกนม่านตา และมีระบบสแกนใบหน้า และมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สังเกตว่าช่องเสียบหูโทรศัพท์เล็กลงชัดเจน
ส่วนล่างมีปุ่ม Recent สำหรับสลับ Apps, ปุ่ม Home แบบสัมผัส แต่เมื่อปิดเครื่องจะไม่มีปุ่มกดแต่อย่างใด
ด้านข้างมีเฟรมเครื่องที่หนากำลังดีไม่มากหรือน้อยไป แต่มีขอบของหน้าจอทั้ง 2 ด้านโค้งปิดกำลังดี พร้อมกับปุ่มกดฝั่งขวามีปุ่ม Power
ฝั่งซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มคำสั่งเสียบ Bixby
ด้านบนมีถาดใส่ซิมแบบ Nano SIM พร้อมกับช่องใส่ซิมอีกช่องรองรับทั้งซิมแบบ Nano SIM หรือการ์ดความจำแบบ Micro SD ได้เช่นกัน พร้อมกับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ด้านล่างมีช่องเสียบ USB-C พร้อมกับ ช่องเสียบรูหูฟัง และไมโครโฟน
ด้านหลัง มีกล้องหลังขนาด 12 ล้านพิกเซล พร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านขวา และมี Flash และ ระบบวัดชีพจร อยู่ทางด้านซ้าย พร้อมโลโก้ Samsung ถัดลงมา
ภาพรวมจากที่ได้เห็นถือว่าเป็นอีกมือถือที่ออกแบบให้รองรับกับมือได้กำลังดี เครื่องไม่ใหญ่และเล็กจนเกินไป จับได้ถนัดมือและคนทั่วไปถือได้ง่ายขึ้น แต่ด้วยความที่หน้าจอนั้นชอบชิดมากจนแทบจะไม่มีที่เหลืออาจจะทำให้ต้องระวังมากกว่าปกติ และอีกเรื่องทีดูไม่เหมาะเท่าไหร่คือตำแหน่งระบบสแกนลายนิ้วมือใกล้ตำแหน่งกล้องหลังเกินไป อาจจะทำให้เป็นรอยได้ง่ายมากเช่นกัน
ส่วนอุปกรณ์เสริมที่ได้มารีวิวนั้นเป็น Clear Cover Case เป็นเคสสวมใส่พร้อมกับหน้าปิดแบบใสดูเรียบหรูดี แต่อีกสิ่งที่มันทำได้นั่นคือ ปรับเป็น Stand ดูหนังผ่านหน้าจอของ Galaxy S8 ได้เต็มอิ่ม โดยไม่ต้องถือให้เมื้อยมืออีกด้วย
จากภาพการทดสอบ Benchmark ที่เห็นคะแนนของ Antutu นั้นทำได้อยู่ที่ 164,480 คะแนนถือว่าเป็นอีกเครื่องหนึ่งที่คะแนนทดสอบ Benchmark สูงอีกตัวหนึ่ง แต่อาจจะเป็นรองกับมือถือบางรุ่นไปบ้าง ภาพรวมการทำงานถือว่าประทับใจและดีใช้ได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องอืด แต่ว่ามันสามารถปรับประสิทธิภาพจาก Game Mode ได้
ส่วนแบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy S8 ให้มาขนาด 3000 mAh และแน่นอนว่าหน้าจอใหญ่แบบนี้หลายคนบอกว่าเปลืองไฟแน่นอน จากที่ทดลองใช้งานผลที่ได้อยู่ที่เกือบ 11 ชั่วโมง และใช้งานทั่วไปเอาตัวรอดสบาย แต่ว่าถ้าปรับประสิทธิภาพเต็มก็จะหมดไวตามระเบียบ
ส่วนระบบประหยัดพลังงานที่ให้นั้นยังคงมี โหมดให้เลือกปรับพลังงานทั้งหมด 3 รูปแบบ โดยดีที่สุดจะเข้า Ultra Saving Mode เหลือ โทรกับทำอะไรผ่าน Apps ที่กำหนดเท่านั้น และยังใจดีให้เลือกเหมือนเดิม พร้อมกับ Fast Charge ให้เลือกเช่นกัน
Samsung Galaxy S8 ให้ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 พร้อมกับ User Interface แบบใหม่ที่สามารถปรับได้ทั้งแบบใหม่ที่ใช้การปัดไปมา โดยสามารถเข้า Apps Drawer โดยการปัดลง หรือจะเลือกแบบดั่งเดิมก็ได้ รองรับกับหน้าจอที่ยาวขึ้น พร้อมกับเปลี่ยน icon ให้ดูดีเลยทีเดียว และมี Notification ที่เข้าใจง่ายมาก
ลูกเล่นใหม่ของ Samsung Galaxy S8 ถือว่าเยอะมากและให้มาแบบเต็มที่สมกับเป็นมือถือเรือธงไม่ว่าจะเป็น
ในเรื่องของคุณภาพเสียงนั้น Samsung ยังคงให้ Software ที่ชื่อว่า Sound Alive ที่สามารถปรับแต่งเสียงและปรับระบบเสียงให้รองรับเสียงแบบ UHQ ที่สามารถปรับได้หลากหลาย เมื่อลองเสียบฟังเพลงก็ถือว่าให้การตอบสนองที่ดีไม่น้อยทั้งการเสียบหูฟังหรือใช้ผ่าน Bluetooth แต่ข้อจำกัดมีนิดหน่อยคือ บางรูปแบบการเชื่อมต่อจะไม่สามารถใช้คุณภาพเสียงได้เต็มที่ และในกล่องมีหูฟัง AKG อย่าลืมลองใช้นะครับ
และยังมีเครื่องมืออื่น ๆ ทั้งเรื่องการจดผ่าน Samsung Note, Samsung Health, เครื่องคิดเลข, ไฟฉาย และเครื่องอัดเสียง เป็นต้น
สำหรับกล้องของ Samsung Galaxy S8 นั้นยังคงใช้กลองหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล Dual Pixel พร้อมกับค่ารูรับแสง F1.7 + Smart OIS แต่มีการปรับปรุง Software ใหม่ว่าสามารถจับจุดโฟกัสและทำงานของกล้องได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้น และใช้ UI กล้องที่ง่ายแค่ปัด Swipe หน้าจอก็สามารถสั่งงานได้แล้ว
จากการที่ได้ลองถ่ายภาพนิ่งพบว่าตัวเครื่องให้แสงที่ดีและการทำหน้าชัดหลังเบลอนั้นทำได้ง่ายกว่า Samsung Galaxy S7 ตัวเดิม ส่วนวีดีโอนั้น ระบบกันภาพสั่นไหว ทำงานได้นิ่งกว่ารุ่นเดิมจนเรียกได้ว่าเหมือนกับถืออุปกรณ์อย่า Gimball มากขึ้น ทั้ง ๆ ที่ปรับความละเอียดภาพเป็นแบบ 4K แล้วก็ตาม
ส่วนกล้องหน้านั้นเปลี่ยนใหม่จนไม่เหลือโครงเดิม ด้วยกล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซลพร้อมกับรูรับแสง F1.7 นอกจากนี้ ยังเพิ่มระบบ Auto Focus และสามารถทำหน้าชัดหลังเบลอได้ดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy S8)
ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของ Samsung อีกครั้งที่ทำให้หลายคนสนใจและทำให้ยอดจองทั่วโลกนั้นสูงจนน่าตกใจและสูงกว่ามือถือจาก Samsung ทั่วโลกอีกตางหาก เรียกได้ว่าแรกเห็นใครชอบ ก็เห็นแล้วชอบเพราะจอใหญ่ ล่ำหน้า แต่บางคนที่ชอบหน้าจอโค้งจะไม่ชอบเช่นเคย ส่วนประสิทธิภาพและลูกเล่นนั้นพร้อมใช้งานแม้ว่าจะใช้มากหรือน้อยแต่ใช้ดูหนังก็เพลินดี
ส่วนการใช้งานกับหน้าจออัตราส่วน 18.5:9 อาจจะต้องพูดว่า ให้อารมณ์ที่ดีแต่อาจจะต้องทำใจเพราะภาพโดยมากออกแบบให้รองรับแค่ 16:9 เท่านั้นเมื่อขยายออกไปแล้วอาจจะทำให้ภาพนั้นดูกว้างเกินไป แต่ถ้าเป็นถ่ายภาพจะไม่มีปัญหา สักเท่าไหร่ คงต้องรอ Apps หรือภาพยนตร์ให้รองรับมากกว่านี้
ส่วนราคานั้น Samsung Galaxy S8 อยู่ที่ 27,900 บาท และ S8+ ที่จะได้หน้าจอ 6.2 นิ้ว พร้อมกับแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นเป็น 3500 mAh ราคาอยู่ที่ 30,900 บาท ถือว่าสูงกว่ารุ่นเดิม ฉะนั้นการเปรียบเทียบราคานั้น Samsung Galaxy S8 ควรจะต้องเอาไปเทียบกับ Samsung Galaxy S7 edge มากกว่า แต่ถ้าตัวเลือกอื่นนั้น ก็จะมี Huawei Mate 9 Pro, Huawei P10 Plus, iPhone 7 Plus ที่หน้าจอใหญ่ ๆ โค้งนิดหน่อย และราคาอยู่ที่ 2 หมื่นขึ้น ถ้ามองว่าอยากได้ความล้ำหน้าของเทคโนโลยีมือถือ Samsung Galaxy S8 ถือว่าน่าสนใจ แต่ถ้าอยากได้จอใหญ่แบบเน้นจอใหญ่จริง ๆ Samsung Galaxy S8+ คือคำตอบที่ดีอยู่นะครับ
ข้อดี
ข้อควรปรับปรุง