เปิดกล่องแล้วก็หลงรักกับตัวท็อป MotoZ ตัวล่าสุด!

เปิดกล่องแล้วก็หลงรักกับตัวท็อป MotoZ ตัวล่าสุด!

เปิดกล่องแล้วก็หลงรักกับตัวท็อป MotoZ ตัวล่าสุด!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากสร้างความฮือฮามาแล้วใน Moto X คราวนี้ Motorola ได้พัฒนาจาก ซีรี่ย์ X มาสู่ Moto Z และไม่รู้ว่าเป็นเพราะมือถือเจ้าแก่ที่อยู่ในมือของเราหรือเปล่า เลยทำให้เมื่อได้ค่อยๆ บรรจงแกะ Moto Z จาก Motorola มันช่างนำความตื่นเต้นมาให้เราเป็นพิเศษ และบอกเลยว่า Moto Z ยังคงดีไซน์เรียบหรูจาก X แต่เพิ่มออปชั่นที่  Sanook! Hitech คิดว่าทุกคนต้องร้องว้าวและอยากได้ตามๆ กัน ตามมาลองดูกันทีละส่วนๆ เลย

ดีไซน์บางเฉียบที่สุดสำหรับโทรศัพท์มือถือตอนนี้

จุดเด่นแรกที่ได้สัมผัสกับตัวเครื่องของ MotoZ คือความบางของตัวเครื่องที่เมื่อจับขึ้นมาก็รู้สึกได้ทันที ด้วยความบางที่สุดในตอนนี้เพียง 5.19 ม.ม.เท่านั้น มาพร้อมด้วยตัวเครื่องสีคลาสสิคเทาดำที่ทำจากอลูมิเนียม ซีรี่ย์ 7000 ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกับที่ใช้ผลิตเครื่องบินทีเดียว จับแล้วก็ยังถนัดมืออยู่ ไม่ได้บางจนเกินไปอย่างที่หลายๆ คนคาด ส่วนเรื่องของดีไซน์ด้านนอกก็ยังความเป็นเอกลักษณ์จาก Moto X ไว้

ส่วนบนมีเซนเซอร์, หูฟัง พร้อมลำโพงตัวเครื่อง พร้อมกับกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อม Flash LED 

                          ส่วนล่างมีโลโก้คำว่า Moto พร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ ที่จัดวางคล้านกับตำแหน่งปุ่ม Home ในบางรุ่น                          

ช่องใส่ซิมการ์ดจะอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง ซึ่งความพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาสำหรับ Moto Z คือสามารถรองรับได้ 2 ซิมการ์ด (Dual Sim) ส่วนเรื่องของหน่วยความจำก็สามารถเพิ่ม Micro SD ได้สูงสุดถึง 2 TB สำหรับเมมในเครื่องอยู่ที่ 64 GB

เรื่องของขนาดนั้นมาด้วยหน้าจอกว้าง 5.5” เรียกว่าดูหนังจากมือถือได้สบายๆ และถ้าพูดถึงเรื่องของความละเอียดแล้วนั้นก็เป็น Quad HD หรือความละเอียด 2560 X 1440 ดูวิดีโอจาก Youtube หรือว่าหนังนั้นเรียกได้ว่าภาพใสกิ๊งเลยทีเดียว  หรือเล่นเกมก็ให้ภาพที่สวยงามไม่แพ้กัน

สำหรับเรื่องของแบตเตอรี่ที่หลายๆ คนนำมาเป็นเหตุผลสำคัญเหตุผลหนึ่งในการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือสักครั้งนั้น แม้ Moto Z จะมีกำลังของแบตเตอรี่อยู่ 2,600 mAh ซึ่งถอดไม่ได้แต่แบตเตอรี่ก็อึดอยู่ได้ตลอดวัน นอกจากนี้ยังมากับคุณสมบัติพิเศษก็คือ Fast Battery Charging ชาร์จแบต 15 นาที สามารถอยู่ได้ถึง 7 ชั่วโมงสำหรับ MOTO Z และ 8 ชั่วโมงสำหรับ MOTO Z PLAY

ส่วนเรื่องของกล้องที่หลายๆ คนรอคอยฟัง มาด้วยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ที่ช่วยปรับโฟกัสให้ภาพคมชัดอีกด้วย และช่วยเพิ่มแสงเมื่อถ่ายในที่ที่มีแสงน้อยได้ดีอีกด้วย พร้อมโหมดพิเศษอย่างภาพ Slowmotion ที่ช่วยเพิ่มความสนุกให้คุณ

ถ่ายอาหารได้คมชัดแม้ว่าจะอยู่ในที่ที่แสงน้อย

และยังมีออปชั่นเสริม Moto Mods ที่เราเชื่อว่าเรียกเสียงว้าว! เหมือนกับที่เราร้องว้าวแน่นอน ที่เราได้ลองมาแล้วก็คือ JBL SoundBoost ลำโพงเสริมที่สามารถแปะเข้าไปกับตัวเครื่องด้านหลังที่ช่วยให้เสียงกระหึ่มเหมาะกับใครที่ชอบใช้โทรศัพท์สำหรับฟังเพลงมากๆ 



- JBL SoundBoost ที่เพียงแปะก็ช่วยให้เสียงกระหึ่ม คมชัด เหมาะกับพกไป ปาร์ตี้ที่ไหนก็ได้ ราคาเพียง 3,990 บาทเท่านั้น

นอกจาก JBL SoundBoost แล้ว Moto Mods ที่เป็นออปชั่นเสริมนี้ก็ยังมี 

- Incipio offGRID Power Pack หรืออุปกรณ์เสริมที่เป็นเหมือน Power Bank ให้กับ Moto Z ราคา 3,990 บาท

- Hasselblad True Zoom ช่วยให้โทรศัพท์มือถือของคุณเป็นเสมือนกล้องคอมแพ็คพกพาได้ทันที ด้วยเลนส์ที่สามารถซูมได้ 10x ทำให้สามารถถ่ายภาพระยะไกลได้โดยยังคงความละเอียด พร้อมแฟลชซีนอน ราคา 9,900 บาท 

- Moto Insta-Share Projector เพียงแค่มีอุปกรณ์เสริมนี้ ก็สามารถฉายภาพลงที่พื้นผนังไหนก็ได้ โดยให้ภาพขนาดใหญ่ได้ถึง 70 นิ้วเลยทีเดียว ราคา12,990 บาท 

ส่วนใครที่กังวลกับที่เสียบของหูฟังแล้วล่ะก็ ภายในกล่องมีสายอะแดปเตอร์สำหรับเสียบหูฟังมาให้ด้วย ไร้กังวลได้เลย

ตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริมที่มาภายในกล่องทั้งหมด

เรื่องของประสิทธิภาพของ Moto Z นั้น เราจะไม่พูดเอง แต่ทดสอบจากแอพลิเคชั่นอย่าง Antutu Benchmark และ Vellamo

รีวิวกันแบบหมดเปลือกอย่างนี้ สำหรับใครที่อยากลองสัมผัสกับ Moto Z ตรงไปจับ ไปลองเล่นกันได้ที่ True Shop, Jaymart และ Tgfone สาขาที่ร่วมรายการ ซึ่งสนนราคาของ Moto Z ก็คุ้มค่ามาทั้งหมดนี้เพียง 23,900 บาทเท่านั้น!

[Advertorial]
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook