เปิดตัว ASUS Zenfone 3 ยังคงน่าใช้แม้แพงขึ้น
วันนี้ ASUS ประเทศไทยเปิดตัวมือถือตระกูล Zenfone 3 ครบ Lineup ที่จะขายในประเทศไทย ซึ่งมีหลากหลายรุ่น ราคาและรูปแบบสาระพัดชนิด
เริ่มจากพระเอกของงานอย่าง ASUS Zenfone 3 รุ่นปกติ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงบอดี้อย่างมากโดยใช้วัสดุโลหะเกรดดีพอสมควร มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 2 แบบคือ 5.2 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD และ 2K มีให้เลือกทั้งคู่ นอกจากนี้ซิมการ์ดยังมีช่องใส่ซิมแบบเป็นถาดตามสมัยนิยม และมีการเปลี่ยนแปลง USB-C เหมือนกับมือถือทั่วไป
ด้านหลังสำหรับ ASUS Zenfone 3 นั้นใช้วัสดุโลหะแบบขัดเงาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ ตำแหน่งดูเรียวยาวกว่าปกติ ถ้าเทียบกับชาวบ้านชาวเมืองเขา พร้อมกับกล้องหลังความเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมกับ Laser Focus และ LED Flash คู่ ภาพรวมถือว่าพลิกจากเดินที่ดูราคาถูก เป็นมือถือที่เกรดดีขึ้นมาก ดังนั้นราคาสูงไม่ต้องตกใจ แต่ได้ความบางระดับ 6.16 มิลลิเมตร เรียกว่าบางอีกนิดก็นผ้าอนามัย
แล้วถ้าเทียบกับ ASUS Zenfone 3 Deluxe จะพบว่าความแตกต่างมีเล็กน้อยแค่ด้านหลังนั้นจะเป็นโลหะแบบด้านเท่านั้น
และ Zenfone 3 Ultra จะเหมือนกับ Zenfone 3 Deluxe แต่ให้ขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าถึง 6.8 นิ้วทำให้ปุ่มสแกนลายนิ้วมือกลับอยู่ด้านหน้าและปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ด้านหลังแทน
ประสิทธิภาพของทั้ง 3 รุ่นนั้น เริ่มจาก ASUS Zenfone 3 และ 3 Ultra จะให้ CPU Qualcomm Snapdragon 625 Octa Core ที่ใช้สถาปัตยกรรมขนาด 14 นาโนเมตร แบบ Octa Core 2.0 GHz พร้อมกับ RAM 3 - 4 GB และความจำในตัว 32/64GB แล้วแต่รุ่น ทั้งนี้ยังเพิ่มความจำผ่าน Micro SD และรองรับ VoLTE และระบบปฏิบัติการ Android 6.0 และรองรับระบบ Quick Charge 3.0 เช่นเคย
แต่ความพิเศษอยู่ที่ ASUS Zenfone 3 Deluxe จะได้ใช้ CPU Qualcomm Snapdragon 821 รุ่นล่าสุดพร้อมกับ RAM 6GB และความจำในตัว 256 GB แต่ไม่สามารถเพิ่มความจำได้ เรียกได้ถ้ารุ่นนี้แพงคงไม่แปลกใจเท่าไหร่
ลูกเล่นที่โดดเด่นของ ASUS Zenfone 3 ทั้ง 3 รุ่นนั้นหลัก ๆ นั้นมีในเรื่องดังนี้
- หน้าจอของเครื่องทั้ง 3 รุ่นเป็นแบบ Super AMOLED พร้อมกับความละเอียดสีที่มากขึ้นทุกจุด
- กล้องหลังแบบ Pixel Master 3.0 ความละเอียด ตั้งแต่ 16 - 23 ล้านพิกเซลมีการพัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น ด้วยระบบ Laser Focus 2.0 และระบบโฟกันภาพที่ไวขึ้น พร้อมกับ LED Flash คู่ เรียกได้ว่ามันดีขึ้นพอสมควร แต่รูรับแสง F1.9
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS แบบ 4 แกน และ EIS สำหรับ Video อีก 3 แกนทำให้ภาพนั้นนิ่งมากขึ้น
- ระบบเสียงที่รองรับ Hi-Res Audio และระบบจัดการเสียงรบกวนพร้อมกับเพิ่มขนาดลำโพงให้ใหญ่ทำให้เสียงดังขึ้นมาก
- Zen UI 3 ที่ปรับปรุงให้สวยงาม เข้าใจง่าย ทำงานได้รวดเร็วและลงตัวกว่าเดิมมาก แต่ลูกเล่นหลัก ๆ ที่สัมผัสมานั้นยังคงเหมือนเดิม
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมออกมามากมายตั้งแต่เคส หลายแบบและมีอุปกรณ์เสริมอย่างลำโพงมากมาย
ส่วนราคานั้นมีดังนี้
- asus zenfone 3 ราคา 11,990 บาท จอ 5.2 นิ้ว ram 3GB ROM 32GB
- asus zenfone 3 14,990 บาท จอ 5.5 นิ้ว พร้อมกับ ram 4GB ROM 64GB (รุ่น Limited แถมหูฟัง Marshall ราคาเท่ากัน)
- asus zenfone 3 ultra จอ 6.8 นิ้ว ram 4GB ROM 64GB ราคา 21990 บาท
- asus zenfone 3 Deluxe มี 2 Spec ราคา 22990 บาท snapdragon 820 ram 6GB ROM 256 และ Snapdragon 821 ram 6GB rom 256GB กล้อง 23 ล้านพิกเซล ราคา 28990 บาท
- asus zenfone 3 max แบตใหญ่ราคา 5990 บาท
- asus zenfone 3 laser rom 32GB ram 4GB ราคา 8990 บาท
เริ่มจำหน่าย กลางเดือนสิงหาคมนี้ แต่ทั้งหมดอาจจะแพงขึ้น แต่สิ่งที่แลกมาคือ วัสดุที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ขึ้นอยู๋กับว่าคุณจะเลือกหรือไม่ แต่ถ้าจะให้ดีรอรีวิวจากทีมงาน Sanook! Hitech เร็ว ๆ นี้ครับ