สำหรับงานนี้ขอขึ้นชื่อว่า สิ้นสุดการรอคอยสำหรับสาวกค่ายอารยธรรมอย่าง โซนี่ กันเสียที กับการเปิดตัวมือถือรุ่นเรือธงของค่ายนี้ที่พึ่งเปิดตัวในต่างประเทศแบบยังไม่ทันจะหมาดดีสักเท่าไหร่ แน่นอนว่ารุ่นที่กำลังพูดถึงคือ Sony Xperia Z5 นั่นเอง โดยคราวนี้มาครบถึง 3 รุ่นด้วยกัน แน่นอนว่าคราวนี้ Sanook! Hitech จะพาไปทำความรู้จักกันในระยะเวลาอันสั้นว่า รุ่นนี้จะสู้กลุ่มเรือธงที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ได้หรือไม่
เรามาเริ่มจากรูปร่างของทั้ง 3 รุ่น โดย Xperia Z5 นั่นมีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบที่ Sony บอกว่าใหม่หมดจด พร้อมกับกล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล ถ้าแยกความแตกต่างของทั้ง 3 รุ่นจะมีจุดเดียวคือหน้าจอด้านหน้าจอ โดย Xperia Z5 จะมีหน้าจอขนาดขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD
Xperia Z5 Compact มีหน้าจอขนาด 4.6 นิ้ว ความละเอียด HD720 สังเกตว่าจะมีขนาดย่อมลงมา
และ Xperia Z5 Premium หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด Full HD แต่รุ่นนี้พิเศษตรงที่แสดงผลภาพวีดีโอและภาพเคลื่อนไหวแบบ 4K ได้
ด้านข้างซ้ายมีช่องใส่ซิมแบบ Nano SIM และ Micro SD
ส่วนประกอบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นช่องเสียบหูฟัง ช่องเสียบ Micro USB ช่องใส่ซิม และปุ่มกดทั้งหมดจะอยู่ตำแหน่งเดียวกับ Sony ทั่วไป แต่ความพิเศษอยู่ที่ปุ่ม Power ที่มีระบบสแกนลายนิ้วมือแค่แตะก็ทำงานแล้ว ถือว่าทำงานได้รวดเร็วใช้ได้ และอยู่ตำแหน่งที่เหมาะกับให้นิ้วโป้งด้านขวากดมากกว่า
ด้านหลังสำหรับ Xperia Z5 จะให้ผิวเรียบแต่ความจริงนั้นเป็นกระจกแบบ Frosted Glass ทำให้ดูแข็งแรงมากขึ้น แต่การสัมผัสที่แท้จริงพูดเลยว่า มันทำไมเหมือนพลาสติกเกินไปหน่อย โดยมีให้เลือก 4 สีคือ สีขาว, สีดำกราไฟต์, สีทอง และ สีเขียว
ในขณะที่ Xperia Z5 Compact จะใช้ทั้งหมดเป็นวัสดุแบบพลาสติกและมีสีสันที่จี้ดได้ใจ ไม่ว่าจะเป็นสีแดงคอรัล หรือจะเป็นสีเหลือง ส่วนคนที่ชอบเรียบ สีดำกราไฟต์(จะออกสีเทาหน่อย) และสีขาว ยังมีให้เลือกอยู่
และ Xperia Z5 Premium ความโดดเด่นสุดของรุ่นนี้คือ ผิวข้างหลังเป็นแบบเงาวับโดยมีสีโครเมียม จะสะท้อนเป็นกระจกเงาได้, สีดำ และสีทอง แต่สิ่งที่ 3 รุ่นจะให้มาเหมือนกันคือ กล้องขนาด 23 ล้านพิกเซลโดยใช้เลนส์ Sony G เลนส์กว้าง 24 มิลลิเมตร และกันน้ำตามมาตรฐาน IP65/68 (ลงน้ำได้ไม่เกิน 1 เมตร นานไม่เกิน 30 นาที)
ขุมพลังของ Sony Xperia Z5 ทั้ง 3 รุ่นนี้ใช้แบบเดียวกันคือ Qualcomm Snapdragon 810 MSM8994 Octa Core 1.5 + 2 GHz พร้อมกับ RAM 3GB ความจำในตัว 32GB เพิ่มได้ด้วย Micro SD อีก 200 GB รองรับ 4G, WiFi 802.11 b/g/n/ac Bluetooth V4.1 ระบบปฏิบัติการเป็น Android 5.1.1 เรียกว่าสเปคให้เต็ม การใช้งานเบื้องต้นถือว่าลื่นไหลใช้ได้พอสมควร
จุดเด่นของ Sony Xperia Z5 ทั้ง 3 รุ่นที่ให้มาไม่ได้ต่างกันมาก โดยเริ่มจาก
ระบบสแกนลายนิ้วมือ ที่ให้อยู่ที่ปุ่ม Power สามารถจับการสแกนได้ ใช้งานง่ายและสามารถสแกนได้หลายนิ้ว และ 1 ครั้งของนิ้วสามารถจดจำได้หลายรูปแบบแบบเพื่อความแม่นยำ
ระบบเสียง Hi-Res ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีใช้ได้เมื่อทำงานร่วมกับหูฟังของ Sony
Stamina ระบบประหยัดพลังงานของเครื่องที่สามารถให้เครื่องอยู่ได้นานสุด 2 วัน และถ้าต้องการอยู่ได้นานกว่านี้คงต้องเป็น Ultra Stamina ซึ่งจะตัดระบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั้งหมดทำให้อยู่ได้ราว ๆ 10 วัน
ระบบกล้องหลัง ที่ให้ความละเอียด 23 ล้านพิกเซลพร้อมกับ Exmor RS และมีเทคโนโลยีการถ่ายภาพไม่ว่าจะเป็น 5x Clear Image Zoom ให้การซูม 5 เท่าภาพจะไม่แตกและความละเอียดยังคงครบถ้วน, Hybrid Focus ที่ทำงานโฟกัสได้เร็วในเวลา 0.03 วินาที พร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหว Steady Shot สามารถถ่ายวีดีโอหรือภาพสิ่งให้ช่วยลดการสั่นไหวได้ดีแม้การถ่ายภาพที่แสงน้อยก็ตาม โดยเซนเซอร์รับภาพมีขนาด 1/2.3 และ Sony Lens G F2.0 ก็ตาม จากที่ได้ลองการถ่ายภาพ Mode Superior Auto ทำได้ดีและเรียนรู้สภาพของภาพได้รวดเร็วทำให้การโฟกัสภาพและถ่ายภาพทำได้ดี
แต่ลูกเล่นอย่าง Manual Mode ยังไม่เก่งสู้คู่แข่งยังไม่ได้ และกล้องหน้าทั้ง 3 รุ่นให้ขนาด 5 ล้านพิกเซล แม้ว่าจะจับแสงและคุณภาพดีแล้ว แต่ไม่มีลูกเล่นอย่าง Beauty Mode รวมไปถึงเลนส์ยังกว้างไม่พอเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Sony Xperia Z5)
ส่วนสุดท้ายสำหรับการพรีวิวต้องมาจบตรงที่ราคาของเครื่องกันแล้วว่าทั้ง 3 รุ่นจะราคาเท่าไหร่ เริ่มจาก Sony Xperia Z5 ปกติ มาพร้อมกับ 4 สีคือ ขาว, เขียว, ดำ และทอง กับราคาที่ 24,990 บาท Xperia Z5 Compact มาพร้อมกับ 4 สีคือ ดำ, ขาว, แดงคอรัล และเหลือง จำหน่ายราคา 21,990 บาท ทั้ง 2 รุ่นนี้เปิด Pre-Order และของพร้อมจำหน่ายในกลางเดือนตุลาคมนี้ โดย Xperia Z5 จะ Pre-Order ได้ตั้งแต่วันที่ 1 จนถึงวันที่ 11 ตุลาคม แต่ Xperia Z5 Compact จะ Pre-Order ในวันที่ 1-4 ตุลาคม ในงาน Thailand Mobile Expo เท่านั้น
และรุ่นท็อปอย่าง Sony Xperia Z5 Premium ยังไม่ได้เปิดเผยราคาตอนนี้ มาพร้อม 3 สีคือ โครเมียม, ดำ และ ทอง แต่ทีมงานคาดการณ์ไว้ว่าราคาจะเกินจาก Z5 ไปประมาณ 2,000 - 3,000 บาท และเริ่มจำหน่ายเดือนพฤศจิกายนนี้
สำหรับความคุ้มค่าตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่ที่จะบอกได้ตอนนี้คือ จุดเด่นของมือถือรุ่นนี้อยู่ที่ความที่เน้นเรื่องกล้องมากเป็นพิเศษและตอบโจทย์เรื่องมัลติมีเดียเต็มที่มากกว่า ส่วนผู้ที่สนใจหรือสาวกที่รอเปลี่ยนเครื่องผมแนะนำว่า ถึงเวลาที่คุณรอคอยแล้วครับ ถ้าจะให้ทีมงานฟันธงจริง ๆ รอดูรีวิวฉบับเต็มที่ Sanook! Hitech เร็ว ๆ นี้ครับผม
อัลบั้มภาพ 47 ภาพ