7 สิ่งที่ควรทำหลังมือถือตกน้ำ

7 สิ่งที่ควรทำหลังมือถือตกน้ำ

7 สิ่งที่ควรทำหลังมือถือตกน้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ปกติมือถือกับน้ำ เป็นของที่ไม่ถูกกันอยู่แล้ว ยิ่งเข้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งถือว่า เป็นช่วงเวลายอดฮิตของ มือถือเปียกน้ำ ยิ่งต้องทำให้ผู้ใช้ดูแล สมาร์ทโฟน กันอย่างทะนุถนอมมากขึ้นกว่าเดิม

     ซึ่งใครที่ใช้ มือถือกันน้ำ อย่างเช่น สมาร์ทโฟนแบรนด์โซนี่ ไม่ว่าจะเป็น Sony Xperia Z, Sony Xperia Z1, Sony Xperia Z2 หรือจะเป็น Samsung Galaxy S5 รวมไปถึง Motorola Defy+ คงจะหมดห่วงเรื่อง มือถือเปียกน้ำ กันอย่างแน่นอน เนื่องจาก มือถือเหล่านี้ มีคุณสมบัติในการกันน้ำได้นั่นเอง


     ส่วนมือถือที่กันน้ำไม่ได้ ก็จะมีอุปกรณ์กันน้ำ อย่างเช่น ซองกันน้ำ ที่ปัจจุบัน ได้พัฒนาไปถึงขึ้น สามารถเล่นมือถือได้ รวมไปถึงโทรศัพท์ได้ แม้ว่าจะยังอยู่ในซอง แต่ในบางครั้ง อุปกรณ์เหล่านี้ อาจมีข้อผิดพลาดที่คาดไม่ถึง ทำให้น้ำสามารถเล็ดลอดเข้าไปอยู่ในซองได้ จนทำให้ มือถือเปียกน้ำ ในที่สุด

     แน่นอนว่า ปัญหาเหล่านี้ ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายๆ ท่านคงจะประสบพบเจอกันมาบ้างแล้วอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดี หากเกิดเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ มือถือตกน้ำ หรือต้องสัมผัสกับน้ำ จริงๆ แล้ว ก็ยังพอมีวิธีแก้ไขอยู่บ้าง และทำไม่ยากอีกด้วย มาดูกันครับว่า ถ้าหากมือถือตกน้ำ วิธีการป้องกันน้ำเข้าเครื่อง ต้องทำอย่างไรบ้าง

สิ่งที่ห้ามทำ เมื่อมือถือตกน้ำ


     หลายๆ ท่านเมื่อทำ มือถือตกน้ำ มักจะตกใจจนทำอะไรไม่ถูก อันดับแรกก็คือ ให้ตั้งสติ แล้วรีบหยิบมือถือออกจากน้ำโดยเร็ว เพราะยิ่งมือถือจุ่มในน้ำนานๆ โอกาสที่น้ำจะเข้าไปยังพอร์ตต่างๆ จะมีสูงขึ้น โดยสิ่งที่ห้ามทำ หลังจากหยิบ มือถือตกน้ำ ขึ้นมาจากน้ำแล้ว ได้แก่

- อย่าเพิ่งกดปุ่มเปิด-ปิดเครื่องโดยเด็ดขาด เนื่องจากการกดปุ่มเปิด-ปิด จะทำให้เกิดการลัดวงจร จะทำให้มือถือเสียหายหนักขึ้น

- ห้ามเขย่าหรือสะบัด เพื่อทำให้น้ำออกจากตัวเครื่อง

- ห้ามแกะ หรือแยกชิ้นส่วนตัวเครื่องเด็ดขาด แต่ถ้าหากจำเป็นต้องแกะตัวเครื่องจริงๆ จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่อย่าลืมว่า การแกะตัวเครื่อง จะทำให้หมดประกันทันที

- อย่าพยายามเป่าเพื่อทำให้ตัวเครื่องแห้งเร็วขึ้น ซึ่งวิธีการนี้ จะยิ่งทำให้น้ำ เข้าไปยังชิ้นส่วนภายในได้ และก่อให้เกิดความเสียหายมากขึ้นกว่าเดิม

- ห้ามใช้ไดร์เป่าผมโดยเด็ดขาด เพราะความร้อนจะทำให้ชิ้นส่วนภายในเสียหายหนักขึ้น

วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น เมื่อมือถือตกน้ำ


-  ให้ถอดเคส, microSD Card รวมไปถึงซิมการ์ดออก

-  ถ้าหากเป็น สมาร์ทโฟน ที่สามารถถอดแกะฝาหลังได้ ให้แกะแบตเตอรี่ออกมา

-  ใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชู่ ซับน้ำออก อย่าเช็ดไปมา เพราะจะยิ่งทำให้น้ำที่นองอยู่บนเครื่อง เข้าไปภายในได้ง่าย

-  หลังจากที่ซับน้ำออกแล้ว ให้ใช้วิธีการแบบชาวบ้านๆ ด้วยการนำ มือถือ และอุปกรณ์ต่างๆ วางไว้ในถังข้าวสาร เพื่อช่วยดูดความชื้นที่อาจจะหลงเหลืออยู่ในส่วนที่เราไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยให้วางทิ้งไว้ 2-3 วัน เพื่อให้แน่ใจว่า ความชื้นได้หายไปหมดแล้วจริงๆ

-  หลังจากผ่าน 2-3 วันไปแล้ว ให้ทำอุปกรณ์ทุกชิ้น ประกอบเข้าเหมือนเดิม และลองทดสอบดูว่า ยังใช้งานได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น ระบบสัมผัส, ปุ่มกดใช้งานกดได้ทุกปุ่มหรือไม่, เปิดเพลงเพื่อทดสอบว่า ลำโพงดังเหมือนเดิมหรือไม่, กล้องถ่ายรูปใช้งานได้ปกติเหมือนเดิมหรือไม่ เป็นต้น

-  แม้จะเปิดเครื่องติดแล้ว อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจว่า ตัวเครื่องใช้งานได้เป็นปกติ ให้ลองสังเกตอาการต่อสัก 2-3 วันว่า มีสิ่งผิดปกติหรือไม่

-  ถ้าหากเปิดเครื่องไม่ติด ให้ลองเสียบชาร์จแบตเตอรี่ว่า สามารถชาร์จได้ปกติหรือไม่ ถ้าหากชาร์จไม่เข้า ให้รีบติดต่อศูนย์ หรือช่างผู้ชำนาญ จัดการให้อีกครั้ง

     อย่างไรก็ดี แม้วิธีการเหล่านี้ จะเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้น ในกรณีที่มือถือตกน้ำ แต่ปกติแล้ว เมื่อมือถือสัมผัสกับน้ำ มักจะมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นตามมาภายหลัง ฉะนั้น ทางที่ดี ควรจะป้องกันไม่ให้ มือถือโดนน้ำ ตั้งแต่แรกจะดีที่สุดครับ

แปลและเรียบเรียง : androidpit.com

สนับสนุนเนื้อหา: www.techmoblog.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook