สรุปพฤติกรรมเสี่ยงต่อการโดนจับ-ปรับ ใช้มือถือขณะขับรถ พึงระวังไว้!

สรุปพฤติกรรมเสี่ยงต่อการโดนจับ-ปรับ ใช้มือถือขณะขับรถ พึงระวังไว้!

สรุปพฤติกรรมเสี่ยงต่อการโดนจับ-ปรับ ใช้มือถือขณะขับรถ พึงระวังไว้!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรุปพฤติกรรมเสี่ยงต่อการโดนจับ-ปรับ ใครแชทไลน์, คุยโทรศัพท์ และใช้มือถือขณะขับรถ พึงระวังไว้!

เริ่มจับจริง และปรับจริงแล้ววันนี้ (5 สิงหาคม 2557) สำหรับมาตรการจับ-ปรับ ผู้ขับรถยนต์ที่กระทำความผิด จากพฤติกรรมที่เสี่ยงอันตรายจากการใช้งานโทรศัพท์มือถือ, สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ในขณะที่ขับขี่รถยนต์ โดยเป็นนโยบายที่ทางกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ร่วมกับตำรวจนครบาล ได้ประกาศออกมาล่าสุด หลังจากที่ได้ออกมาตรการ "5 จริง 5 จอม" ไปแล้วก่อนหน้านี้

โดยมาตรการล่าสุดนี้มีชื่อว่า "จับจริงจอมแชท" ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้จับ-ปรับกันเฉพาะผู้ที่แชทขณะขับรถยนต์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้ที่คุยโทรศัพท์ หรือเปิดใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆ บนโทรศัพท์มือถือ ในขณะที่ขับขี่รถยนต์ด้วยเช่นกัน เนื่องจากล้วนแต่เป็นการรบกวนสมาธิในการควบคุมยานพาหนะ และอาจเกิดอันตรายต่อผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนได้โดยง่าย ดังนั้นทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ของเราก็ขอรวบรวมพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการโดนจับมาให้ทุกท่านได้ทราบกัน เพื่อที่ว่าทุกท่านจะพึงระวังเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ

พฤติกรรมของผู้ขับขี่รถยนต์แบบใด ที่เป็นเป้าหมายของการจับ และปรับ?

พฤติกรรมต่อไปนี้ หากใครฝ่าฝืน รับรองว่าโดนจับ และปรับแบบเถียงไม่ขึ้นแน่นอน (มีผลทั้งฟีเจอร์โฟน, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และโน๊ตบุ๊ค)

- แชทไลน์ (Line), WhatsApp, Facebook Messenger และแอปพลิเคชันสนทนาออนไลน์อื่นๆ ในขณะที่ขับขี่รถยนต์
- ใช้มือจับถือตัวเครื่องเพื่อใช้งานโทรศัพท์มือถือ หรือสัมผัสสั่งงานที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันใด หรือฟังก์ชันใดก็ตาม
- ใช้งานสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรือโน๊ตบุ๊ค ในขณะที่ขับขี่รถยนต์
- ใช้งานโทรศัพท์มือถือผ่านอุปกรณ์เสริมที่ช่วยยึดติดตัวเครื่องเอาไว้กับพวงมาลัยรถยนต์
- ใช้งานโทรศัพท์มือถือขณะที่ติดสัญญาณไฟแดง

โดยความผิดเหล่านี้ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2551 มาตรา 43 ซึ่งหากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้ใดมีความผิดที่ชัดเจน จะมีโทษปรับอยู่ระหว่าง 400-1,000 บาท

ใช้ที่ยึดกับพวงมาลัยแบบนี้ก็โดนจับ และโดนปรับได้เช่นกัน


พฤติกรรมของผู้ขับขี่รถยนต์แบบไหน ที่จะได้รับการยกเว้น?

แม้ว่ามาตรการนี้จะดูเข้มงวด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถติดต่อธุระสำคัญในขณะที่ขับรถยนต์ได้เสียทีเดียว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อยกเว้นให้ดังต่อไปนี้

- สนทนาโทรศัพท์ผ่านทางหูฟังสมอลทอร์ค (Small Talk) หรือหูฟังบลูทูธ (Bluetooth Headset)
- สนทนาโทรศัพท์ผ่านทาง Speakerphone ของโทรศัพท์มือถือ โดยไม่ต้องจับถือตัวเครื่อง (Handsfree)
- สนทนาโทรศัพท์ผ่านทางลำโพงบลูทูธภายในรถยนต์
- ใช้งานระบบนำทาง (GPS Navigation) โดยตั้งโทรศัพท์มือถือเอาไว้กับแท่นวางเครื่อง (Car Holder)

สรุปแล้วการใช้งานใดๆ ที่ต้องอาศัยมือไปจับถือตัวเครื่องในขณะที่ขับขี่รถยนต์ ก็ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายของการจับ และปรับในมาตรการ จับจริงจอมแชท” ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นท่านใดที่เคยชินกับพฤติกรรมเหล่านี้ก็คงจะต้องปรับตัวกันเสียใหม่ ซึ่งนอกจากจะเป็นผลดีกับตัวท่านเองที่ไม่ต้องโดยจับ หรือโดนปรับแล้ว ก็จะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับเพื่อนร่วมทาง การจราจรก็จะเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นอีกด้วย และที่สำคัญอย่ามัวพะวงกับมาตรการใหม่นี้เพียงอย่างเดียวจนลืมรัดเข็มขัดนิรภัยก่อนออกรถอย่างเด็ดขาด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook