รีวิว Motorola Moto G รุ่นสองซิม

รีวิว Motorola Moto G รุ่นสองซิม

รีวิว Motorola Moto G รุ่นสองซิม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รีวิว Motorola Moto G รุ่นสองซิม

แม้ว่าโมโตโรลาจะถูกขายให้กับเลอโนโวไปแล้ว แต่การวางขายผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในช่วงสมัยร่มเงาของกูเกิลนั้นก็ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Moto X ที่ขยายเข้าไปจำหน่ายในยุโรป หรือ Moto G ที่เริ่มขยายการจำหน่ายมายังประเทศแถบภูมิภาคเอเชียแล้ว และได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม (เช่นที่อินเดีย จำหน่ายหมดภายในไม่ถึงชั่วโมง)

ที่มาของภาพประกอบ: www.phonearena.com

รีวิวนี้จะเป็นการรีวิว Moto G รุ่นสองซิม (รหัสรุ่น XT1033) ที่จำหน่ายในแถบประเทศเอเชีย (และรวมถึงออสเตรเลียด้วยเช่นกัน) ซึ่งแตกต่างจากรีวิวของคุณ lewcpe อยู่พอสมควร โดยรีวิวนี้จะลงลึกถึงรายละเอียด ทั้งนี้คาดว่าหากมีการนำเข้ามาจำหน่ายในไทย (อ้างอิง) เครื่องที่จะนำมาจำหน่ายคงไม่ต่างมากไปจากนี้ เนื่องจากเป็นรุ่นที่จำหน่ายทั่วเอเชียนั่นเอง

ความนำ

Moto G เป็นมือถือของโมโตโรลาที่มีจุดขายอยู่ที่ความคุ้มค่าต่อราคาในด้านประสิทธิภาพสูงมาก (อ่านสเปคได้ที่นี่) โดยมีเป้าหมายที่เน้นไปยังประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะกับคนที่เข้าไม่ถึงสมาร์ทโฟนกลุ่มเรือธงที่มีราคาสูงมาก อีกทั้งยังต้องการเรื่องของการปรับปรุงซอฟต์แวร์ในเครื่องให้ทันสมัยอยู่ เสมอ (กล่าวคือ ซื้อแล้ว ไม่ต้องร้องเพลง "เรือนแพ") ซึ่งสำหรับ Moto G ในวันเปิดตัวก็มีการรับรองว่าจะได้รับการปรับรุ่นจาก Jelly Bean ไปเป็น KitKat ซึ่งก็สามารถปล่อยตัวปรับรุ่นหลังจากการเปิดตัวได้ไม่นานนัก (รุ่นสองซิมตามหลังอยู่เดือนเศษๆ) ซึ่งทำให้ได้รับคำชมจากเว็บไซต์ต่างๆ มากพอสมควร

สำหรับภูมิภาคเอเชีย แม้ว่าจะมีการระบุรายชื่อประเทศที่ จำหน่ายในวันเปิดตัว ซึ่งมีประเทศแถบเอเชียอยู่ด้วย เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง แต่กว่าจะวางจำหน่ายจริงก็ล่วงหลังจากงานเปิดตัวอยู่สองเดือนเศษ (สิงคโปร์ จำหน่ายวันที่ 16 มกราคม ส่วนฮ่องกง จำหน่ายวันที่ 21 มกราคม) และทุกรุ่นที่นำเอาเข้ามาจำหน่ายในย่านเอเชียจะเป็นรหัส XT 1033 ซึ่งรองรับการใช้งานแบบสองซิมการ์ดทั้งสิ้น (ในรีวิวนี้จะเรียกสลับกันระหว่างรุ่นสองซิม กับ XT1033 โดยแล้วแต่บริบท)

เครื่องที่นำมารีวิวนี้ เป็นเครื่องที่จำหน่ายในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ราคา 1898 เหรียญฮ่องกง ตกประมาณ 8,000 บาท แล้วแต่อัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละวันครับ

บรรจุภัณฑ์และตัวเครื่อง

บรรจุภัณฑ์ของ Moto G ที่จำหน่ายในแถบเอเชียนี้มีขนาดที่สูงและเล็กกว่าบรรจุภัณฑ์ในรุ่นที่จำหน่ายในอเมริกา (ลองดูรีวิวของคุณ lewcpe เปรียบเทียบได้)

IMG_20140203_160043_Watermark

IMG_20140203_160051_Watermark

ด้านในนอกจากแถมที่ชาร์จแล้วยังมีหูฟังแถมมาด้วย

IMG_20140203_160102_Watermark

ภายนอกตัวเครื่องนั้นไม่ได้แตกต่าง Moto G รุ่นซิมเดียวแต่ประการใด ทั้งนี้ รูปแบบการออกแบบทั้งหมด คงแนวทางเดิมจาก Moto X ไว้ทั้งหมด โดยต้องยอมรับว่าสัมผัสนั้นไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเป็นโทรศัพท์มือถือ พลาสติกราคาถูกแม้แต่น้อย นอกจากนั้นแล้วโดยทั่วไปเสียงจากลำโพงดังและชัดกว่า Sony Xperia Z ที่ผมใช้อยู่เป็นประจำอย่างมาก จนรู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปกับ Xperia Z นั้นไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย หากจะเอา Xperia Z ไปเปิดฟังเพลง

IMG_20140203_155647_Watermark

แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ เมื่อแกะฝาหลังเครื่องออกมาแล้ว จะพบช่องใส่ซิมสองช่อง ซ้ายและขวา โดยเป็น Micro-SIM ทั้งคู่

IMG_20140203_155854_Watermark

เมื่อเทียบน้ำหนักและสัมผัสแล้ว Moto G ให้สัมผัสของเครื่องที่แน่น แต่ไม่ได้หนักจนเกินไป และใช้งานได้อย่างสบายๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับ Xperia Z แล้ว ต้องยอมรับว่าความรู้สึกและสัมผัสของ Xperia Z แม้จะหรูหรากว่า แต่ให้ความรู้สึกเปราะบาง (fragile) มากกว่า

ซอฟต์แวร์

เป็นที่น่าเสียดายว่าเครื่องที่ผมซื้อมายังไม่ได้ KitKat ซึ่งถือว่าผิดสัญญาที่ให้พอสมควร แม้ว่าจะมีอัพเดตตามมาทีหลัง ก็ตาม แต่การใช้งานโดยทั่วไปก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่อย่างใด ซึ่งผมก็ได้ทำการอัพเดตให้เป็น KitKat ให้เป็นที่เรียบร้อยในภายหลัง

Screenshot_2014-02-15-12-30-00

ภายใน ซอฟต์แวร์ที่มากับเครื่องนั้นคือ Android ที่แทบจะไม่ได้ปรับแต่งอะไรเลย ยกเว้นโปรแกรม (หรือแอพ) บางตัว เช่น Motorola Migrate (ไม่ได้ใช้) หรือ Motorola Assist ที่ไว้ช่วยจัดการเครื่องอัตโนมัติ อย่างเช่นผมที่ตั้งค่าไว้ว่าหลังสี่ทุ่มจนถึงเจ็ดโมงเช้า เครื่องจะเงียบเสียงทุกชนิด แต่ผมมองว่าการตั้งค่านี้ยังไม่ดีเพียงพอ เพราะซอฟต์แวร์ของโซนี่ที่ชื่อว่า Smart Connect สามารถจัดการได้ดีกว่านี้ (เช่น การตั้งค่าเงียบ จะทำเมื่อถึงเวลา และเครื่องเชื่อมต่อกับที่ชาร์จแล้วเท่านั้น เป็นต้น)

Screenshot_2014-02-15-12-51-33

Screenshot_2014-02-15-12-51-43

FM Radio ไว้สำหรับฟังวิทยุ (ต้องต่อกับหูฟัง)

Screenshot_2014-02-15-12-52-17

หรือคุณสมบัติอย่าง Trusted Devices ที่ถ้ามีอุปกรณ์บลูทูธที่เรากำหนดไว้อยู่ใกล้ระยะของเครื่อง เครื่องจะไม่ทำการล๊อกรหัสผ่านให้

Screenshot_2014-02-15-12-53-11

การใช้งานแบบสองซิม

สำหรับการใช้งานแบบสองซิมนั้น สามารถกำหนดและตั้งค่าได้มากอยู่พอสมควร เช่น กำหนดว่าจะให้เครื่องเข้าถึงอินเตอร์เน็ตผ่านซิมไหน หรือสายที่เรียกเข้าออกจะมาจากเครื่องไหน ส่งข้อความใช้ซิมไหน เป็นต้น

Screenshot_2014-02-15-13-39-33

Screenshot_2014-02-15-13-40-04

Screenshot_2014-02-15-13-40-16

Screenshot_2014-02-15-13-40-40

นอกจากนั้นยังกำหนดความสำคัญได้ด้วยว่าจะให้เครื่องเน้นการโทรหรือเน้นข้อมูล

Screenshot_2014-02-15-13-39-38

อย่างไรก็ดีสิ่งที่ผมพบและเป็นข้อด้อยอย่างหนึ่งของ Moto G รุ่นสองซิม คือ ใช้ 3G ได้ครั้งละซิมเท่านั้น กล่าวคือ หากซิมใดซิมหนึ่งถูกกำหนดเป็น 3G อีกซิมจะเป็นเพียง 2G เท่านั้น ไม่ใช่ 3G พร้อมกันได้ทั้งคู่

Screenshot_2014-02-15-13-39-48

Screenshot_2014-02-15-13-39-53

ในการใช้งานจริง เครื่องจะกำหนดหรือถามเราแต่แรกว่าซิมใดจะเป็นซิมหลัก จากนั้นก็จะไม่ถามอีก ซึ่งเราสามารถตั้งค่าให้ถามเราได้ว่าจะใช้ซิมไหนในภายหลัง เช่น ผม จะกำหนดให้เครื่องถามเสมอว่าโทรออกใช้ซิมไหนในการโทรแต่ละครั้ง เป็นต้น

กล้อง

ต้องยอมรับว่ากล้องของ Moto G ทำออกมาได้ดีพอสมควร และให้ภาพที่สวยในตอนกลางวันพอสมควร อาจจะไม่ต้องถึงระดับที่คมกริบ แต่ถ้าถ่ายอาหารแล้วอัพรูปขึ้นตอนสี่ทุ่มก็อาจจะสร้างความหิวโซให้แก่คนดู ได้เช่นกัน

IMG_20140127_113914641_HDR

IMG_20140127_121831433_HDR

การใช้งานจริง

ผมเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่มอง Moto G ในฐานะเครื่องใช้เล่นเกม Ingress ซึ่งจากประสบการณ์ลองเครื่องแล้วพบว่า GPS ทำงานได้อย่างแม่นยำมาก (แม่นยิ่งกว่า Xperia Z)

ingress_20140205_201101_1

Screenshot_2014-02-08-19-39-44

นอกจากความแม่นยำแล้ว ยังไม่มีปัญหาเรื่องการแสดงผลและความเร็วด้วย ผลที่ได้อยู่ระดับเดียวกับการใช้ Xperia Z ในด้านนี้ ซึ่งยอมรับว่าผมประทับใจมาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออายุของแบตเตอรี่ ที่ถ้าใช้ Xperia Z ในระยะเวลาเท่ากัน ตำแหน่งเดียวกัน และเส้นทางเดียวกันในการเล่นเกม แบตของ Xperia Z จะตกลงไปอย่างรวดเร็วมากภายในเวลาไม่นานนัก ตรงกันข้าม เมื่อใช้ Moto G แบตกลับลดลงไปไม่มากอย่างที่คาด และสามารถอยู่ได้เกือบทั้งวันโดยไม่ต้องพกแบตเตอรี่สำรองขนาดใหญ่ ถ้าจะบอกว่าเป็นเครื่องที่ผู้เล่น Ingress ควรนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ ก็อาจจะไม่ผิดนัก และหากใช้งานทั่วไปแบบไม่ได้เล่นเกม แบตของ Moto G ลดลงช้ามาก และถ้าไม่ใช้งานหนักมาก เมื่อถึงกลางคืน ก็ยังคงมีแบตเตอรี่ค่อนข้างเหลือเฟือพอที่จะใช้ไปถึงกลางวัน วันถัดไปได้ทีเดียว

บทสรุป (และโอกาสเข้าไทย)

IMG_20140203_155622_Watermark

หากถามว่าในช่วงสเปคใกล้เคียงกัน หรือในช่วงราคาระดับนี้ Moto G มีความน่าซื้อหรือไม่? คำตอบจากการใช้มาประมาณสามอาทิตย์เศษ คำตอบก็คือคุ้มค่ามากพอที่จะซื้อ อาจจะถือว่าด้วยประสิทธิภาพต่อราคาและแบตที่สามารถใช้ได้ยาวนานแม้จะใช้งาน ในระดับปานกลาง แต่สิ่งที่ต้องถามหนักๆ มีอยู่สองจุด

หนึ่ง เครื่องสองซิมได้รับอัพเดตที่ช้ากว่าแบบซิมเดียว คำถามคือ มีโอกาสหรือไม่ที่เครื่องสองซิมจะไม่ได้ไปต่อ? (ได้ร้องเพลง "เรือนแพ")
สอง นโยบายของโมโตโรลาภายใต้ร่มเงาเลอโนโว โดยเฉพาะการปรับปรุงซอฟต์แวร์ของ XT1033 เป็นอย่างไร?

ที่ต้องถามในสองสิ่งนี้ เพราะในรุ่นซิมเดียว (XT1032) มีรุ่นที่จำหน่ายเป็น Google Play Edition ซึ่งสำหรับผู้ที่มีความชำนาญ ย่อมหาทางจัดการเปลี่ยนเครื่องธรรมดากลายเป็น GPe ได้อยู่แล้ว แต่ในกรณีของสองซิม ถือว่ามีความแตกต่างออกไปอยู่ทีเดียว

และคำถามอีกอย่างที่น่าสนใจคือ มีโอกาสที่จะเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยหรือไม่? ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการลือออก มาแล้วว่าจะมีการนำเข้ามาจำหน่าย แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าจะมีการเข้ามาจำหน่ายหรือไม่ ซึ่งผมพบสองสิ่งดังกล่าวนี้ภายในกล่องของเครื่องที่ซื้อมาจากฮ่องกง และอาจจะเป็นคำใบ้ว่า เราอาจจะได้เห็น Moto G มาจำหน่ายในเมืองไทย ในอนาคตอันไม่ใกล้ไม่ไกลจากนี้นัก

IMG_20140203_160400_Watermark

IMG_20140203_160331_Watermark

ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ
บทความโดย:

Facebook :

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook