"Make it possible" หัวเว่ยลุยสมาร์ทโฟน ขอขึ้นแท่น 1 ใน 3

"Make it possible" หัวเว่ยลุยสมาร์ทโฟน ขอขึ้นแท่น 1 ใน 3

"Make it possible" หัวเว่ยลุยสมาร์ทโฟน ขอขึ้นแท่น 1 ใน 3
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"Make it possible" หัวเว่ยลุยสมาร์ทโฟน ขอขึ้นแท่น 1 ใน 3

ตลาดโทรศัพท์มือถือของโลกเป็นตลาดที่แข่งกันอย่างดุเดือดและมีการเปลี่ยน แปลงเร็วมาก ไม่ใช่แต่บริษัทเก่าแก่อย่างโนเกียที่ปรับเปลี่ยนตัวเองช้าเกินไปเท่านั้น RIMเจ้าของแบล็คเบอร์รี่อันลือลั่นก็ประสบกับชะตากรรมยากลำบาก ล่าสุด HTC ก็กำลังเจอปัญหา หากดูจากรายงานของบริษัท ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ลดลงเกือบร้อยละ 44 HTC เป็นบริษัทจากไต้หวัน จากรับจ้างผลิตมาสร้างแบรนด์ของตัวเองจนขึ้นชื่อเทียบชั้นสมาร์ทโฟนในตลาด โลกได้ กลับเผชิญกับปัญหาบางอย่างที่สาหัสในตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขันหน้า เก่าไป หน้าใหม่มาหน้าใหม่ที่ประกาศอย่างอหังการล่าสุดคือหัวเว่ย บริษัทจากจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านพื้นฐานโครงสร้างโทรคมนาคม ในขณะเดียวกันก็ตะลุยผลิตอุปกรณ์สารพัดแบบ ทั้งรับจ้างผลิตและผลิตขายเอง

หัว เว่ยเข้ามาในตลาดสมาร์ทโฟนด้วยแบรนด์ของตัวเอง ปีที่แล้วหัวเว่ยนำสมาร์ทโฟน Ascend P1 ออกสู่ตลาด ขายได้มากกว่า 1 ล้านเครื่องภายในสามเดือน หลังจากนั้นก็ตามมาด้วย Ascend P2 ที่ล้ำไปกว่าตัวเก่าซีอีโอของหัวเว่ย ดีไวซ์ ประกาศเลยว่าจะก้าวขึ้นไปเป็น 1 ใน 3 ของสมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งของโลก อีกสองเจ้าอาจจะเป็นแอปเปิลกับซัมซุง แผนการของหัวเว่ยที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนของโลกเป็นแผน 5 ปี ตอนนี้ผ่านมาปีเศษ ๆ แล้ว มีความสำเร็จในบางส่วน

มีคำถามว่า 5 ปี จะก้าวไปถึงระดับนั้นได้จริงหรือ หากไปดูสโลแกนของหัวเว่ยจะเห็นว่าชัดเจน นั่นคือ "Make it possible" ซี อีโอของหัวเว่ยบอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อคราวไปร่วมงาน Mobile World Congress เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ลองมองย้อนหลังไปห้าปี ตอนนั้น "แอปเปิลก็ยังเล็ก ๆ ซัมซุงก็ไม่ใหญ่โตอะไร คุณบอกไม่ได้หรอกว่าอีกห้าปีจะเกิดอะไร"

แต่ อย่างน้อยที่สุดหัวเว่ยจะเป็น 1 ใน 3 ของระดับสุดยอด และอาจจะเป็นอันดับหนึ่ง น่าสนใจคือวิธีคิดของซีอีโอหัวเว่ย ตรงที่เขาบอกว่าจะเข้าไปชนทุกระดับ ตั้งแต่ไฮเอนด์ลงมาจนถึงโลว์เอนด์ และในทุกระดับนั้น หัวเว่ยจะดีที่สุดในทุกเซ็กเมนต์ของเรา ครึ่งหลังของปีนี้ ในระดับไฮเอนด์ จะมีรุ่นใหม่ออกมาเป็นเรือธงของ หัวเว่ยอีก ตอนนี้เฉพาะ Ascend P2 ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟน 4G ที่เร็วที่สุดในโลกแล้ว ยังจะมีอะไรมากกว่านี้ออกมา นับเป็นเรื่องชวนติดตาม แม้ หัวเว่ยจะไม่ได้เป็นเจ้าของโครงข่ายที่สัมพันธ์กับความเร็วของอุปกรณ์ แต่ก็เป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีเครือข่าย และพัฒนาชิปที่สอดรับกัน รวมทั้งการเป็นผู้ผลิตดีไวซ์ที่ต้องพัฒนาซอฟต์แวร์ไปด้วย ในขณะที่
คู่แข่งรายอื่น ๆ ไม่มีครบขนาดนี้ ซีอีโอหัวเว่ยบอกว่าซัมซุงเป็นเจ้าของเทคโนโนยีดิสเพลย์ "แต่เราเป็นเจ้าของเทคโนโลยีโทรคมนาคม"  มาดูกันว่าอีกไม่ถึงสี่ปี ตลาดสมาร์ทโฟนจะมีหัวเว่ยขึ้นมาอยู่อันกับ 1 ใน 3 หรือไม่

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook