วิเคราะห์ 3DS LL คุ้มค่าควรแก่การรอซื้อหรือไม่

วิเคราะห์ 3DS LL คุ้มค่าควรแก่การรอซื้อหรือไม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วิเคราะห์ 3DS LL คุ้มค่าควรแก่การรอซื้อหรือไม่

ก็เป็นไปตามสูตรสำเร็จปู่นินกันอีกครั้ง จากเมื่อวันที่ ทาง Nintendo ได้ทำการแถลงข่าวผ่านทาง Internet เปิดตัว 3DS LL เครื่องเล่น Handheld Console ตัวใหม่ที่นำเจ้า 3DS มาทำการอัพเกรดให้มีขนาดจอที่ใหญ่ขึ้น เตรียมวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ในราคา 18,900 เยน ก็ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ กันพอสมควร บางคนกำเงินรอกันบ้าง บางคนก็เตรียมขายเครื่องเก่าไปซื้อเรื่องใหม่กัน บางคนก็ยังลังเลว่าจะซื้อ 3DS หรือ 3DS LL ดี วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่าเจ้า 3DS LL นั้นจะควรค่าแก่การรอคอยกันหรือไม่

มาดูกันทางด้านจอที่เป็นจุดขายของเจ้า 3DS LL กันก่อนเลย ซึ่งเจ้า 3DS LL นั้นจะมาพร้อมกับจอที่ใหญ่ขึ้น โดย จอบนจะมีขนาด 4.88 นิ้ว (จากเดิม 3.58 นิ้ว) และ จอล่างขนาด 4.18 นิ้ว (จากเดิม 3.02 นิ้ว) เรียกว่าใหญ่ขึ้นพอควรเลย ซึ่งผู้เล่นนั้นจะได้สัมผัสกับภาพแบบ 3 มิติที่เต็มอิ่มจุใจกันมากขึ้น ไม่ต้องนั่งเพ่งให้ปวดตา ถืงแม้ว่าจอจะมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ว่าความละเอียดนั้นยังคงเท่าเดิม นั่นก็หมายความว่าคมชัดของภาพจะลดน้อยลงจนอาจจะเห็นภาพแตกขึ้น ก็ถือเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับจอขนาดใหญ่ ถ้าเกิดว่าจะทำหน้าจอให้มีความละเอียดมาดยิ่งขึ้นก็คงจะแทบเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากจะต้องเปลี่ยนมาตรฐานการเรนเดอร์ภาพของเกมใหม่ให้มีความละเอียดยิ่งขึ้นซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่

ต่อไปมาดูที่ขนาดตัวเครื่องกัน ตัวเครื่องมาพร้อมกับขนาด 93 x 156 x 22 (กว้าง x ยาว x สูง) ซึ่งจากเดิมมีขนาด 74 x 134 x 21 ซึ่งถ้าเทียบกันแล้ว เจ้า 3DS LL มีขนาดใหญ่กว่า Samsung Galaxy Note ที่มีขนาด 83 x146.9 x 9.7 เสียอีก ซึ่งสำหรับบางคนอาจจะพกพายาก โดยเฉพาะผู้ที่ชอบใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง อาจจะถึงขึ้นตุงหรือว่าฉีกเลยก็เป็นได้ จะลงทุนเปลี่ยนการแต่งกายก็ดูเหนื่อยไปหน่อย แต่สำหรับผู้ที่มีกระเป๋าสะพายใส่ก็คงไม่มีปัญหาเท่าไหร่ ส่วนทางด้านนํ้าหนักนั้นจะอยู่ที่ 336 กรัม หนักกว่า 3DS 101 กรัม แน่นอนว่าเมื่อมีขนาดจอที่ใหญ่ ก็จะสิ้นเปลืองแบตเตอรี่มากขึ้น เลยต้องยัดแบตเตอรี่ใหม่ที่มีความจุมากกว่าเดิมมากับตัวเครื่อง สามารถเล่นเกม 3DS ได้เป็นเวลา 3.5 - 6.5 ชั่วโมง และเกม DS ที่ 6 - 10 ชั่วโมง (จากเดิมเล่นเกม 3DS ได้เป็นเวลา 3 - 5 ชั่วโมง และเกม DS ที่ 5 - 8 ชั่วโมง) ซึ่งข้อนี้ถือว่าตอบโจทย์ผู้เล่นได้ค่อนข้างดี (จะให้เครื่องใหญ่ขึ้น แบตเท่าเดิมก็กะไรอยู่)

3DS LL ตัวนี้อาจจะทำให้แฟนๆ บางคนผิดหวังเล็กน้อย เพราะได้มีแฟนๆ หลายคนคาดไว้ว่ามันจะมาพร้อมกับปุ่ม Analog ด้านขวา ไม่ต้องไปหาซื้อเจ้า Slide Pad มาประกอบร่างเหมือนขบวนการ 5 สีแต่อย่างใด แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น 3DS LL ไม่ได้มาพร้อมกับ Slide Pad ซึ่งแน่นอนว่าแฟนๆ ที่เล่น Monster Hunter Tri G ก็ต้องไปหาซื้อ Slide Pad ของ 3DS LL ที่จะวางขายในช่วงปลายปีนี้มาประกอบร่างกันต่อ นอกจากเป็นการหารายได้จากอุปกรณ์เสริมเพิ่มแล้วยังทำให้เครื่องนั้นมีความลํ่าบึ้กเข้าไปอีก

อีกจุดหนึ่งที่แฟนๆ หน้าใหม่ไม่ค่อยจะรู้สึกดีเท่าไหร่ก็คือ 3DS LL ไม่ได้มาพร้อมกับ AC Adapter ทำให้ต้องซื้อแยก (ไม่ซื้อก็เล่นได้รอบเดียว) ซึ่งมีราคา 1,500 เยน ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะมันสามารถใช้ AC Adapter ของ 3DS, DSi LL, DSi ได้ก็ตาม แต่ถ้าใครที่ไม่เคยซื้อเครื่อง Handheld มาก่อนก็คงจะรู้แย่นิดหน่อย เหมือนกับซื้อโทรศัพท์มือถือแล้วไม่แถมที่ชาร์จมาให้ แต่ก็ยังมีข้อดีที่ว่าการ์ด SDHC ที่แถมมากับเครื่องนั้นมีขนาด 4 GB จากก่อนหน้านี้ให้มากับเครื่อง 3DS แค่ 2 GB

สำหรับสีของตัวเครื่องนั้นทาง Nintendo ได้เปิดตัวมา 3 สีด้วยกัน ได้แก่ Red x Black, Silver x Black และ White ซึ่ง Red x Black และ Silver x Black นั้นข้างในของตัวเครื่องจะเป็นสีดำ ส่วน White นั้นข้างในจะเป็นสีขาว สรุป - ถ้าชอบจอใหญ่ๆ เล่นสบายตา เติ่มอิ่มกับภาพแบบ 3D เลือก 3DS LL - ถ้าต้องการความคมชัดของภาพ เลือก 3DS - ถ้าชอบพกพาสะดวก เลือก 3DS - ถ้าไม่มีปัญหากับการพกพา เลือก 3DS LL - ถ้าต้องการแบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้นเพื่อที่จะเล่นได้นานขึ้น เลือก 3DS LL ถ้าดูจากรูปเกมของ Nintendo ในยุค DS แล้ว คาดว่าในอนาคตน่าจะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่เพิ่มอีก ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่รีบ ก็น่ารอลุ้นกันไปอีกเผื่อจะถูกใจกว่า แต่ถ้ามีเกมในดวงใจแล้ว 3DS LL ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยครับ

สนับสนุนเนื้อหา
โดย PuruZ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook