[รีวิว] Stray น้องแมวพเนจรในโลกไร้อนาคต

[รีวิว] Stray น้องแมวพเนจรในโลกไร้อนาคต

[รีวิว] Stray น้องแมวพเนจรในโลกไร้อนาคต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เหล่าทาสแมวทั้งหลายเอ๋ย ถึงเวลาแล้วที่จะได้สัมผัสกับเกมม้ามืดแห่งปีใน Stray เกมที่จะให้ผู้เล่นได้สวมบทเป็นน้องแมวน้อยน่ารัก ออกเดินทางสำรวจไปในโลกที่ไม่เคยพบเห็นพร้อมกับการร่วมลุ้นตื่นเต้นไปในเรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ โดยตอนนี้เกมได้วางจำหน่ายให้ได้เล่นกันแล้วบน Steam ในราคาเพียง 399 บาทเท่านั้น หรือสามารถเล่นบน PlayStation 4 และ PlayStation 5 ได้โดยที่ไม่ต้องซื้อเกม ผ่านการเป็นสมาชิก PlayStation Plus Extra/Deluxe ซึ่งตัวเกมจะทำมาได้ดีสมราคาคุยจากกระแสของเหล่าทาสแมวในตอนนี้หรือไม่ ลองมาพิสูจน์ความน่ารักนี้ไปพร้อมกันได้เลย

สิ่งมีชีวิตขนพองตัวน้อยได้ใช้ชีวิตเร่ร่อนอย่างแมวจรจัด อยู่ภายในโลกอนาคตอันไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตในโลกปัจจุบัน จนกระทั่งเมื่อแมวน้อยตัวหนึ่งได้พลัดหลงจากกลุ่ม มันจึงได้เดินทางพเนจรไปในเมืองขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงไฟและความมืดหม่น ท่ามกลางเหล่าหุ่นยนต์ที่ถูกทิ้งเอาไว้ให้ใช้ชีวิตอันไร้ซึ่งแสงสว่างและอนาคต ในเรื่องราวนี้เองที่น้องแมวน้อยจะได้พบกับการใช้ชีวิตเพื่อความอยู่รอด และได้มอบบางสิ่งบางอย่างอันอบอุ่นให้กับภายในใจของทุกคน

การเล่าเรื่องของเกมจะเหมือนกับการได้ชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ที่ผู้เล่นจะได้ติดตามการเดินทางของน้องแมวน้อยไปเรื่อย ๆ ว่าจะได้พบเจอกับเรื่องราวและสถานที่แบบไหนต่อไป ภายในเกมที่ต้องควบคุมตัวละครหาทางผ่านแต่ละเหตุการณ์ด้วยตัวเอง ซึ่งน้องแมวน้อยต้องคอยช่วยเหลือตัวละครต่าง ๆ ด้วยการร่วมมือหุ่น AI ขนาดเล็กที่มีชื่อว่า B-12 ซึ่งได้พบเจอและได้เดินทางไปด้วยกันตลอดทั้งเกม ซึ่งหุ่นยนต์ตัวนี้จะเป็นหุ่นยนต์คู่หูคนสำคัญ ในการคอยช่วยเหลือและทดแทนทำในสิ่งที่น้องแมวไม่สามารถทำได้

ระบบการเล่นเบื้องต้นของเกม ผู้เล่นจะได้จำลองบังคับน้องแมวทำสิ่งต่าง ๆ เสมือนกับเป็นแมวจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนที่ การกระโดดหรือมุดลอดไปยังสถานที่ที่ปกติไม่สามารถไปได้ การเข้าไปคลอเคลียที่ขา การขึ้นไปเหยียบคีย์บอร์ดหรือตะกุยรูปบนกำแพง และยังมีลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นการกินน้ำ การฝนเล็บกับสิ่งของ การนอนหลับพักผ่อน และการกดปุ่มเพื่อส่งเสียงร้อง ซึ่งบางอย่างก็เป็นสิ่งที่นำมาใช้ประโยชน์ระหว่างการเล่นได้ด้วย ในการเล่นของเกมจึงทำให้ได้เห็นว่าการเป็นแมวนั้นสามารถทำเรื่องสนุก ๆ อะไรได้บ้าง และทำให้ผู้ที่ชื่นชอบแมวมีความสุขกับการได้เห็นการเคลื่อนไหวของแมวที่น่ารักสมจริง

แต่หากใครที่คิดว่าตัวเกมจะเป็นเกมที่ให้เล่นเป็นแค่น้องแมวสบาย ๆ เดินสำรวจดูบรรยากาศไปเรื่อย ๆ คงต้องบอกได้ว่าคิดผิดเต็ม ๆ เพราะเมื่อเล่นไปถึงจุดหนึ่งแล้ว ตัวเกมก็จะพาผู้เล่นไปพบกับส่วนที่ต้องหาทางไขปริศนา และพบกับช่วงที่ตื่นเต้นจากการถูกไล่ล่าอยู่กว่าครึ่งหนึ่งของเกม ในส่วนนี้เองที่หุ่น B-12 จะเข้ามามีส่วนช่วยเหลือด้วย และถึงแม้ว่าตัวเกมจะต้องใช้วิธีการคิดหาทางผ่านให้ได้ หรือต้องใช้ความสามารถในการเล่นฉากแอ็กชั่นพอสมควร แต่เกมก็ยังอยู่ในระดับที่เล่นได้สำหรับผู้เล่นทั่วไม่ยากเกินไปนัก

โลกของเกมได้วางองค์ประกอบและใส่รายละเอียดต่าง ๆ เอาไว้ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเหล่าหุ่นยนต์ที่มีความหลากหลาย ที่เราจะได้เห็นการทำกิจกรรมชีวิตแตกต่างกันไปเหมือนกับคน รวมถึงสามารถแสดงสีหน้าแทนความรู้สึกออกมาได้เมื่อน้องแมวไปมีปฏิสัมพันธ์ด้วย และยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังหรือกำแพงที่ถูกเขียนเอาไว้ในเมืองที่มีสีสันแบบ Cyberpunk เมื่อรวมกับเกมกราฟิกของเกมที่สวยงามแล้วจึงทำให้ถ่ายทอดบรรยากาศออกมาได้เป็นอย่างดีทีเดียว

ระบบเสียงก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ต้องขอชม เพราะตัวเกมสามารถแยกแยะเสียงรอบทิศทางได้เป็นอย่างดีมาก ผู้เล่นสามารถได้ยินเสียงหยดน้ำทางซ้าย หรือได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ทางขวาอย่างชัดเจน อีกทั้งเพลงประกอบก็ยังให้อารมณ์เข้ากับฉากแต่ละเหตุการณ์เป็นอย่างดี ทำให้ระหว่างการเล่นจึงมีช่วงที่เกิดความรู้สึกสงสัย หรือรู้สึกตื่นเต้นจากการมีส่วนร่วมตามสถานการณ์ไปด้วยได้ตลอด

ตัวเกมใช้เวลาเล่นประมาณ 4-5 ชั่วโมงในการจบเกม ถือเป็นเวลาของเกมที่เล่นแล้วรู้สึกอิ่มกำลังพอดี ผู้เล่นที่อยากเก็บของสะสมให้ครบก็ยังสามารถเลือก Chapter กลับไปเล่นได้เพิ่มเติมอีกเล็กน้อย จุดเด่นอีกอย่างของเกมคือการที่ผู้เล่นบนเครื่อง PlayStation 5 จะสามารถใช้จอย DualSense ระหว่างการเล่นได้สนุกมากขึ้น เพราะตัวเกมมีการส่งเสียงของน้องแมวผ่านทางจอยคอนโทรลเลอร์ได้อย่างสมจริง และยังมีระบบสั่นอย่างเช่นการฝนเล็บหรือจังหวะของการกินน้ำ ที่ทำมาได้ให้ความรู้สึกตามจังหวะได้ดีมากอีกด้วย

Review Score: 8.5/10

  • เกมถ่ายทอดการเล่นเป็นน้องแมวออกมาได้ดี
  • กราฟิกสามารถแสดงองค์ประกอบโลกของเกมออกมาได้อย่างสวยงาม
  • เพลงประกอบเข้ากับบรรยากาศในแต่ละเหตุการณ์ให้มีความรู้สึกร่วมได้
  • การเล่นบน PS5 ด้วยจอย DualSense สามารถทำลูกเล่นระบบการสั่นได้ดีเยี่ยม
  • สามารถเลือก Chapter กลับไปเก็บของสะสมที่เหลือได้หลังจบเกม

  • เกมให้ผู้เล่นมีสมาธิอยู่กับเรื่องราว จึงไม่มีทางแยกหรือเส้นทางลับให้ค้นหาเพิ่มเติมเป็นพิเศษ
  • ไม่มี New Game Plus หรือสิ่งที่ให้ทำเพิ่มเติมหลังจบเกม
  • ไม่สามารถข้ามฉาก Cutscene ได้ ถึงแม้ว่าจะจบเกมแล้วก็ตาม
  • เกมนำเสนอภาพได้ดี แต่ยังไม่มี Photo Mode ไว้สำหรับถ่าายภาพในตอนนี้

หากมองดูเพียงผิวเผินแล้ว Stray เป็นเหมือนเกมที่ให้ผู้เล่นได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศของการเล่นเป็นน้องแมวไปอย่างช้า ๆ แต่แล้วเกมก็ได้ค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นทีละเล็กทีละน้อยระหว่างการดำเนินเรื่องอย่างไม่คาดคิด จนทำให้ผู้เล่นรู้สึกติดตามเป็นกำลังใจให้กับน้องแมวไปตลอดทั้งเกม ในขณะที่ระบบการเล่นอาจจะมีช่วงที่รู้สึกว่ามีจุดที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่แล้ว เนื้อเรื่องของเกมก็ได้พาผู้เล่นมาถึงช่วงบทสรุปสุดท้ายได้ถูกจังหวะก่อนที่จะรู้สึกเบื่อหน่ายตามประสาแมวก่อนพอดี

ต่อให้ผู้เล่นจะไม่ได้เป็นทาสแมวหรือไม่ได้คนที่ชื่นชอบแมวเป็นพิเศษก็ตาม หากได้ลองเปิดใจค่อย ๆ ใช้เวลาสัมผัสกับการนำเสนอเนื้อหาผ่านมุมมองที่แตกต่างจากเกมอื่น ๆ ของ Stray แล้ว ก็จะทำให้ผู้เล่นได้รู้สึกอิ่มเอมกับความรู้สึกครบทุกรสชาติ และรู้สึกอบอุ่นใจในบทสรุปสุดท้ายของเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมด ซึ่งสามารถสร้างความคาดหวังไปสู่อนาคตของเกมต่อไป ด้วยการเดินทางร่วมกับน้องแมวสีส้มพเนจรตัวน้อยนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook