ธุรกิจที่ดี? พ่อค้าหัวใสสร้างรายได้จากการชี้ช่องทางซื้อ PS5 ให้นักรีเซล

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาการขาดแคลน PlayStation 5 และ Xbox Series X ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่แม้แต่เจ้าของอย่าง SONY ยังหาทางแก้ไม่ได้ (และเครื่องที่มีปัญหานั้นจะเป็นทางฝั่ง PS มากกว่าที่ขาดแคลนจริง ๆ) อย่างไรก็ตามมีพ่อค้าหัวใสหลายคนได้กักตุนสินค้าและขายออกแพง ๆ แต่ดูเหมือนจะมีคนใช้ช่องโหว่ของปัญหานี้สร้างธุรกิจใหม่ที่กวาดเอากำไรเข้ากระเป๋าตัวเองเพิ่ม

 

เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยโดย Sky News กับพ่อค้าที่ชื่อ Jack Bayliss โดยเขาได้เปิดบริการรับสมัครสมาชิกรายเดือน ในราคา 30 ปอนด์ (1,350 บาทไทยโดยประมาณ) โดยหน้าที่ของเขาคือ การชี้ช่องทางสถานที่มีสินค้าอย่าง PlayStation 5 และ Xbox Series X ขายในราคาดี และจะช่วยให้เอาไปขายต่อในราคาสูง ๆ เพื่อให้คนที่จ่ายเงินรายเดือนทำกำไรจากจุดนี้

Bayliss เปิดเผยว่า ตอนนี้มีสมาชิกอยู่ 1,500 คน และทำให้เขาได้กำไรมากถึง 45,000 ปอนด์ (ราว 2,013,000 บาทไทย) ในทุกเดือน และได้กล่าวด้วยว่า งานที่เขาทำอยู่ตอนนี้ คือ "ธุรกิจที่ดี" เพราะช่วยทำให้คนทำกำไรจากภาวะเครื่องเกมขาดตลาดได้ "ส่วนตัวผม ทั้ง PS5 หรือ Xbox มันก็คือสินค้าฟุ่มเฟือย และแทนที่คุณจะจ่ายเงินถึง 450 ปอนด์ (ราว 20,250 บาทไทย) คุณสามารถทำเงินได้มากถึง 100 ปอนด์ (ราว 4,500 บาท) ได้ ทำไมคุณจะไม่ทำล่ะ? ลูกค้าของผม (หมายถึงคนที่สมัครสมาชิกกับเขา) ทำกำไรได้มากกว่าเงินเดือนของพวกเขาเสียอีก และยังมีหลายคนที่ทำเงินได้ทั้ง ๆ ที่อายุยังน้อยด้วย"

"สิ่งนี้คือรายได้เสริม และเป็นงานในสิ่งที่หลาย ๆ คนไม่สนใจจะทำและทำรายได้ออกมาได้ พวกเขามีเวลามากขึ้นที่จะอยู่กับครอบครัว บางคนปลดหนี้ได้ บางคนซื้อรถคันใหม่ยังได้เลย แล้วมันผิดตรงไหนล่ะ?" Jack Bayliss กล่าวเสริม

ในรายงานข่าวนั้นระบุว่า หากคำกล่าวของ Jack Bayliss ถูกต้อง นั่นแปลว่าปัญหาของการขาดแคลนสินค้านั้นขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้นและนั่นจะทำให้คนเล่นหาซื้อเครื่องเกมอย่าง PS5 ยากยิ่งขึ้น ซึ่งในเวลานี้ ทางพรรคเดโมแครตในสหรัฐฯ ได้เสนอออกกฎหมายแบนการใช้บอทในการซื้อสินค้า เพื่อไม่ให้บอทแย่งคนซื้อจริงๆ ในการซื้อของได้

"แต่คนที่สมัครสมาชิกกับผม พวกเขาไม่ใช่บอทนะ" Jack Bayliss กล่าวปิดท้ายเมื่อทางสำนักข่าวยิงคำถามนี้กับเขา

สำหรับในประเทศไทยทาง Sony ไทยมีการเปิดขาย PlayStation 5 เป็นรอบ ๆ แต่ทุกครั้งมักจะหมดภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที และปัญหานี้ดูเหมือนจะเป็นทั่วโลกไปอีกนาน ตราบใดที่ปัญหาการขาดแคลนชิปยังคงเกิดขึ้น